svasdssvasds
เนชั่นทีวี

บันเทิง

เปิดตัวตน มุมมอง ความคิด "เอกลักญ กรรณศรณ์" ผู้กำกับ "RedLife"

"RedLife" หนังที่สะท้อนเรื่องราวชีวิตของวัยรุ่นภายใต้ความเหลื่อมล้ำของสังคม ผู้กำกับ "เอกลักญ กรรณศรณ์" ตั้งใจถ่ายทอดออกมาให้ได้เห็นกัน ชื่อของ "เอกลักญ" เป็นที่รู้จักในแวดวงโฆษณา ก่อนจะมาก่อตั้ง "BrandThink"

"ชีวิตวัยเด็ก"  

"ตอนเด็กเราเป็นเด็กปกติธรรมดานะ อย่างหนังเราก็ดูหนังทั่วไป แต่คงเพราะจับพลัดจับผลูไปเรียนด้านนี้โดยไม่ตั้งใจมากกว่าที่เริ่มเป็นจุดเปลี่ยน ที่จริงโรงเรียนมัธยมที่เราเรียน เพื่อนส่วนใหญ่มักจะเลือกเรียนบริหาร เรียนธุรกิจ แต่เราไม่อยากเรียนด้านนั้น เพราะเกเรแถมเรียนไม่ค่อยเก่ง ไม่รู้จะเรียนอะไรเลยเลือกเรียนภาพยนตร์เพราะนอนดูหนังทุกคืนแค่นั้น แถมยังโชคดีเอ็นฯ ติดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งมันเปลี่ยนชีวิตเราไปมาก จากที่เคยเป็นเด็กเกเรเที่ยวกลางคืนในเมือง แต่อยู่ ๆ ต้องไปเรียนเชียงใหม่ ซึ่งต้องจินตนาการว่า เชียงใหม่เมื่อ 25 ปีที่แล้วสงบมาก ๆ มันก็เหมือนได้เปลี่ยนแปลงความเป็นตัวเรา"

"อีกอย่าง เมืองเชียงใหม่ รวมถึงผู้คนที่นั่นมีอิทธิพลทางความคิดกับเราสูงมาก เพราะคนที่อยู่รอบตัวมักจะเป็นคนที่สนใจเรื่องอาร์ต จนทำให้เรามีโอกาสได้เสพอาร์ตมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นดนตรีหรือภาพยนตร์"

 

เปิดตัวตน มุมมอง ความคิด เอกลักญ กรรณศรณ์ ผู้กำกับ RedLife

 

"ตอนนั้นที่เชียงใหม่โรงภาพยนตร์ยังน้อย ส่วนใหญ่เราอาศัยดูจากวิดีโอเทป ได้ดูภาพยนตร์เก่า ๆ บ้าง แต่เราไม่ได้แน่ใจนะว่าตัวเองเป็น filmmaker มั้ย เพราะถ้าการเป็น filmmaker เหมือนคุณต้องบ้าหนังอินหนัง สำหรับเราหนัง คือสื่อสำหรับเสพเพื่อความบันเทิงมากกว่า ถ้าเป็นหนังอาร์ตที่ดูยาก ๆ หน่อย หรือหนังคลาสสิค เราก็ดูแค่เพื่อเรียนเท่านั้น ยิ่งสมัยนั้นอุปกรณ์อะไรต่าง ๆ มีน้อยมาก กว่าจะได้มาคลุกคลีกับโปรดักชันจริงจังจนคิดว่า นี่น่าจะเป็นอาชีพเราจริง ๆ ก็ตอนฝึกงานบริษัทโฆษณาเครือสยามสตูดิโอ เลยตัดสินใจไปเรียนต่อ"

"ไปเรียนต่อด้าน Film Production ที่ Academy of Art University ซานฟรานซิสโก ข้อดีที่นั่น คือมีอุปกรณ์ให้นักเรียนใช้เต็มที่ แค่จองไว้ก็สามารถหิ้วกล้องฟิลม์ Arri ตัวละหลายล้านออกไปถ่ายได้เลย ช่วงนั้นเลยได้เริ่มทำงานเกี่ยวกับภาพยนตร์จริงจัง ส่วนมากเราเป็นตากล้อง" 

 

เปิดตัวตน มุมมอง ความคิด เอกลักญ กรรณศรณ์ ผู้กำกับ RedLife

"หนัง" เปลี่ยนชีวิต  

"ตอนนั้นเริ่มค้นพบว่าตัวเองชอบหนังประมาณไหน เริ่มเจอรสนิยมของตัวเอง ได้ดูหนังของผู้กำกับหลายคน ทั้งภาพยนตร์ เอ็มวีที่เราชอบ แต่จุดที่คิดว่านี่น่าจะเป็นงานด้านที่เราใช้ชีวิตกับมันจริง ๆ ตอนที่เพื่อนส่ง VCD หนังไทยเรื่องนึงมาให้ดูจำได้ว่าดูตอนตีสี่ พอดูเสร็จแล้ว คือชอบ สุดยอด น้ำตาไหล เปิดดูซ้ำอีกทีจนเจ็ดโมงเช้า หนังเรื่องนั้น คือ 15 ค่ำเดือน 11 ของพี่เก้ง จิระ มะลิกุล เป็นจุดที่ทำให้เราตั้งเป้าหมายกับตัวเองเหมือนกันว่า ถ้ามีโอกาสวันหนึ่งเราอยากจะทำหนังเป็นของตัวเอง"

กว่าจะมาเป็น "RedLife"

"พอเราเริ่มมีเวลาทบทวนตัวเอง เลยคิดได้ว่าถ้าจะทำคงต้องรีบทำแล้ว เราอายุไม่ใช่น้อย เพียงแต่ปัญหาคือ พอคิดจะทำจริง ๆ เรากลับไม่มีเรื่องที่รู้สึกว่าชอบขนาดจะสร้างมันขึ้นมาเป็นหนังจริง ๆ ไปเดินร้านหนังสือหมดเป็นวัน ๆ บ่อยมากเพื่อหาเรื่องสั้น นวนิยายที่กระแทกเรา หรือกลับไปดูไอเดียต่าง ๆ ที่เคยเขียนไว้มากมาย แต่ก็ไม่เคยเจอเรื่องไหนถูกใจ จนวันหนึ่งคิดได้ว่า แทนที่จะค้นหาเรื่องไปเรื่อย ๆ เราลองหยิบเรื่องที่เราเคยสัมผัส เคยเจอขึ้นมาสร้างดีมั้ย เลยชวนคนเขียนบทมาระดมความคิด เรื่องราวที่เราเคยเจอ สิ่งที่ชอบคือ ความสัมพันธ์ของผู้คนซึ่งไม่ใช่ชนชั้นกลางใกล้ตัว แต่เป็นคนอื่น ๆ ชายขอบที่อยู่ไกลออกไป ความสัมพันธ์ของแม่ ลูก ความสัมพันธ์แบบคนหนุ่มสาวชายขอบ พูดถึงเรื่องราวของการไม่ถูกรัก"

"เราทำทรีตเมนต์ของหนังเรื่องนี้อยู่สองปี จริง ๆ มันน่าจะทำเร็วกว่านั้นได้ สองปีแรกมันเลยเป็นกระบวนการที่เราได้พูดคุยและตั้งคำถามกับตัวเองสูงมาก จนมันตกผลึกพร้อมเราถึงเริ่มกระบวนการเขียนบท" (ตอนเริ่มถ่ายทำมีความกังวลมากน้อยแค่ไหน?) กังวลขั้นสุด เมื่อเป็นหนังแล้ว มันแทบจะไม่มีอะไรให้เรายึดเกาะเลยนอกจากตัวเราเอง แถมมันจะคงอยู่กับเราตลอดกาล อย่างการทำสื่อออนไลน์ ถ้าตัวหนึ่งลงไปแล้วได้กลับมาแค่ไม่กี่ไลก์ มันยังสามารถไปโฟกัสกับตัวใหม่ได้ อีกอย่างคือ เราในวัยสี่สิบกว่า ๆ มันแบกอะไรไว้หลายอย่าง มันเดินทางมาแล้วเกินครึ่งชีวิต ถึงจะบอกว่าไม่คาดหวังแต่มันก็คาดหวังอยู่ดี"

"สำหรับเรานักแสดงคืออันดับหนึ่ง เพราะต่อให้โปรดักชั่นจะดีแค่ไหน แต่ถ้าการแสดงไม่ดีก็ไม่มีความหมาย เราคิดว่าการกำกับภาพยนตร์ อาจไม่ใช่แค่การกำกับนักแสดง แต่มันคือการกำกับ โอกาส ที่จะทำให้เราได้การแสดงที่ดีในหนังเราได้ด้วย ตั้งแต่การเลือกสถานที่จริงถ่ายทำ เลือกทีมงานที่เข้าใจกระบวนการ เลือกสภาพแวดล้อมกองถ่าย เลือกเก็บจังหวะและโมเมนต์ที่ถูก"
 

"หนัง" ไม่ใช่นิทานอีสป

"เราคิดว่าหนังไม่จำเป็นจะต้องให้บทเรียนอะไรกับคนดู ไม่ต้องเป็นนิทานอีสป แต่ถ้าถามว่าเราต้องการผลลัพธ์อะไร เราอยากให้หนังทำให้คนดูตั้งคำถามอะไรบางอย่างขึ้นมา สำหรับเราหนังที่ดีคือ หนังที่พอดูจบแล้วเราตั้งคำถามกับโลกที่เราอยู่ คิดว่าการตั้งคำถามนี่แหละ คือจุดเริ่มต้นที่จะผลักต่อไปสู่เรื่องอื่น ๆ ต่อไปเอง เราเชื่อแบบนั้น" 

เปิดตัวตน มุมมอง ความคิด เอกลักญ กรรณศรณ์ ผู้กำกับ RedLife เปิดตัวตน มุมมอง ความคิด เอกลักญ กรรณศรณ์ ผู้กำกับ RedLife