
สืบเนื่องจากกรณีข่าวช็อกวงการ "จีจี้ สุพิชชา" เน็ตไอดอลสาวคนดัง เจ้าของเพจ "เรื่องของจี้" ถูกพบเป็นศพถูกยิงเสียชีวิต พร้อมแฟนหนุ่ม "อิคคิว" ภูมิพัฒน์ ชัยวณิชยา ประธานรุ่นเตรียมทหาร ปี 2 ทั้งสองคนเสียชีวิตที่คอนโดแห่งหนึ่ง
โดยร่างของ ‘อิคคิว’ นตท.ภูมิพัฒน์ ชัยวณิชยา ถูกนำจากแผนกนิติเวช รพ.รามาธิบดี มาบำเพ็ญกุศล ที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยญาติขอความร่วมมือกับทางสื่อและผู้สื่อข่าวไว้ว่า ในส่วนของพิธีขอเป็นการภายใน ไม่อนุญาตให้ทีมข่าวเข้าไปภายในศาลา
ในเวลาต่อมา น้าสาวของอิคคิว ซึ่งเป็นทนายความ ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า
"ครอบครัวยังไม่พร้อมให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน เพราะเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างมากจากการสูญเสียของทั้งสองครอบครัว โดยทางครอบครัวขอโทษครอบครัวของฝ่ายหญิงแล้ว ขอโทษสังคม พร้อมจะเยียวยาช่วยเหลือครอบครัวของน้องจีจี้ ทุกอย่าง"
อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวล่าสุด ล่าสุด นายชินโชติ ปรีดาเจริญ อายุ 58 ปี คุณพ่อจีจี้ ได้เปิดเผยว่า ถึงแม้ว่าวันเวลาจะผ่านไป 2 วัน แล้วสำหรับการจากไปของจีจี้ ยอมรับว่าเรื่องนี้รู้สึกสะเทือนใจมากและเสียใจที่สุด เมื่อคืนยังคงคิดถึงลูกสาวและเข้าไปนอนที่ห้องลูกสาว และเป็นที่น่าแปลกใจว่ามีจิ้งจกตกลงมาที่แขนซ้าย ช่วงกลางดึกได้ยินเสียงลูกสาวร้องไห้อยู่ตลอดทั้งคืน นอนไม่หลับเพราะทำใจไม่ได้
อีกหนึ่งประเด็นที่คุณพ่ออยากทำเพื่อลูกสาวสุดที่รัก
ก่อนหน้านี้ ทางคุณพ่อ ได้พูดถึงความฝันของลูกสาว ว่า อยากสานต่อความฝันของลูกสาว ก่อนหน้านี้จีจี้บอกว่าจะทำผลิตภัณฑ์ครีมหมักผม โดยนำตัวอย่างมาจากเกาหลี แต่ตนไม่ทราบว่าให้บริษัทไหนแกะสูตรให้ หากรู้ช่วยให้ข้อมูลตนด้วย ตนอยากสานต่อความฝันของลูกให้เป็นจริง!!
ผู้สื่อข่าวเนชั่นออนไลน์ รายงานข้อมูลเพิ่มเติม สำหรับร่างของผู้เสียชีวิตทั้งสอง ถูกนำไปประกอบพิธีทางศาสนาคนละจังหวัด โดย "จีจี้ สุพิชชา" ครอบครัวได้มารับศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดใหญ่ จ.นครปฐม ขณะที่ในส่วนของ "อิคคิว" แฟนหนุ่ม ประกอบพิธีทางศาสนาที่ จ.พระนครศรีอยุธยา
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศล่าสุด ที่ วัดเสนาสนารามราชวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา บริเวณศาลา 5 ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพ นตท.ภูมิพัฒน์ ชัยวณิชยา หรือ อิคคิว พบว่า มีคนในครอบครัวมาจัดเตรียมเมรุ และสถานที่ ในการประกอบพิธีฌาปนกิจศพ
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า จากการสอบถามทางเจ้าหน้าที่ของวัดที่รับผิดชอบดูแล ให้ข้อมูลว่า
"ในช่วงเวลา 13.00 น. จะมีพิธีประกอบฌาปนกิจศพ อย่างเรียบง่าย โดยในช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้มีการจัดเลี้ยงภัตตาหารเพล กับพระสงฆ์ จำนวน 10 รูป จากนั้นได้มีการเคลื่อนศพ ขึ้นประกอบพิธีทางศาสนา โดยพระสงฆ์ขึ้นทอดผ้าไตรบังสุกุล จำนวน 1 รูป และประกอบพิธีประชุมเพลิงศพ ในช่วงเวลาที่ได้จัดเตรียมไว้"
ย้อนไปก่อนหน้านี้
ล่าสุดเมื่อวานนี้ ทางด้าน พระครูไพศาลพิพัฒนาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดเสนาสนารามราชวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา ยืนยันว่า ครอบครัวของ นตท.ภูมิพัฒน์ มาติดต่อขอตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดจริง โดยทางครอบครัวได้นำใบมรณบัตรของอิคคิวมาให้ดู และจากการสแกนคิวอาร์โค้ดตรวจสอบก็พบว่าเป็นใบมรณบัตรฉบับจริง เมื่อวานนี้ได้มีพิธีรดน้ำศพและสวดพระอภิธรรม ซึ่งทำเป็นการภายในเฉพาะครอบครัวจึงทำอย่างรวดเร็ว
ในส่วนที่เป็นกระแสข่าวต่างๆ ก็ปล่อยให้เป็นไปตามนั้น และในช่วงที่มีพิธีรดน้ำศพก็เห็นร่างของ อิคคิวจริง สวมชุดนักเรียนเตรียมทหารสีขาว สำหรับโลงศพที่ตั้งอยู่และมีดอกไม้ประดับตกแต่งนั้นเป็นโลงเปล่า แต่ร่างของอิคคิวอยู่ในโลงเย็น ตั้งอยู่ด้านข้าง ส่วนการทำพิธีก็ทำตามปกติเหมือนศพอื่นทั่วไป แต่ผ้าที่คลุมรูปหน้าศพเป็นความประสงค์ของเจ้าภาพที่ต้องการแบบนั้น
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าวัดช่วยปกปิดนั้น ผู้ช่วยเจ้าอาวาส ยืนยันว่า ไม่ได้ปิดบังอะไร ทำทุกอย่างเป็นปกติตามขั้นตอนทางพิธีสวดพระอภิธรรม ทางครอบครัวของอิคคิวไม่ได้กำชับหรือขออะไรเป็นพิเศษ แต่ขอทำพิธีแค่ภายในครอบครัวเท่านั้น และจะมีพิธีฌาปนกิจศพในวันพรุ่งนี้ (22 เม.ย.) เวลา 13.00 น.
พระครูไพศาลพิพัฒนาภรณ์ ย้ำว่า ที่วัดไม่ได้รับทำพิธีแค่ศพคนมีฐานะเหมือนที่เป็นกระแสข่าว เพราะที่ผ่านมาก็รับเผาศพคนติดโควิด รวมถึงศพไม่มีญาติด้วย ส่วนประเด็นที่ว่าทำไมถึงนำศพของ "อิคคิว" มาบำเพ็ญกุศลที่วัดนี้ เพราะแม่ของอิคคิวเป็นคน จ.พระนครศรีอยุธยา แต่โดยทั่วไปแล้วจะนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดไหนก็ได้ ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยมีคนจากต่างจังหวัดมาบำเพ็ญกุศลศพที่วัดนี้
ต่อมาในช่วงเวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางครอบครัว และคนใกล้ชิดของ "อิคคิว" นตท.ภูมิพัฒน์ เดินทาง ได้มาร่วมแสดงความเสียใจ และร่วมฟังสวดอภิธรรม โดยมีพระเทพมงคลโสภณ เจ้าอาวาสวัดเสนาสนาราม ร่วมฟังสวดอภิธรรมด้วย
ภายหลังเสร็จพิธีสวดอภิธรรม ทนายความของทางครอบครัวและเป็นญาติกับครอบครัวของ "อิคคิว" ได้ออกมาให้ข้อมูลว่า ทางครอบครัวจะมีการฌาปนกิจศพ อิคคิวในวันพรุ่งนี้ และส่วนตัวขอยืนยันว่า เป็นคนที่เห็นศพของน้องอิคคิวด้วยตนเอง เห็นบาดแผลของการผ่าชันสูตรศพ
ยอมรับว่าเมื่อเวลาที่จะต้องพูดถึงคนทั้งสองยังเสียใจกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ถ้าสภาพจิตใจ พร้อมแล้วทางแม่จะออกมาชี้แจ้งด้วยตนเอง