ปมในใจ "ตั๊ก ศิริพร" ทำผิดกับลูกมาตลอด 10 ปี เข้าใจและรับได้เรื่อง "LGBTQ"

"พี่ตั๊ก" คือออกรายการไหนจะมีความคาดหวังเลยว่าต้องสนุก ต้องตลก มีบางวันมั้ย บางทีเราพลังหมด แต่ฉันต้องทำต่อไป ?

"อยากจะบอกว่าปัจจุบัน พี่ตั๊กไม่รับงานร้องเพลงแล้วนะ พี่ตั๊กร้องเพลงมาตั้งแต่อายุ 17 ตอนนี้จะ 52 แล้ว เวลาไปโชว์ตัวอย่างที่วู้ดดี้พูดคนจะคาดหวัง พี่ร้องเสร็จพี่ต้องเอ็นเตอร์เทน จะไปร้องอย่างเดียวไม่ได้ เราจะต้องจอย มันเป็นปัญหาหนักอกพี่ตั๊กมาก ๆ เลย หัวจะระเบิดอ่ะ บางทีไปงาน งานนี้จะเล่นอะไรดีนะ มันเครียด เจอหลากหลายงานเข้ามันก็สะสม ถึงบ้านนี่นอนแผ่หลับลึกเลย จนกระทั่งมันเต็มอิ่มพี่ตั๊กเลยไม่อยากรับงานร้องเพลงแล้วมันเบื่อ" 

 

เมื่อพูดถึงคุณยายจะเป็นเรื่องเซนซิทีฟสำหรับ "พี่ตั๊ก" ?

"วิถีคนต่างจังหวัดคนที่เป็นพ่อแม่ส่วนใหญ่จะทิ้งลูกหลานไว้ให้ยายเลี้ยง ซึ่งพี่ก็เหมือนกัน แม่พี่ก็จะให้พี่ไปอยู่กับคุณยาย ก็จะอยู่กับคุณยายตั้งแต่เด็กเลย เรียกยายว่าแม่ กินนอนกับยาย ท่านไปทำงานก็กระเตงพี่ไปด้วย ความที่บ้านเราไม่ได้เกิดบนกองเงินกองทอง ต้องหาเช้ากินค่ำไปขายของตามงานวัด อาบน้ำไม่มีที่ให้อาบ เข้าห้องน้ำอาศัยห้องน้ำวัด เวลานอนต้องนอนกางมุงกับพื้นดินข้างรถเข็น พี่เติบโตมาอย่างนั้นกับยาย จะเห็นมาโดยตลอดว่าท่านลำบากขนาดไหน แล้วพี่ปฏิญาณกับตัวเองเลยว่าสักวันหนึ่งถ้าเกิดฉันโตมีงานทำ ฉันจะเลี้ยงดูยาย" 

"ใครจะคิดว่า เด็กบ้านนอกคนหนึ่งอย่างพี่มันจะก้าวมาถึงจุดนี้ มันเกิน คาดนะ แล้วทางบ้านกำลังจะดีขึ้น ใฝ่ฝันว่าอีกหน่อยสบายขึ้นจะซื้อบ้านเป็นของตัวเองให้ยายได้อยู่ ไม่ต้องไปขายของตามงานวัดแล้ว แต่ยายก็มาด่วนจากไป คือพี่ยังไม่ให้แกได้สุขสบายเลย มันเลยเป็นปมในใจพี่ตั๊กว่า ยายทำไมไม่อยู่กับเราสักหน่อยกำลังจะดีขึ้นแล้ว บังเอิญว่าวันที่ยายเสียเราไปงานพอดีด้วย แล้วยายอยู่โรงพยาบาล วันนั้นใจเราเป็นอะไรก็ไม่รู้นะ อยู่ดี ๆ คิดถึงแต่ยาย ซึ่งไม่เคยเป็นแบบนั้น ไม่สามารถทำอะไรได้เลย ใจมันกระวนกระวายร้อนรุ่มอยู่กับยายตลอดเวลา ต้องมีอะไรสักอย่าง พี่ขออนุญาตเขากลับบ้านเลยไม่ไปงานต่อ แล้วเชื่อมั้ยพี่ไปทันได้ดูแกเสีย ไปถึงแล้วเสียเลย ทุกวันนี้ยังฝันถึงแกอยู่เลย พี่รักยายที่สุดแล้วค่ะ" 

 

ครอบครัว "พี่ตั๊ก" เป็นครอบครัวที่อบอุ่นมาก เลี้ยงลูกมาอย่างดี ตอนนี้"น้องภู" อายุเท่าไหร่แล้ว ?    

"จะอายุ 21 ปี แล้วนะ เร็วมั้ยล่ะ อยู่มหาวิทยาลัยปี 3 เลี้ยงเขาแบบไข่ในหินแล้วเลี้ยงแบบผิดด้วย โรคซึมเศร้าหลังคลอดพี่ตั๊กเป็นนะ จะห่วงลูกมากกว่าปกติเป็น 100 เท่า จะนั่งร้องไห้แบบไม่มีเหตุผล ไปทำงานใจก็อยู่กับลูก พี่ไม่ให้ลูกทำอะไรเลย พี่จะทำให้ลูกทุกอย่าง แล้วจะเป็นคนที่กลัวเชื้อโรค ตอนนั้นเหมือนคนบ้าโรคจิตอ่ะ เป็นอย่างนั้นจริง ๆ นะ ยอมรับว่าตัวเองผิดนะถ้ามองกลับไป ถ้าวู้ดดี้ไปหาพี่ที่บ้าน พี่จะไม่ให้วู้ดดี้จับลูก กลัวเชื้อโรคอะไรแบบนี้ บ้าบอไปแล้ว พี่ทะเลาะกับผัว ผัวพี่เสียโทรศัพท์มือถือไม่รู้กี่อันแล้ว ปาทิ้งเพราะทะเลาะกับพี่เรื่องลูก พี่จะห่วงลูกมากผิดปกติ วู้ดดี้คิดดูนะพี่อาบน้ำให้ลูกจนลูก 10 ขวบ บ้ามั้ยล่ะ นี่คืออีกหนึ่งปมของพี่ คำว่าพ่อแม่รังแกฉันเอามาใช้คำนี้กับพี่เถอะ มันใช่เลย"

เกิดอะไรขึ้นกับเขา แล้วพี่เห็นจากการที่เลี้ยงแบบนี้ ?

"อันนี้พี่ต้องขอขอบคุณพี่ซูโม่กิ๊ก วันหนึ่งแกเห็นพี่มาถ่ายรายการแล้วพี่ซึมเศร้า หมายถึงทุกคนร่าเริงแล้วพี่เศร้าตลอดเวลา แกเลยเรียกพี่มาคุย วันนั้นเป็นการคุยเหมือนเปิดอกเลยนะ พี่ไม่เคยคุยกับใคร ไม่รู้จะคุยกับใคร ปัญหาตรงนี้กับผัวคุยไม่ได้ คุยกับแม่ก็ไม่ได้เพราะแม่อยู่พิษณุโลก ไม่มีคนที่จะปรึกษาตรงนี้ เหมือนแกมาทลายตรงนี้ให้ ตัดสินใจพูดกับแกแบบเปิดอกเลยน้ำตานี่ไหลพราก เล่าให้แกฟังหมดเลย พี่กิ๊กหนูเป็นอย่างงี้ ๆ หนูเลี้ยงลูกอย่างงี้ ๆ ทำไมหนูทำอย่างงี้ ๆ ตอนนี้น้องภู 10 ขวบแล้ว หนูยังอาบน้ำให้ลูกอยู่เลย พูดแล้วขนลุก" 

"พี่กิ๊กนั่งสอนพี่เลย มึงทำแบบนี้ไม่ได้ มึงรังแกลูกอยู่ แล้วแกก็สอนพี่มึงต้องทำอย่างงี้ ๆ เหมือนแกมาเอาภาระทุกอย่างออกจากพี่หมดเลย พี่โล่ง ที่ผ่านมามันเป็นอย่างนี้เหรอ 10 ปี เราทำแบบนี้กับลูก แล้ววันนั้นคุยกับพี่กิ๊กเสร็จพี่กลับไปปฏิบัติเลย ปกติจะรีบกลับบ้านไปอาบน้ำให้ลูก ทุกคนห้ามอาบ วันนั้นกลับไปบ้านบอกลูกว่า ภูอาบน้ำเองนะลูก (หัวเราะ) เขาก็เข้าไปอาบน้ำเอง แต่ตอนที่เขาอาบน้ำเองพี่แอบไปฟังพูดแล้วน้ำตาจะไหล เขาอาบเองครั้งแรกในชีวิต เขาอาบไปแล้วเขาร้องเพลงไป แสดงว่าที่ผ่านมา 10 ปีเขาทรมานมาก พี่ยืนน้ำตาไหลรู้เลยว่า นี่กูทำกับลูกมาเป็น 10 ปี เขาอาบน้ำเองมีความสุขอ่ะดูสิ แต่พี่ก็ขอโทษลูกนะ พี่เรียกลูกมาแล้วก็ขอโทษเขากับสิ่งที่แม่ทำ แม่ผิดไปแล้ว พี่คุยกับเขาทุกเรื่องเลยนะ เราไม่มีความลับกัน" 

ทุกวันนี้ก็แชร์ทุกเรื่อง เขาก็มาปรึกษา ?

"ใช่ วันหนึงเขาเดินมาพูดกับเรา ซึ่งพี่ก็คิดไม่ถึงเนอะ ลูกเดินมาบอกว่า แม่ผมไม่มั่นใจว่าผมชอบผู้หญิงหรือผู้ชาย เขาเดินมาพูดเองนะ แต่เชื่อ มั้ย มันเป็นคำพูดที่พี่โคตรมีความสุขเลย พี่รู้สึกว่าลูกไม่มีความลับกับเรา ลูกเราไม่กดดันแล้ว ตอนแรกพี่นุ้ยก็อาจจะทำใจไม่ได้อยู่นิดนึงนะด้วยความที่เขาเป็นผู้ชาย เราก็คุยกันนะว่า พ่อเดี๋ยวนี้โลกมันไม่เหมือนสมัยเราแล้วนะ โลกมันไปเร็วมาก ความรักไม่มีการที่จะมาแบ่งอะไรแล้ว ความรักก็คือความรัก ทั้งบ้านพี่เลยนะ ทั้งแม่ น้องสาวพี่ เราคุยกันเปิดอกในครอบครัว แล้วคุยกับลูกว่า ภูลูกจะเป็นอะไรก็ได้ แต่แม่ขออย่างเดียวได้มั้ยลูก ลูกอย่างเป็นภาระให้สังคม อย่าเป็นภาระพ่อแม่ ขอแค่ลูกเป็นคนดี แม่ขอแค่นี้ อาจจะไม่ต้องมาเลี้ยงดูพ่อแม่ก็ได้เราดูแลตัวเองกันได้ แต่ภูต้องห้ามมาเป็นภาระพ่อแม่นะ เคยเห็นมั้ยคนที่โตจนหมาเลี้ยตูดไม่ถึง ทุกวันนี้ยังขอเงินพ่อแม่อยู่เลย อย่างนั้นไม่เอานะ อยากจะเรียนอะไร อยากจะทำงานอะไรตามใจภูเลย ไปมีชีวิตของภู เพราะชีวิตคือชีวิตของภู แม่ให้กำเนิดจริง แต่ไม่ได้เป็นเจ้าชีวิต เราก็แนะนำเขาอยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ"    

เขาปรึกษาเรื่องแฟนไหม ?
"คุยกันหมดค่ะ แต่ตอนนี้ยังไม่มี เขายังไม่เจอที่ถูกใจ" 

 

 

ที่มา : รายการ WOODY INTERVIEW