"โบ TK" เปิดใจ ปิดฉากรักจบชีวิตคู่ 14 ปี ไม่ง่ายกว่าจะทำใจได้ต้องแยกทาง
ช็อกวงการบันเทิงอีกครั้ง กับเรื่องสุดเศร้า ปิดฉากรัก 14 ปี ‘โบ TK’ เปิดใจครั้งแรก เผยสาเหตุเลิกสามี รับเรื่องนี้ไม่ง่าย กว่าจะทำใจได้ต้องแยกทาง หลังใช้ชีวิตแต่งงานร่วมกันมา 11 ปี
เป็นเรื่องราวสุดช็อกในวงการบันเทิงอีกครั้ง เมื่อไอดอลสาวสวย "โบ สุรัตนาวี" ออกมาเปิดเผยว่า ได้เลิกรากับสามี "คิด-ภาษิต ภัทรานุกูล" หลังทั้งคู่แต่งงานกันมา 11 ปี และคบกันมาอีก 3 ปี รวมเป็น 14 ปี ผ่านทางรายการดัง ยอดนิยมอย่างรายการแฉ
โดยเนื้อหาระบุว่า ตนเองได้เลิกลากับสามี มาตั้งแต่กุมภาพันธ์ มีทีมงานถามว่า ไม่มีอักษรย่อเลย ก็ไม่ได้เล่าให้ใครฟัง ถ้าเจอเพื่อน มีคนให้ปรึกษา ก็พอแล้ว ไม่ได้อยากมาแชร์ความทุกข์ให้คนอื่นรู้
โบ สุรัตนาวี ได้ออกมาเปิดเผยว่าได้เลิกรากับสามี คิด ภาษิต ภัทรานุกูล หลังจากแต่งงานกันมา 11 ปี และคบกันมาอีก 3 ปี เป็น 14 ปี ผ่านรายการแฉ โดยว่าเลิกตั้งแต่กุมภาพันธ์ มีทีมงานถามว่า ไม่มีอักษรย่อเลย ก็ไม่ได้เล่าให้ใครฟัง ถ้าเจอเพื่อน มีคนให้ปรึกษา ก็พอแล้ว ไมได้อยากมาแชร์ความทุกข์ให้คนอื่นรู้
“โบรู้สึกว่า เมื่อเลิกกัน ต่างคนต่างมีอิสระกัน ถ้าเจอเยอะ ก็จะมีคนส่งรูปมา ก็บางทีเราอึดอัดที่คนจะมาถาม ก็ไม่เป็นไรแล้ว หรือเห็นโบว์ไปกับใคร ก็ไม่ต้องไปบอกใคร สภาพจิตใจพร้อมแล้ว”
เมื่อถามว่า คบกันมา 11 ปี เกิดอะไรขึ้น
โบ กล่าวว่า มีสาเหตุ เหมือนคู่รักทุกคู่ ตอนเราเริ่มแต่งงานก็อยากให้มันดี ตลอดไป มีเป้าหมายในชีวิต แต่วันหนึ่งมีปัญหา ก็ไปต่อไม่ได้ และเราพยายามเต็มที่แล้ว (ถามว่าใครเปลี่ยนไป) บอกว่า 11 ปี เขาดีทุกอย่าง โบว์ก็ทำดีที่สุด เราต่างคนต่างอุทิศชีวิตให้กัน ณ วันหนึ่งที่รู้ว่า มันไม่ใช่แล้ว คนเราอยู่กัน 24 ชั่วโมง บางทีก็มีบางมุมที่ไม่รู้จักเขาเลยก็ได้
มดดำ ได้ถามอีกว่า 11 ปีไม่รู้เลย เรียกว่ายากมากเลย ขนาดแค่ทำงานด้วยกันยังรู้
โบว์ ตอบว่า ไม่รู้ ที่ผ่านมามันดีตลอด สวยงามมาตลอด ไม่ทะเลาะ วันที่เลิกกันทะเลาะกัน ทะเลาะครั้งแรกในรอบ 11 ปี แล้วเขาก็ไปเลย
"จุดแตกหักในส่วนไหนที่คิดว่าเราไม่ดี ไม่มี(หัวเราะ) คือมันคิดไม่ออก มันเป็นแค่วันเดียวจบเลย เป็นอะไรที่แปลกมากๆ ก็พยายามหาวิธีที่มันดี พยายามหลายๆ อย่างแล้ว แต่ไม่เป็นผลมันไปต่อไม่ได้จริงๆ มันเป็นเรื่องชีวิตคู่ต้องคิดไปในทางเดียวกัน เป้าหมายต้องเป็นเป้าหมายเดียวกัน ในเมื่อเป้าหมายไม่เหมือนกันแล้วก็คงยาก"
“ภาพที่เห็น ก็เชื่อว่าจริง มันสวยงาม แต่ก็มีมุมที่เราไม่รู้ ถ้าความสัมพันธ์มันไปต่อไม่ได้ ก็ต้องคุยกัน” โบว์ กล่าว และว่า ไม่ใช่หมดโปร เรื่องของเขาตอบแทนเขาไม่ได้ แต่ส่วนของโบว์ ก็งงเหมือนกัน
ใช้คำว่า คบซ้อน ได้ไหม ?
โบ กล่าวว่า ไม่ จะพูดว่ามือที่ 3 ไหม คน 2 คน ชีวิตคู่ก็คือ 2 คน ถ้ามันจะมีเรื่องราวอะไรก็ตาม ถ้าคนรักกัน สัมพันธ์ก็ไปได้อยู่แล้ว วันที่เลิกกัน ก็มีหลายๆ ฝ่ายเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็มีจุดที่คุยกันเองไม่ได้
ถามว่าส่วนไหนที่คิดว่าเราไม่ดี โบว์ กล่าวว่า คิดไม่ออก วันเดียว และจบเลย ก็พยายามลองหาวิธีที่ทำให้มันดี พยายามหลายๆอย่างแล้ว แต่ไม่เป็นผล ชีวิตคู่ต้องมีเป้าหมายเหมือนกัน เมื่อไม่ได้มีเป้าหมายเดียวกันแล้ว ก็คงยาก
“ช่วงนั้นแย่”
"โบเป็นคนไม่ยอมรับความจริงที่ว่าต้องเลิกกัน เราก็เลยต้องปรึกษาหมอ ไปหาจิตแพทย์ คือมันนอนไม่ได้ มีอาการแพนิค ผอมลง เครียด พยายามหาทางออกด้วยตัวเอง ไปออกกำลังกาย กินให้ครบ 5 หมู่ เรารู้สึกว่าอกหักเรื่องเล็กสำหรับเรานะ เราต้องรอดดิ"
"แต่พอสุดท้ายแล้วมันไม่ได้ ก็เลยไปปรึกษาจิตแพทย์ ช่วยเรื่องการนอน ยาคลายเครียด มีมีกระบวนการรักษาก็ 6 เดือน หมอบอกอย่างโบสู้อยู่แล้วเดี๋ยวก็หาย 6 เดือน แล้วเราก็เลิกยา ตอนนี้คลีน มันไม่ถึงขั้นเรียกว่าป่วยทางจิต แค่กังวลเป็นความเครียดค่ะ พอวันที่ยอมรับความจริงได้ มันก็ไปต่อได้"
ชีวิตในวันนี้คือโสด?
“โสด จิตใจแข็งแรงดีแล้ว ระยะนาน ความทรงจำเยอะ แต่ก็คืออดีตไปแล้ว”
และว่า “วันหนึ่งก็จะเป็นเพื่อนกันได้”
นอกจากนี้ เธอยังเผยถึงมิตรภาพที่ดีของเพื่อนสาวอีกว่า "จอยซ์" คอยซัพพอร์ทเยอะมาก วันที่ขี้เกียจจะทำงาน ก็แบบใส่ชุดนี้ จากปกติเราดูแลเขา วันที่เราล้ม เขาดูเรา เขาเข้มแข็งมาก เขาบอก เรื่องเรานิดหน่อย เราเห็นเพื่อนที่เข้มแข็ง รู้ว่าเราจะผ่านไปได้ เรามีคนข้างๆ ดูแลเรา ถือเป็นความโชคดีของเรา วันที่เราล้ม เหมือนล้มบนฟูก
"ก็อยากบอกหลายๆ คนว่า ถ้าเห็นคนรอบๆ ตัวเขาเกิดปัญหา บางทีเขาอาจจะไม่แสดงออกให้เราเห็น คือให้เรามีความเห็นอกเห็นใจ เวลาเขาทำตัวไม่น่ารักมันต้องมีสาเหตุบางอย่างอยู่ข้างหลังเขา โบก็เลยเข้าใจคนอื่นมากขึ้น อย่าเพิ่งไปตัดสินใคร เข้าใจเขาแล้วฟังเขาเยอะๆ จิตใจคนเรามันบอบบางมาก เดี๋ยวนี้เราเห็นคนฆ่าตัวตาย คนคิดสั้นกันเยอะมากๆ ถ้าเราให้กำลังใจเขา ช่วยเขาได้ เราอาจจะช่วยชีวิตคนๆ หนึ่งไว้ด้วยคำพูดของเราก็ได้"
ใครที่เป็นวัยรุ่นในยุค 90-2000 ต้องรู้จักสองสาวแห่งวง Triumph Kingdom (อ่านว่า >> ไทรอัมพ์ส คิงดอม) นำทีมน่ารักมากๆ ส ล้านตัวโดย โบ สุรัตนาวี หรือ "โบ TK" ที่มาพร้อมคู่หูดูโอ้ "จ๊อยซ์ TK" หรือ "จ๊อยซ์ พรพรรณ" เป็นอย่างดี
เพราะพวกเธอถือเป็นไอคอนผู้บุกเบิกและนำเทรนด์แฟชั่นให้กับสาวๆ ในยุคนั้น และ 2 สาวสุดน่ารัก ล้ำสมัยกว่าใคร พวกเธอเป็นเจ้าของเพลงฮิตที่หลายคนลุกขึ้นเต้นและร้องตามได้มาจนถึงจนถึงวันนี้
ครั้งหนึ่ง ชื่อ"โบ TK" กลายเป็นบุคคลที่โลกออนไลน์ให้ความสนใจอีกครั้ง เพราะเธอคือหนึ่งในพยานปากเอกในคดีดัง "แตงโม นิดา" เพื่อนสนิทของเธอที่พลัดตกเรือเสียชีวิต
ชวนสาวก "ผ้าเช็ดหน้า" ย้อนดูประวัติ โบ TK กันดีกว่า ว่าเธอเป็นใคร มาจากไหน แล้วที่ผ่านมามีผลงานโดดเด่นอะไรกันบ้าง?
แง้มประวัติ โบ TK หรือ โบ สุรัตนาวี
โบTK มีชื่อจริงว่า "สุรัตนาวี ภัทรานุกุล" (นามสกุลเดิม สุวิพร) เธอคนนี้เกิดวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2524 ภูมิลำเนาเป็นคนกรุงเทพมหานคร ส่วนสูง 168 เซนติเมตร จบการศึกษาระดับประถมและมัธยมตอนต้นจากโรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์ จากนั้นมาเรียนชั้นมัธยมปลายที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก คณะนิเทศศาสตร์ เอกโฆษณา มหาวิทยาลัยกรุงเทพ และระดับปริญญาโทจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เช่นเดียวกัน
โบTK หรือ โบ สุรัตนาวี เป็นลูกสาวคนที่ 3 ของครอบครัว เธอมีพี่ชายสุดหล่อสองคน
ก่อนหน้านี้เธอนับถือศาสนาพุทธ ภายหลังเปลี่ยนไปนับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์จากคำแนะนำของ บอย โกสิยพงษ์ เจ้าของค่ายเพลงเบเกอรี่มิวสิค!!
โบ สุรัตนาวี เริ่มมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในวงการบันเทิงครั้งแรก เมื่อประมาณปี 2542 จากการเป็นนักร้อง วง “ไทรอัมพ์ส คิงดอม” ในสังกัด Dojo City ค่ายลูกของเบเกอรี่มิวสิค โดยหลาย ๆ คนมักจะติดเรียกชื่อเธอว่า โบ TK หรือ โบ ไทรอัมพ์ส คิงดอม ซึ่งคู่ดูโอ้ โบ-จ๊อยซ์ ถือเป็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จมาก มีเพลงฮิตที่ในยุคนี้ก็ยังคงเปิดตามสถานบันเทิงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเพลง ผ้าเช็ดหน้า, อย่าเข้าใจฉันผิด, อ้วน, อยู่นาน ๆ อีกนิด, ล่ำบึ้ก เป็นต้น
กระแสโด่งดังของทั้งสองสาว ด้วยส่วนหนึ่งมาจากบุคลิกที่สดใส และสไตล์แฟชั่นการแต่งตัวที่ลบภาพเดิม ๆ ของนักร้องในยุคนั้น โดยหันมาในชุดเสื้อสายเดี่ยว เกาะอก กางเกงขาสั้น พร้อมรองเท้าส้นตึกเปรี้ยวจี๊ดจ๊าด ขัดใจคุณแม่ที่แท้ทรู จนขึ้นแท่นแฟชั่นไอคอนของวัยรุ่นย่านสยามสแควร์ และจากนั้นไม่นานสาวไทยก็พากันแต่งตัวตามโบและจ๊อยซ์กันทั่วทั้งประเทศ จนพวกเธอได้รับฉายาว่าเป็น “เจ้าแม่สายเดี่ยว” นั่นเอง
นอกจากการร้องเพลงแล้ว โบ TK ยังมีผลงานการแสดงด้วย ทั้งละคร ซีรีส์ และภาพยนตร์ที่เป็นที่จดจำอย่าง Goal Club เกมล้มโต๊ะ (2544) รวมถึง มิวสิกวิดีโอและโฆษณาอีกมากมาย ก่อนที่จะประกาศพักวงและแยกย้ายกันในปี 2544 เพื่อไปใช้ชีวิตในเส้นทางของตัวเอง
จากนักร้องสาวหน้าใส ขวัญใจวัยรุ่นยุค 90 มาถึงวันนี้ โบ สุรัตนาวี ก็ยังคงเป็นศิลปินในดวงใจของใครหลาย ๆ คน แถมยังน่ารักเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ต้องมอบตำแหน่ง Queen of Idol ให้เธอไปครอง!!
ขอขอบคุณเครดิตภาพ : Instagram kiddybo