svasdssvasds
เนชั่นทีวี

บันเทิง

"แบงค์ ธิติ" ยอมเปลี่ยนเพื่อความท้าทายกับบทโจรขี้แพ้ในภาพยนตร์ RedLife 

"แบงค์ ธิติ" ได้เปิดใจเล่าเรื่องราวการทำงานเบื้องหลัง การเปลี่ยนแปลงตัวเองและความท้าทายของการรับบทโจรกระจอกขี้แพ้ในภาพยนตร์เรื่อง RedLife 

กระแสตอบรับดีไม่น้อยหลังจากเข้าฉายไปในโรงภาพยนตร์ เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมาสำหรับ ‘RedLife เรดไลฟ์’ หนังรักฟิลดาร์กที่บอกเล่าเรื่อง เรื่องราวของสองหนุ่มสาวที่โลกลืม ”ส้ม”  (ซิดนีย์ สุพิชชา) ลูกในโอวาทของโสเภณีข้างถนน ที่เชื่อว่า “รักแรก” ที่เธอได้พบจะพาเธอออกจากโลกที่แสนเกลียดชังได้ เช่นเดียวกับ “เต๋อ” (แบงค์ ธิติ) โจรกระจอกนักฉกชิงวิ่งราวย่านสถานีรถไฟ ที่พร้อมปล้นทุกอย่างเพื่อฉุดยื้อ “รักเดียว” ของเขา แม้ว่ามันอาจจะไม่มีอยู่จริง  

 

"แบงค์ ธิติ" ยอมเปลี่ยนเพื่อความท้าทายกับบทโจรขี้แพ้ในภาพยนตร์ RedLife 

 

แบงค์-ธิติ มหาโยธารักษ์  นักแสดงผู้เกลียดความพ่ายแพ้แต่ต้องมารับบทโจรขี้แพ้ใน RedLife เต๋อ’โจรกระจอกที่หลงรักหญิงสาวคนหนึ่งอย่างหัวปักหัวปำอยากจะพาคนรักไปสู่ชีวิตที่ ดีดั่งฝัน แต่มันก็เป็นเพียงความฝันที่คนขี้แพ้อย่างเต๋อไม่มีทางไปถึง“การรับบทเต๋อทำให้เรามองเห็นเฉดสีของมนุษย์มากขึ้น”  

 

"แบงค์ ธิติ" ยอมเปลี่ยนเพื่อความท้าทายกับบทโจรขี้แพ้ในภาพยนตร์ RedLife 


‘แบงค์-ธิติ มหาโยธารักษ์’ ไม่ใช่ชื่อใหม่ในวงการภาพยนตร์ 3 ปีผ่านไป หลังจากผลงานการแสดงเรื่องล่าสุดในที่สุดเราก็ได้เห็นใบหน้าของแบงค์ปรากฏอยู่บนโปสเตอร์ภาพยนตร์อีกครั้ง คงไม่ผิดหากจะบอกว่า นี่คือการพลิกบทบาทการแสดงครั้งสำคัญของแบงค์เขาต้องตัดผมสกินเฮด ลดน้ำหนักตัวเองจนผอมโซปรับเปลี่ยนนิสัยจากเด็กหนุ่มผู้ไม่ชอบความพ่ายแพ้ สู่บทบาทของโจรขี้แพ้ที่ไม่เคยจะสัมผัสชัยชนะเลยสักครั้ง โดย แบงค์-ธิติ ได้เปิดใจเล่าเรื่องราวการทำงานเบื้องหลัง การเปลี่ยนแปลงตัวเอง
และความท้าทายของการรับบทโจรขี้แพ้ในภาพยนตร์เรื่อง RedLife 

 

"แบงค์ ธิติ" ยอมเปลี่ยนเพื่อความท้าทายกับบทโจรขี้แพ้ในภาพยนตร์ RedLife 

 

 

บทบาทของคุณในแต่ละเรื่องก็ดูจะไม่เหมือนกันเลย

เหตุผลที่เราเลือกรับหนังน้อยเพราะว่าต้องการเปลี่ยนแปลงคาแรกเตอร์ด้วยเราเลยอยากจะรับแค่บทที่อยากจะแสดงและสามารถให้เวลากับมันได้จริงๆเพราะแต่ละบทบาทที่เข้ามามันคือโอกาสโอกาสที่คนจะได้เห็นการพัฒนาและความเปลี่ยนแปลงของเราในแต่ละผลงานเราเลยไม่อยากจะเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในโปรเจกต์ที่ตัวเองยังไม่พร้อมเล่นจริงๆ

 

แล้วอะไรคือเหตุผลที่ทำให้คุณเลือกเล่นหนังเรื่อง ‘RedLife’ 

เพราะคาแรกเตอร์เลย บทของเต๋อมันท้าทายทักษะการแสดงของเรามากๆจนทำให้เรารู้สึกว่าอยากจะทุ่มเทช่วงเวลาหนึ่งของชีวิตให้กับตัวละครนี้และหนังเรื่องนี้

 

 

ครั้งแรกที่ได้รู้จัก ‘เต๋อ’ คุณตีความตัวละครนี้อย่างไร

เต๋อเป็นตัวละครที่น่าสงสาร ทำไมชีวิตของมนุษย์คนหนึ่งต้องเจอเรื่องราวแบบนี้หรือต้องมาอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมแบบนี้ เราสนใจว่า ทำไมเต๋อถึงคิดแบบนั้นเลือกทำแบบนี้ แล้วชีวิตที่ผ่านมาเขาผ่านอะไรมาบ้างความสงสัยเหล่านี้ทำให้เราอยากเข้าไปทำความรู้จักตัวละครนี้มากยิ่งขึ้น

.

"แบงค์ ธิติ" ยอมเปลี่ยนเพื่อความท้าทายกับบทโจรขี้แพ้ในภาพยนตร์ RedLife 

.

 

กดดันไหมเมื่อต้องกระโดดมารับบทตัวละครที่คุณไม่ได้คุ้นเคยกับแบ็กกราวด์ชีวิตเขาเลย


ท้าทายมากกว่า อีกอย่างคือมันทำให้เราได้เห็นภาพของสังคมที่แตกต่างออกไปจากสภาพแวดล้อมที่เราเคยอยู่มันทำให้เราตระหนักชัดเลยว่า ความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยมันมีมากน้อยแค่ไหน


และคำว่าโอกาสของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันอย่างไร

การรับบทเต๋อทำให้เรามองเห็นเฉดสีของมนุษย์มากขึ้น

 

คุณมีกระบวนการทำความเข้าใจ ‘เต๋อ’ อย่างไร

การที่เราจะเป็นนักแสดงที่ดีได้ เราต้องเชื่อก่อนว่าตัวละครตัวนั้นมีตัวตนจริงๆเราเลยต้องจินตนาการขึ้นมาว่า เต๋อเป็นคนแบบไหน เกิดในครอบครัวแบบใดมีพี่น้องกี่คน ถูกเลี้ยงดูมายังไง กิจวัตรประจำวันในชีวิตปกติมันมีอะไรบ้างหรือเพลงที่เขาชอบ อาหารที่เขาชอบกิน ไปจนถึงมุมมองความรักซึ่งพอเราสร้างเรื่องราวเหล่านี้ขึ้นมาได้แล้วเราก็จะเริ่มเชื่อและพร้อมจะลงไปอยู่กับเรื่องราวของเต๋อจริงๆ


มีเรื่องที่ ‘แบงค์ ธิติ’ กับ ‘เต๋อ’ คิดไม่ตรงกันบ้างไหม

เยอะเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นมุมมองของการใช้ชีวิต การโหยหาโอกาสหรือการตัดสินใจเพราะแม้ว่าเขาจะอยากทำงานเพื่อพาตัวเองออกไปจากสังคมแบบนั้นทำงานเก็บเงินเพื่อพาคนรักออกไปมีชีวิตที่ดีขึ้นแต่พอโอกาสที่เข้ามาถึงมันมีน้อยมากมันเลยทำให้เขาไม่สามารถเลือกงานที่สุจริตได้หรือกระทั่งวุฒิภาวะของเขาที่ไม่สอดรับกับการทำงานบางประเภทหรือกระทั่งการโหยหาความสุข
ที่บางครั้งในช่วงชีวิตของเต๋อเขาอาจไม่เคยได้พบเจอกับคำว่าความสุขเลยด้วยซ้ำมันจึงไม่แปลกที่เราจะได้เห็นตัวละครนี้พยายามแสวงหาวิธีที่จะหลบหนีจากความเป็นจริงบ้าง แม้จะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ก็ตาม

 

"แบงค์ ธิติ" ยอมเปลี่ยนเพื่อความท้าทายกับบทโจรขี้แพ้ในภาพยนตร์ RedLife 


ประเด็นหนึ่งที่หลายคนพูดถึงเกี่ยวกับการแสดงของคุณใน RedLife คือ


เพราะชีวิตของเต๋อไม่ได้มีเป้าหมายมันแตกต่างจากเราที่วางเป้าหมายชีวิตไว้มากมายเพราะเต๋อแทบจะไม่เคยมีความฝันเลยด้วยซ้ำ เวลาที่เรามองเขาเราเห็นเด็กคนหนึ่งที่ไม่มีอนาคต ไม่มีความฝันไม่มีกระทั่งความอยากที่จะพิสูจน์ตัวเองด้วยซ้ำมันแตกต่างจากแววตาของเราอย่างสิ้นเชิงเลย เพราะแววตาของแบงค์ ธิติ
คือแววตาของคนที่ชอบเอาชนะ ต้องการพิสูจน์ตัวเอง ต้องการที่จะพุ่งชนสิ่งต่างๆสวนทางกับเต๋อที่แววตาของเขามีเพียงความว่างเปล่าจากเรื่องราวในอดีตที่เขาได้เผชิญมา

 


แล้วมีจุดไหนที่คุณคิดว่า ‘แบงค์กับเต๋อ’ เหมือนกันบ้างไหม

มันน้อยจนคิดไม่ออกเลย เพราะอย่างในเรื่องมุมมองความรักก็แตกต่างกันแล้วเต๋อคือตัวละครที่ต้องการใครสักคนเป็นที่ยึดเหนี่ยวเพื่อให้รู้สึกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร ซึ่งจริงๆ แล้วเขาอาจไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าความรักคืออะไรไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เขารัก มายด์จริงๆ ไหม หรือมันเป็นแค่การยึดติด แต่สำหรับเราความรักคือการคอยซัพพอร์ตกันและกัน ไม่ได้คาดหวังว่าอีกฝ่ายจะต้องทำในสิ่งที่เหมือนกับเราเพราะท้ายที่สุดแล้วเราก็แค่อยากจะอยู่ในช่วงเวลาที่เขามีความสุขและช่วงเวลาที่เขาต้องการใครสักคนแค่นั้นเอง

 

ถ้าคุณสามารถกลายเป็นเต๋อได้หนึ่งวันคุณคิดว่าสิ่งแรกที่จะนึกถึงเมื่อลืมตาตื่นคืออะไร

ยากมากเลย เพราะมันดูจะทำอะไรก็ยากไปหมด แต่ถ้าเราได้เป็นเขาเราคงจะพาเต๋อเดินออกไปในที่ซึ่งไกลออกไปจากที่เขาอยู่ ให้เขาได้ออกไปเห็นว่ามันยังมีสังคมแบบอื่นๆ อยู่ เผื่อว่าในวันต่อมาที่เราออกจากร่างเต๋อไปแล้ว สิ่งต่างๆที่เขาได้เห็นจะสร้างความเปลี่ยนแปลงบางอย่างในตัวเขาหรืออาจทำให้เขาอยากหาหนทางที่จะหลบหนีออกจากชีวิตแบบนั้น

 


อยากรู้ว่า การได้แสดงใน ‘RedLife’ สำคัญกับคุณอย่างไร

เราคิดว่าทุกๆ การแสดงที่ผ่านมาสำคัญกับอาชีพนักแสดงของเรามากๆ นะเพราะถ้าเกิดมีใครสักคนมาเห็นวิธีการแสดงของเราที่เปลี่ยนแปลงไปการแสดงในเรื่องใหม่ไม่ได้เล่นเหมือนเรื่องก่อน มันก็จะยิ่งสร้าง challengeให้กับเรา ซึ่งการรับบทเต๋อใน RedLife ก็ถือเป็นอีกบทบาทสำคัญนะเพราะเราเปลี่ยนแปลงตัวเองเยอะมาก เราไม่เคยตัดสกินเฮดมาก่อนแถมยังต้องลดน้ำหนักลงเยอะมากๆรวมถึงการพยายามทำความเข้าใจกับคาแรกเตอร์ที่แตกต่างไปจากตัวเองมากๆเรารู้สึกว่าตัวเองได้เล่นเป็นเต๋ออย่างเต็มที่สุดๆ เท่าที่จะทำได้แล้วซึ่งพอย้อนมองกลับไป มันไม่มีฉากไหนเลยนะที่รู้สึกเสียดายเพราะเราทำเต็มที่มากๆ

 

"แบงค์ ธิติ" ยอมเปลี่ยนเพื่อความท้าทายกับบทโจรขี้แพ้ในภาพยนตร์ RedLife 

 


สำหรับคุณ RedLife คืออะไร

เรารู้สึกว่ามันเป็นสัญญาณอันตราย เป็นจุดดิ่งสุดของชีวิตเราเคยไปดูหมอดูว่าถ้ากราฟเราตกไปตรงนี้แล้วเราจะพาตัวเองขึ้นไปยังจุดที่สูงกว่าเดิม แต่พอได้ยินคำว่า ‘RedLife’แล้วมันเหมือนเป็นจุดหนึ่งของชีวิตที่มืดบอด อันตรายไม่สามารถหาทางออกได้อีกแล้ว

 

ชีวิตที่ผ่านมาเคยเจอจุดที่เรียกว่าเป็น RedLife ไหม

เคยเจอในเรื่องของปัญหาการแสดงมีช่วงหนึ่งที่เรารู้สึกว่าตัวเองเล่นแบบเดิมตลอดแล้วก็ไม่รู้ว่าต้องแก้ไขยังไงจะต้องพัฒนาตัวเองแบบไหนถึงจะสามารถแสดงในแบบอื่นๆ ได้ เหมือนอยู่ๆก็มาเจอทางตันของการแสดงตอนนั้นเราเลยไปลงเรียนคอร์สการแสดงสาธารณะกับคนทั่วไปเลยซึ่งมันก็ทำให้เราได้เห็นการแสดงของคนอื่นๆที่แตกต่างไปจากการเวิร์กช็อปกับนักแสดงด้วยกัน
แล้วมันก็ประจวบเหมาะพอดีกับที่เราก็มีประสบการณ์ชีวิตมากขึ้น
ได้ไปเจอสังคมที่แตกต่างมากขึ้น มันเลยทำให้เข้าใจว่าการที่จะเป็นนักแสดงที่ดีได้นั้น ประสบการณ์ชีวิตก็เป็นเรื่องสำคัญเหมือนกัน


ตอนนั้นเคยคิดจะเลิกเป็นนักแสดงไปเลยไหม

อะไรคือสาเหตุที่ทำให้คุณยังอยู่ในสายอาชีพนี้ต่อไป
เราแค่อยากเอาชนะ คือพอเราไม่รู้ เราก็จะยิ่งอยากรู้ว่าทำไมเราถึงไม่รู้ทำไมเราถึงแก้ไขสิ่งนี้ไม่ได้ มันเลยทำให้เราตั้งเป้ากับตัวเองว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราต้องข้ามจุดนี้ไปให้ได้ เราต้องสู้กับมันให้ได้เราต้องหาคำตอบให้ได้ว่ามันเป็นเพราะอะไรเราถึงติดอยู่ตรงนี้เราแค่อยากเอาชนะปัญหาที่เกิดขึ้นกับตัวเองในตอนนั้น



อยากรู้ว่าคุณเข้าใจความพ่ายแพ้ของเต๋ออย่างไรบ้าง

ทุกการแข่งขันต้องมีความพ่ายแพ้อยู่แล้ว เราเองก็เคยเฟลจากความคาดหวังไม่ว่าจะเป็นความคาดหวังเล็กๆ น้อยๆ หรือว่าความคาดหวังที่ยิ่งใหญ่ซึ่งมันสามารถหยิบจับมาเป็นวัตถุดิบในการแสดงได้เสมอประสบการณ์ในชีวิตเลยสำคัญมากๆ ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกเล็กๆ ในชีวิตประจำวันหรือว่าความรู้สึกก้อนใหญ่ๆ เหล่านี้มันสามารถหยิบมาใช้ในการแสดงได้ทั้งหมด

 

"แบงค์ ธิติ" ยอมเปลี่ยนเพื่อความท้าทายกับบทโจรขี้แพ้ในภาพยนตร์ RedLife 

 


ในวันที่คุณพ่ายแพ้ คุณบอกตัวเองว่าอย่างไร
เราต้องชนะ เราต้องไม่แพ้


แล้วในวันที่เต๋อพ่ายแพ้ คุณอยากจะบอกอะไรเขา

ไม่รู้เหมือนกันนะ เราก็คงให้กำลังใจเขาแหละ เพราะตราบใดที่เรายังไม่ตายมันก็ต้องสู้กันต่อไป ชีวิตคนเราจะจบก็ต่อเมื่อเราตาย

 

 

"แบงค์ ธิติ" ยอมเปลี่ยนเพื่อความท้าทายกับบทโจรขี้แพ้ในภาพยนตร์ RedLife