เป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวมากี่ปีแล้ว ?
ทนงศักดิ์ : "คุณแม่เขาเสียตั้งแต่ปี 48 พอคุณแม่เริ่มป่วยตอนปี 45 ก็เริ่มเลี้ยงแบบจริงจังตั้งแต่ตอนนั้น เพราะให้คุณแม่เขาได้ดูแลสุขภาพเต็มที่ เขาป่วยเป็นมะเร็งที่ไขกระะดูก เป็นระยะที่ 3 มะเร็งเริ่มเป็นไม่มีอาการนะ แต่เขาเริ่มปวดหลังมาเดือนกว่า ๆ เลยตรวจเจอ ส่วนมากคนที่เจอมะเร็งขั้นต้นก็เพราะว่าไปตรวจสุขภาพเลยเจอ อย่านิ่งนอนใจ จำโมเมนต์ได้ตอนเขาโทรมาบอกว่าเขาเป็นมะเร็ง วันนั้นกำลังจะเข้าฉาก เราบอกว่าขอไม่เล่นแล้ว เพราะภรรยาตรวจพบมะเร็ง รีบมาจากกองไปหาเขา เปิดประตูเข้าไป เห็นเขานอนรอ เห็นสายตาของเขา ยังจำภาพวันนั้นได้เลย สายตาบอกว่าฉันไม่เป็นไร แต่มันคือเป็นแล้วไง เขาพยายามเก็บความรู้สึก เราเดินเข้าไปจับมือ โมเมนต์คนที่เป็นคู่เรา เขาต้องการกำลังใจมากที่สุด ไม่เป็นไร ทุกคนตกใจหมด คนที่ถูกบอกว่าเป็นมะเร็งถูกตัดสินไปแล้วว่ามึงต้องตาย ไม่มีสิทธิ์มีชีวิตอยู่ คุณหมอยังไม่ได้บอกว่าเป็นอะไรแน่นอน แต่พอตรวจเจอ จิตมนุษย์มันก็ตกและพอไปตรวจอีก หมอบอกว่าเป็นเยอะแล้ว อยู่ไม่เกิน 6 เดือน การที่หมอบอกแบบนี้เราอย่าไปเชื่อ เราต้องเชื่อตัวเราเอง แต่เรายังไม่ได้บอกลูก เพราะเขายังเล็กอยู่ ค่อยๆ บอกเขา"
วันที่รู้ว่าแม่เป็นมะเร็ง ?
ปัญญ์ : "จริงๆ ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนขนาดนั้น ด้วยวัยตั้งแต่เด็กเราอยู่กับพ่อ เพราะแม่เอาเราไม่อยู่ เลยถูกส่งไปอยู่กับพ่อ"
เปี่ยม : "ตอนนั้นเด็กมาก ตอนแม่เจอยังไม่ทราบว่ามะเร็งคืออะไร เลยไม่ได้ดูแลอะไร แต่เราจะทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด เวลาไปเรียนก็ตั้งใจเรียน ไม่ทราบว่ามะเร็งมันร้ายแรงแค่ไหน ตอนคุณแม่เสียประมาณ ม.5"
จาก 6 เดือน ยื้อมาได้ 3 ปี 18 วัน ?
ทนงศักดิ์ : "ตอนหมอบอกว่าคุณเป็นมะเร็ง จิตทุกคนตก ประสบการณ์มันสอนเรา อย่างตอนที่เราไฟดูด และบอกว่าแขนใช้ไม่ได้ แต่เราก็ทำจนแขนกลับมาใช้ได้ อย่าเพิ่งไปเชื่อสิ่งที่เขาบอกมา คือแค่การประเมินในส่วนนึง แต่เราต้องทำให้ดีที่สุดก่อน วันที่เสียไปเราบอกลูกว่าแม่ไม่กลับมาแล้วนะ แม่ไปอยู่ที่อื่นแล้ว แต่แม่ก็ยังอยู่ในใจของเราตลอดไป ยังเคยบอกลูกเลยว่า ถ้าเลือกได้ เราขอไปแทน อยากให้เขาอยู่ดูแลลูกแทนเรา ไม่ใช่ว่าเรารักเขามากจนยอมตายแทนเขานะ แต่แค่รู้สึกว่าผู้หญิงคนนึงถ้าดูแลลูก น่าจะดูแลลูกได้ดีกว่าเรา ขาดพ่อเหมือนคอหัก แต่ขาดแม่เหมือนแพแตก เราไม่มีทางดูแลลูกได้ดีกว่าผู้หญิงที่เป็นแม่ เรามีหน้าที่ซัพพอร์ตในเรื่องอื่น แต่พอมันเลือกไม่ได้ เราต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เรียนรู้จากความเป็นแม่ ในการดูแลลูกจากเขา ความรักไม่มีเหตุผล"
ลูกชาย เป็นคนสร้างเรื่องที่สุดในครอบครัว ?
ทนงศักดิ์ : "เรียกว่าเขาทำให้เราเรียนรู้ดีกว่า หลายเรื่องเลย ในพื้นที่ที่เราคิดว่าไม่เคย แต่เราต้องไป เราควรจะอยู่ในห้องกิจกรรมมากกว่าห้องปกครอง ไปทุกอาทิตย์"
ปัญญ์ : "หนักมากครับ ยอมรับว่าอะไรที่ไม่ดี ผมทำหมดเลยนะ เริ่มตั้งแต่หลังแม่เสีย ก็เริ่มแล้ว เป็นลูกคนกลาง พี่น้องคือได้ 4 ตลอด ส่วนเราคือไม่เคยถึง 1 เอาแค่ 0.8 ให้ได้ก่อน เราไม่เวิร์คทางนี้นะ แต่คือจริงๆ ชอบอ่านการ์ตูน เล่นเกมส์ ถ้าเป็นยุคนี้คือมันใช้เป็นอาชีพ แต่ตอนนั้นคือพ่อเลี้ยงลูก 3 คน หลังจากแม่เสียมีเหตุการณ์เพื่อนมาล้อเรื่องแม่และต่อยกัน เราชนะ ทุกคนเห็นว่าเราโอเค มันทางของเรา มีคนมาเชิดชูเราในทางนี้ จากขาวไม่ได้ก็ไปดำเลย ถ้าหนักสุดก็ยาเสพติด สุดโต่งเลย เคยมีเหตุการณ์ในสมัยเด็ก เป็นการทะเลาะวิวาท ตีในแบบโรงเรียนเอกชน เราสุดแบบนี้"
ทนงศักดิ์ : "ตอนนั้นก็ถูกอัญเชิญออกจากโรงเรียนสองโรงเรียน แต่ไม่เคยตี ก่อนหน้านี้เคยตีตอนสมัยประถมบ้าง ถามว่ากลัวลูกตายมั้ย เคยบอกว่าเขาต้องเป็นคนเลือก สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเขาตายไม่เป็นไร แต่ถ้าคนอื่นตาย ไม่ควร จริง ๆ ถ้าคุณตายมันจะไม่เป็นภาระอะไร เพราะคุณเป็นคนเลือกเอง แต่คุณไม่ควรทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อน แต่ถ้าคุณไม่ตาย คุณติดคุก เราก็ยังสามารถไปเยี่ยมเขาได้"
ปัญญ์ : "สิ่งที่ทำให้เปลี่ยนเพราะครอบครัว จริงๆ พี่ชายน้องสาว เขาคิดว่าเขาไม่มีส่วนในการช่วย แต่จริง ๆ เขามีส่วนมาก พ่อพูดมาตลอดตั้งแต่เด็ก เราเริ่มสังเกตว่าทำไมมีคนเข้าหาพ่อตลอด มีคนเข้ามาปรึกษาเรื่องการใช้ชีวิต การทำงาน เราอยู่ใกล้เขาแต่ทำไมไม่เห็นเรื่องพวกนี้เลย พี่น้องเริ่มมีเงินเดือน แต่เรายังไม่มีอะไร ชีวิตนี้เราไม่เวิร์คแล้ว เริ่มหยุดตัวเอง น้องเปี่ยมมาบอกว่ามีอะไรให้ช่วยบอกได้นะ เปลี่ยนมาได้ประมาณ 8 ปีแล้ว"
คุณพ่อ แต่งงานกับสาวอ่อนกว่า 20 ปี ?
ปัญญ์ : "ผมตอบแทนพี่ชายได้เลยว่า คุณพ่อเดินมาบอกว่าคนนี้นะ ผมก็โอเคตามนั้น พี่ชายบอกให้ไปดิวกับน้อง เพราะน้องน่าจะหนักสุด"
เปี่ยม : "ต้องบอกว่าคนนี้ไม่ใช่คนแรกที่เป็นแฟนคุณพ่อ คนแรก ๆ จะไม่โอเค หวงพ่อ แต่พอมีหลาย ๆ คน เราโตขึ้นด้วย มันนานด้วย คนที่ทำให้คุณพ่อแฮปปี้เราก็โอเคแล้ว"
ทนงศักดิ์ : "เวลาชอบใครเราก็จะบอกว่าชอบ ฉันมีลูกนะ เปิดไปเลย ชีวิตมันควรจะเป็นคู่ จะสอนลูกเสมอว่าถ้าเขาไม่เลือกเรา ไม่ใช่เราไม่ดีนะ แต่เขาไม่ชอบเราเท่านั้นเอง คำมั่นสัญญากับภรรยาคือจะมีใครก็แล้วแต่ แต่เราต้องดูแลลูก จนกว่าเขาจะแยกไปมีชีวิต"
ที่มา : รายการคุยแซ่บShow