
บางคนยังถาม ตอนนั้นที่แยกกัน แยกกันทำไม ?
ลาล่า : "หนูอยู่กับพี่อี๊ดมานานเป็น 10 ปี ก่อนที่จะเซ็นสัญญาด้วยซ้ำไป มันเหมือนเราเห็นทุกอย่าง จนเราอิ่มกับเขา สนุกไปกับเขา มันถึงเวลาที่ต้องแยกย้าย เราต้องโตไปอีกสเต็ปนึงแล้ว"
ลูลู่ : "มันก็เรื่องเดียวกัน เรื่องเงิน ไม่ใช่หรอก ถ้าสมมติเราเรียนอยู่ประถม มันก็ต้องไปมัธยม ขึ้นไปเรื่อยๆ อยู่แล้ว มันต้องอยากเปลี่ยนโรงเรียนบ้าง แต่บังเอิญพ่อเราหวง ไม่ให้ไปโน่นไปนี่ ต้องไปตามทางของเขา"
ลาล่า : "ต้องรายงานตัวแม้กระทั่งจะมีแฟน ครอบครัวของทุกบ้าน 20 กว่าชีวิต อยู่ในใจเขาหมด เขาจะเข้าไปดีไซน์ เข้าไปดูแล"
มีแฟนไม่ได้เลยเหรอ ?
อี๊ด : "มันไม่ขนาดนั้น ผมกำลังมองว่าคนที่เข้ามาจีบน้อง ๆ ส่วนมากจะมาแบบฉาบฉวยส่วนมากก็ไป ผมมองว่าตอนนี้ทำงานเก็บเงินก่อน ถึงมีหนูก็ไม่ได้อยู่กับเขา ต้องเดินทางไปตลอดทุกวัน ที่สำคัญมันจะห่วงจะหวง เราดูแลก็ลำบาก คนในวงก็ไม่อยากให้เป็นแฟนกันด้วย เวลาเล่นคอนเสิร์ตเสร็จห้ามไปเที่ยวไหนต่อ พอมีปัญหาขึ้นมา มันมีนามสกุลโปงลางสะออน ช่วงนั้นมันต้องดูแลภาพลักษณ์ให้บริษัทด้วย ให้วงด้วย มันไม่ใช่ห้ามหรอก มันเป็นกฎ"
ลาล่า : "ตอนนั้นไม่เข้าใจเขาด้วย รู้สึกว่าทำไมต้องหวงต้องห่วง"
ลูลู่ : "ตอนแรกคุยกับล่าก่อน ล่าเราอยากทำโน่นทำนี่ แต่พี่อี๊ดแกหวงแล้วแกห้าม ถ้าสมมติเรารับงานนี้ไป 2 คน แล้วคนอื่นจะอยู่ยังไง แต่เราอยากทำ อยากรับละคร อยากไปโน่นไปนี่ อยากรับรายการ แต่แกไม่ให้เลย"
ลาล่า : "เขาจะต้องเล่นทั้งวงเท่านั้น ติดต่อเขาคนเดียวเขาก็ไม่รับ"
อี๊ด : "เรา 20-30 ชีวิตเนี่ย ถ้าขาดใครคนใดคนนึงไปวงมันเล่นคอนเสิร์ตไม่ได้ อีก 20-30 กว่าคนเขาก็ไม่มีงาน พอไม่มีงาน เงินมันก็บริหารวงยาก ผมก็บอกบริษัท ถ้าไปอย่างน้อยก็อยากไปด้วยกัน อย่างหนัง แต่คนบริหารมันจะยาก มันจะมีที่ไหนรับไปเล่นทั้งวง"
หลังจากที่เราบอกพี่อี๊ดไปแล้วว่าเราจะออกจากวง ?
ลาล่า : "ณ ตอนนั้นคิดว่าเขาเสียใจ พี่อี๊ดเป็นคนทำงานเก่ง แต่พี่อี๊ดไม่เก่งเรื่องบริหารจิตใจ เขาเป็นคนบอบบาง ไม่พูดจะให้ผู้จัดการวงมาพูดกับน้อง ๆ ว่ามันเป็นอย่างนั้น ๆ นะ อะไรแบบนี้ แล้วเขาจะเป็นคนเสียใจง่าย เก็บทุกอย่างแล้วไม่พูด แม้กระทั่งตัวเองไม่สบายก็ไม่พูด เราไปเห็นอีกทีเวลาเราแสดงกับเขา เวลาอยู่ใกล้ ๆ ตาแดง จับตัวร้อนเป็นไฟ ไม่สบายก็คือไม่บอก จะไม่เอาความรู้สึกที่ตัวเองเสียใจบอกน้อง ๆ จะแสดงศักยภาพว่ากูทำงานเก่ง ไม่ให้น้อง ๆ เห็นว่าตัวเองอ่อนแอเลย"
10 ปีที่ผ่านมา 3 คนไม่ได้เจอ ไม่ได้คุยกัน ครั้งแรกที่มาเจอมาคุยกัน เพราะอะไร ?
ลาล่า : "กลับมาเจอพี่อี๊ดในช่องของเขา เรามาทำคลิปเปิดใจกันมั้ย"
ลูลู่ : "ถ้ามีอะไรคุยกัน เปิดใจเลย เพราะโตแล้ว ลู่ว่าสมมติเราไม่ได้ก้าวออกมาจากตรงนั้น มันคงไม่ทำให้ทุกวันนี้ลู่กับล่าโตขึ้น ไม่รู้จักการรับผิดชอบ หรือการเป็นหัวหน้าหรือผู้นำ มันต้องใช้ยังไง ต้องทำยังไงบ้าง"
วันนั้นได้เคลียร์ ?
ลาล่า : "โล่ง เพราะว่ามันมีช่วงที่ได้เจอเขาบ้าง แล้วเราก็จำวันเกิดเขาได้ตลอด พยายามอยากที่จะไปหาในวันเกิดเขา ทุกครั้งที่เราสัมผัสเขาได้ตลอด เขาจะยกมือไหว้เราก่อน พี่ขอโทษนะ เราไม่รู้ว่าอะไรอยู่ในใจเขาที่มันรู้สึกผิดกับน้อง ความรู้สึกที่เขาพูดตลอด เขาอาจจะระเบียบกับเราเยอะเกินไป ทำให้เราไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาจะสื่อสาร ซึ่งน้องจะดื้อ ด้วยความที่เขาเป็นผู้ชาย เราเป็นผู้หญิง เขาจะขอโทษ จะขึ้นต้นคำนี่ตลอด"
ตอนนั้นที่พี่เอ่ยขอโทษ ๆ พี่รู้สึกอะไร ?
อี๊ด : "พี่ไม่รู้ว่าน้องจะโกรธอะไรเรา มีอะไรที่เราทำไม่ดีหรือเปล่า เมื่อก่อนเป็นคนระเบียบจัด นู้นนี่นั่น เพราะเป็นวงของเรา เราถึงทำแบบนั้น แต่ถ้าที่ผ่านมาเราทำอะไรให้น้องไม่พอใจพี่ก็ขอโทษ
รุ่นใหญ่มาขอโทษเราก่อน ขอโทษหลาย ๆ คำด้วย เราฟังแล้วรู้สึกยังไง ?
ลูลู่ : "ได้ปลดล็อค ทุกสิ่งทุกอย่างได้บอกพี่ชายไปแล้วว่าสาเหตุที่เราออกไปมันเป็นแบบนี้นะ เราอยากโตขึ้น อยากทำงานในหลายด้าน ไม่ใช่รอให้พี่ป้อนให้เราอย่างเดียว มันรู้สึกว่าพอเรากลับมาตรงนี้อีกครั้ง เรารู้สึกว่าเราเป็นผู่ใหญ่ แล้วที่สำคัญพี่ชายคนนี้เปลี่ยนไปเยอะมาก เปลี่ยนไปเป็นคนละคน เขาเป็นผู้ชายที่ละมุนไปเลย ใจเย็น ฟังน้องเยอะ ไม่เหมือนแต่ก่อน เขาฟังแต่เขาไม่ทำ"
ลาล่า : "เคยเจอมั้ยคอนเสิร์ตจะขึ้นอีก 10 นาทีเปลี่ยนสคริปต์ใหม่ทั้งแผงเลย บางทีดุน้องบนเวที ล่ากับลู่ยิ้มสู้ไว้ น้ำตาจะไหล"
พอเวลาเปลี่ยนไปก็เปลี่ยนไปเลย เห็นบอกตอนนี้เป็นผู้ชายสายเคป็อปไปแล้ว ?
อี๊ด : "เดี๋ยวนี้ขึ้นเวทีไปมึงจะทำอะไรก็ทำเถอะ"
ลูลู่ : "ยืนดูเฉย ๆ ก็ยังมี"
อีกหนึ่งสาเหตุที่กลับมารวมตัว เคลียร์ใจกัน เพราะกลัวคนจะลืมโปงลางสะออน ?
อี๊ด : "คิดถึงแฟนคลับ ทั้งช่องเราก็พูดถึงตลอด อยากให้กลับมาทำเพลง กลับมาขึ้นเวทีอีก"
ลูลู่ : "ดีใจมาก 10 ปีที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน ไม่ได้ขึ้นร้องเพลงด้วยกัน มันเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์มาก เป็นภาพที่มันลบออกจากสมองไม่ได้หรอก ทุกคนเห็น อี๊ด ลู่ ล่า โปงลางสะออนอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าเวลามันผ่านไป แต่เวลาที่มันหายไปตรงนั้น มันทำให้เรารู้ว่าเราต้องทำยังไง อะไรบ้าง เก็บประสบการณ์ทุกสิ่งทุกอย่างมาทำ สิ่งที่ผ่านมาถ้าหนูทำอะไรผิดกับพี่ ไม่ว่าจะตั้งใจก็ดีหรือไม่ตั้งใจก็ดีที่ทำให้พี่ผิดหวังในตัวหนู หนูก็ขอโทษ หนูรู้ว่าพี่รักหนูแค่ไหน แล้วหนูก็รักพี่ขนาดไหน ขอบคุณทุกสิ่งที่สร้างหนูสองคนขึ้นมา ทำให้ทุกคนได้รู้จัก ก่อนที่ก้าวออกไปทุกคนตราหน้าเราสองคนว่าเนรคุณ หนูไม่รู้ว่าจะพูดคำไหน ไม่อยากแก้ตัว แต่สิ่งที่หนูทำสองคนออกมาคือหนูไม่เคยลืมบุญคุณ หนูไม่เคยลืมคำว่าโปงลางสะออนเลย หนูต้องขอบคุณมากกว่าที่สร้างหนูมาจนถึงทุกวันนี้"
ลาล่า : "ล่าภูมิใจในพี่ชายคนนี้ ตั้งแต่เรียน จนเขาพาน้อง ๆ มาสู่ความสำเร็จวันนี้ เขาสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตน้องหลาย ๆ คนให้อยู่สุขสบาย เปลี่ยนจากเด็กธรรมดา เปลี่ยนจากดนตรีพื้นบ้านให้กลายเป็นที่ฮิตสำหรับทุกโรงเรียน พาเราไปเที่ยว ไปแสดงหลาย ๆ ประเทศ ทุกครั้งที่เราพูดคำว่าโปงลางสะออนเรารู้สึกภูมิใจ วันนี้ต่อให้หนูต้องจากโลกนี้ไป หนูรู้สึกว่ามันจะเป็นที่จารึกจดจำพี่ได้สร้างประวัติศาสตร์ให้กับคนทั้งโลกให้รู้จักคำว่าโปงลางสะออน"
อี๊ด : "สองคนนี้เขาเป็นคนเก่ง เป็นคนมีของ พออยู่ด้วยกันเราจะรู้ว่าเขาเป็นยังไง ถึงจะไปอยู่ที่ไหน เสียงเป็นยังไง หั่นสับ ๆ มาก็จำได้ว่าคือเขาสองคน เพราะอยู่ด้วยกันมาทุกช่วงอายุ เห็นวันนี้เขายืนได้ด้วยตัวเอง เขามีงาน มีธุรกิจของตัวเอง ผมก็ดีใจมีความสุข ยังดีที่เรามีโอกาสได้ไปงานกันอยู่ อาทิตย์ละครั้งสองครั้งก็ยังดี ได้พูดคุยกัน อย่างน้อยทำให้แฟนเพลงที่เป็นแฟนคลับเราได้รู้ว่าน้องสองคนไม่ได้เป็นคนแบบนั้น ที่ผ่านมาสิ่งที่ทำให้น้องเสียใจ แฟนคลับจะรู้แล้วว่ามันเป็นยังไง มันจะเป็นแรงบันดาลใจ เป็นแรงที่จะส่งให้หนูเจริญก้าวหน้าต่อไป ไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ถ้าหนูตั้งใจดี มีความจริงใจกับทุกอย่างที่ทำ พี่ว่ามันเป็นสิ่งที่ส่งให้หนูเจริญต่อไปในวันข้างหน้า"
ที่มา : รายการคุยแซ่บShow