นายวินิต อธิสุข รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงผลพยากรณ์และสถานการณ์การผลิตไม้ผลภาคตะวันออก ปี 2566 ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ตราด และระยองว่า พื้นที่ปลูกผลไม้ 4 ชนิด ประกอบด้วยทุเรียน เงาะ ลองกอง และมังคุดมี 659,501 ไร่ เพิ่มขึ้น 1.2% จากปี 2565 ที่มีจำนวน 651,604 ไร่
โดยทุเรียน มีเนื้อที่ให้ผล 351,546 ไร่ เพิ่มขึ้น 4.85% เนื่องจากเป็นสินค้าเดียวที่มีเนื้อที่ให้ผลเพิ่มขึ้น จากแรงจูงใจด้านราคา ทำให้เกษตรกรขยายเนื้อที่ปลูกทุเรียนอย่างต่อเนื่องในหลายปีที่ผ่านมา
ขณะที่ไม้ผลอื่นๆ เนื้อที่ให้ผลลดลง ได้แก่ มังคุด มีเนื้อที่ให้ผล 180,333 ไร่ ลดลง 2.18 % เงาะ 98,292 ไร่ ลดลง 1.95% และลองกอง 29,330 ไร่ ลดลง 7.59 %
ขณะที่ผลผลิตต่อเนื้อที่ให้ผล ของไม้ผลทั้ง 4 ชนิดลดลง โดยทุเรียน ผลผลิตต่อเนื้อที่ให้ผล 2,152 กก.ต่อไร่ ลดลง 1.47 % มังคุด 1,041 กก.ต่อไร่ ลดลง 13.47% เงาะ 2,057 กก.ต่อไร่ ลดลง 4.72% และลองกอง 587 กก.ต่อไร่ ลดลง 1.51%
ทั้งนี้เนื่องจากสภาพภูมิอากาศไม่เอื้ออำนวยต่อการออกดอกติดผล โดยมีฝนตกอย่างต่อเนื่องในช่วงเดือนพฤศจิ กายนจนถึงปัจจุบัน ทำให้ไม้ผลบางส่วนแตกใบอ่อนแทนการออกดอก
ประกอบกับเกษตรกรทำการตัดแต่งต้นที่อายุมาก ลดจำนวนกิ่งที่ให้ผลได้ออก เพื่อให้ผลผลิตมีขนาดใหญ่ขึ้น และเกษตรกรบางส่วนลดการดูแลลองกอง เงาะ และมังคุดลง เพื่อไปให้การดูแลทุเรียน ซึ่งให้ผลตอบแทนดีกว่า
จากปัจจัยข้างต้น ส่งผลให้ภาพรวมผลผลิตไม้ผลตะวันออก ปี 2566 คาดว่ามีปริมาณ 1,163,618 ตัน ลดลง 2.1% จากปี 2565 ที่มีจำนวน 1,189,522 ตัน
ซึ่งเป็นการลดลงของปริมาณผลผลิตมังคุด เงาะ และลองกอง ยกเว้นทุเรียนจะมีปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้น โดยผลผลิตของทุเรียนมีปริมาณ756,465 ตัน เพิ่มขึ้น 3.30% มังคุด มีปริมาณ 187,729 ตัน ลดลง 15.38% เงาะ มีปริมาณ 202,204 ตัน ลดลง 6.57 % และลองกอง ปริมาณ 17,220 ตัน ลดลง 9.01%
สำหรับการกระจายผลผลิตออกสู่ตลาด คาดว่า ผลผลิตทั้ง 4 ชนิดจะเริ่มออกตลาดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ - เดือนตุลาคม 2566 ซึ่งผลผลิตของทุเรียนจะออกสู่ตลาดมากและเร็วขึ้นจากปีที่แล้ว จากออกสู่ตลาดมากในเดือนพฤษภาคม มาเป็นออกตลาดมากในเดือนเมษายน 2566
โดยผลผลิตออกตลาดประมาณ 306,064 ตัน หรือ 40.47% ของผลผลิต มังคุด ออกมากที่สุดในเดือนพฤษ ภาคม 2566 มีผลผลิตประมาณ 92,975 ตัน หรือ 49.54% ของผลผลิต
ส่วนเงาะ ผลผลิตออกมากในเดือนพฤษภาคม 2566 เช่นกัน ที่ปริมาณ 88,417 ตัน หรือ 43.74% ของผลผลิต ขณะที่ลองกอง จะออกมากที่สุดในเดือนกรกฎาคม 2566 ประมาณ 6,387 ตัน หรือ 37.09% ของผลิตทั้งหมดใน 3 จังหวัดภาคตะวันออก
ทั้งนี้ สศก. จะได้ติดตามสถานการณ์การผลิตอย่างต่อเนื่องต่อไป เนื่องจากผลไม้มีความอ่อนไหวต่อสภาพภูมิอากาศเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้ได้ปริมาณการผลิตไม้ผลนำเสนอต่อคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) และให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งในระดับกระทรวง กรม และจังหวัดได้นำไปใช้ประโยชน์ในการเตรียมมาตรการนโยบายในการบริหารจัดการผลไม้ต่อไป