รายย่อยหยุดเทรดประท้วง "ภาษีขายหุ้น" ทุบวอลลุ่มหุ้นไทยดิ่งต่ำสุดรอบปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดเที่ยงวันนี้(8 ธ.ค.65) ปิดที่ 1,619.48 จุด ลบ 2.80 จุด หรือ 0.17% มีมูลค่าการซื้อขายประมาณ 23,324.69   ล้านบาท โดยในวันนี้นักลงทุนรายย่อยเชิญชวนระดมพลังคัดค้านเก็บภาษีขายหุ้น หลังจากที่ครม.ไฟเขียวให้เรียกเก็บ 0.1%  แต่จะเก็บจริง 0.055 % ในกลางปีหน้า ด้วยการหยุดซื้อขายวันนี้เป็นเวลา 1 วัน ผ่านกลุ่มโซเชียลต่าง ๆ นั้น  

นายภราดร เตียรณปราโมทย์ รองผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส   เปิดเผยกับ Nation Online ว่า  วอลลุ่มการซื้อขายปิดตลาดครึ่งเช้าอยู่ที่ 2.33 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในปีนี้เลย

ทั้งนี้หากเทียบกับช่วงวันหยุดตลาดหุ้นสหรัฐฯ  ที่เป็นวัน  black Friday มีมูลค่า 2.5 หมื่นล้านบาท จากปกติที่วอลลุ่มการซื้อขายปิดตลาดช่วงเช้าจะอยู่ที่ 4.53 หมื่นล้านบาท หรือหากไปกว่าครึ่งถ้าเทียบกับค่าเฉลี่ยในปีนี้

อย่างไรก็ตาม เป็นการสะท้อนให้เห็นภาพว่านักลงทุนรายย่อยยังไม่เห็นด้วยกับการขึ้นภาษีทำให้วอลลุ่มการซื้อขายต่ำกว่าปกติ

นอกจากนี้หากวิเคราะห์ค่าคอมมิชชั่นของโบรกเกอร์ปกติอยู่ที่ 0.086% ถ้าเก็บภาษีขายหุ้น 0.11% หรือขาขายขาเดียว จะทำให้นักลงทุนต้องแบกภาระเพิ่ม 64%   และในอดีตสะท้อนให้เห็นว่าเวลาวอลลุ่มหายไปผลตอบแทนจะไม่ดีนัก  

ขณะเดียวกันทิศทางดอกเบี้ยอยู่ในเทรนด์ขาขึ้น และเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนไม่เห็นด้วยกับการขึ้นภาษีครั้งนี้

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคระห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้  กล่าวกับ Nation Online ว่า  การหยุดเทรดในวันนี้ของนักลงทุนรายย่อย เพื่อเป็นการเรียกร้องให้รัฐเห็นความสำคัญ แต่คงไม่มีน้ำหนักเพียงพอให้รัฐบาลเปลี่ยนใจ เพราะก่อนหน้านี้สภาธุรกิจตลาดทุนไทยได้ส่งรายละเอียดข้อมูลให้กับรัฐบาลมาโดยตลอด

นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย (PI)  กล่าวกับ Nation Online ว่า   วอลลุ่มการซื้อขายหุ้นไทยปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้เบาบาง ส่วนหนึ่งเกิดจากนักลงทุนรายย่อยหยุดเทรดกันวันนี้ ประกอบกับไม่มีปัจจัยใหม่หนุน  แต่ถ้าหากครึ่งบ่ายซื้อขายเท่ากันก็น่าจะพอเดาได้ว่ามูลค่าซื้อขายน่าจะอยู่ที่ 4.6 หมื่นล้านบาท