หลังจากที่ ธัญญ่า อาร์สยาม ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ขอโทษผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ หลังจากที่เพิ่งมาทราบว่า คุณแม่ทักไปยืมเงินอีกแล้ว เหมือนว่าจะเกิดหลายต่อหลายครั้งทำเอาคนเป็นลูกถึงกับไม่ไหวถึงต้องโพสต์ประกาศให้รู้กันไปเลย ล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมาเล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในประเด็นนี้
คือจริงๆ มันเป็นครั้งที่สองในสิ่งที่หนูโพสต์ ทุกคนก็อาจจะมองกันสองทางเหมือนเดิมนะคะ ก็มองว่ามันไม่ดี กับบางคนก็มองอีกทางนึงในทางการแก้ปัญหา หนูอยากจะบอกว่าในสิ่งที่หนูโพสต์ก็เหมือนเดิมเลยค่ะ
ผ่านการคิด วิเคราะห์มาแล้วเรียบร้อยว่าสิ่งที่ทำมันจะเกิดอะไรขึ้น และผลที่ตามมาคืออะไร หนูทำเพราะนี่คือสิ่งที่การแก้ปัญหาของหนูจริงๆ และหนูทำเพราะว่ามันเกิดขึ้นซ้ำๆ ก่อนที่หนูจะโพสต์มาแล้ว ไม่ได้นับกับครั้งแรกที่หนูโพสต์นะคะ คือไม่ได้อยากให้ทุกคนไปคอมเม้นต์ว่าคุณแม่หรืออะไร
ตอนนี้อยากให้ทุกคนให้กำลังใจคุณแม่ ขอให้คุณแม่ทำได้ในสิ่งที่คุณแม่หลงเข้าไป เพราะตัวหนูเองก็ให้กำลังใจคุณแม่ในทุกๆ ครั้ง สิ่งที่หนูทำหนูจะบอกว่าเป็นการที่อาจจะรุนแรงไป ก็คือการดิสเครดิต ไม่ให้เขามีเครดิตในการที่จะไปยืมใคร ให้ทุกคนได้รับรู้ รับทราบกันหมดว่าเราให้เงินตลอด เราไม่ได้ลำบาก ก็เป็นวิธีของหนูเอง
ปัญหาของคุณแม่เกี่ยวกับการพนันด้วยหรือเปล่า เงินถึงไม่พอใช้?
จริงๆ ปัญหาตรงนี้ถึงหนูไม่พูด แต่ทุกคนก็ดูออกว่ามันคือเรื่องอะไร หนูก็เลยบอกว่าคนที่มีปัญหาเรื่องนี้เขารู้ดีว่ามันอาจจะยากในการที่จะหยุดมันได้ หนูอยากให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้แม่ค่ะ ไม่อยากซ้ำเติมอะไรเขา เพราะตัวเขาเองก็เสียใจมากๆ กับครั้งนี้ และแม่ก็ต้องรักษาเกี่ยวกับโรคซึมเศร้าเลย รวมถึงตัวหนูเอง เหมือนเป็นกันทั้งสองคน ก็ต้องเยียวยาจิตใจซึ่งกันและกัน
ครั้งนี้คิดว่าคุณแม่ได้รับบทเรียนหรือยัง?
หนูว่าดีขึ้นค่ะ เพราะทั้งเขาไปหาหมอ ตัวหนูเองก็ได้ฟังนักจิตวิทยาพูด หนูก็รู้สึกว่าน่าจะดีขึ้น และไม่ว่าจะเป็นใครถ้าเจอปัญหาแบบนี้ หนูก็อยากบอกทุกคนว่าทุกคนควรได้รับโอกาสค่ะ
ส่วนเรื่องที่โพสต์เรารู้สึกอย่างไร?
แต่หนูเลือกที่จะทำแบบนั้นไปแล้ว ต้องการแก้ปัญหาตรงนั้น ถามว่าหนูอายมั้ย หนูอายตั้งแต่แม่เราไปยืมเงินคนอื่น เราก็อายแล้ว และการที่เรามาโพสต์แบบนี้ เราเลือกอายครั้งเดียวเลยดีกว่า ไม่ใช่แค่คุณแม่อายค่ะ เราก็อายเหมือนกัน เราเลือกอายทีเดียวและให้จบปัญหาในครอบครัวของเราในครั้งเดียวเลย เราเลือกรับผิดชอบและเริ่มต้นใหม่ ใครจะซ้ำเติมหรืออะไรก็ไม่เป็นไร แต่ในวันนึงเราเชื่อว่าครอบครัวเรามันจะดีขึ้นแน่นอน