svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ส่องเลย !  6 เทรนด์ธุรกิจมาแรงปี 66 มีอะไรบ้าง

28 พฤศจิกายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบีเปิด 6 เทรนด์ธุรกิจที่มาแรงในปี 66 หลังรัฐเปิดประเทศ แนะ "เอสเอ็มอี" วางแผนการลงทุนสร้างความได้เปรียบคู่แข่ง

finbiz by ttb  ระบุว่า จากศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี (ttb analytics) มองว่ากลุ่มธุรกิจที่มาแรงในปี 66 ไม่ต่างจากปี 65 ทั้งนวัตกรรมประหยัดพลังงาน  อีคอมเมิร์ซ  สุขภาพ และ อาหารออร์แกนิก โปรตีนทางเลือก

โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจ Health & Wellness นับตั้งแต่ปลายปี 64 เป็นต้นมา จากการที่ภาครัฐผ่อนคลายเปิดประเทศให้ชาวต่างชาติเข้ามาในประเทศไทยได้ รวมถึงแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมายในระบบประกันสังคมที่อยู่กับโรงพยาบาลเอกชน จำนวนกว่า 9.6 แสนคน ทำให้รายได้ของธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนในตลาดชาวต่างชาติฟื้นตัวขึ้น และคาดการณ์ว่าจากปัจจัยต่าง ๆ จะทำให้ในปี 66 รายได้ธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนโดยภาพรวม จะเติบโตได้ 8-10%

ส่วนกลุ่มของนวัตกรรมประหยัดพลังงานต่าง ๆ อย่างโซลาร์รูฟท็อป (Solar Rooftop) ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากเมื่อกลางปีที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ประกาศปรับอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (FT) เพิ่มขึ้นอีก 68.66 สตางค์ต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้า โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 4.72 บาทต่อหน่วยในงวดเดือนกันยายน ถึง ธันวาคม 65

ซึ่งถือเป็นอัตราที่สูงสุดนับตั้งแต่ปี 58 ผู้ประกอบการจึงหันมาทำธุรกิจติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์สำหรับภาคครัวเรือนและธุรกิจ SME หลังค่าไฟยังมีแนวโน้มพุ่งสูงต่อเนื่อง และระยะเวลาคืนทุนเร็วขึ้น ส่งผลให้ตลาดโซลาร์รูฟท็อปในประเทศเติบโตอย่างก้าวกระโดด เฉลี่ยปีละ 22% หรือ แตะระดับ 6.7 หมื่นล้านบาทในปี 68

สำหรับเทรนด์ธุรกิจในปี 66 ที่จะมาแรงนั้นประกอบด้วย 1. ธุรกิจด้านสุขภาพและความงาม ที่เป็นดาวเด่นอยู่ก่อน จากที่สินค้าได้รับการตอบรับที่ดีอยู่แล้ว เพราะผู้บริโภคสามารถจับจ่ายสินค้าเพื่อนำไปใช้ดูแลสุขภาพตัวเองที่บ้าน  เช่น  สปา นวดไทย นวดหน้า บริการด้านส่งเสริมรูปร่างและความงาม คลินิกศัลยกรรม ฟิตเนส  

2. ธุรกิจที่เกี่ยวกับอาหารที่มีประโยชน์ ซึ่งรวมถึงประโยชน์ต่อสุขภาพและประโยชน์ต่อโลก กลุ่มร้านอาหารเพื่อสุขภาพ เครื่องปรุงคุณภาพ เช่น กลุ่มโซเดียมต่ำหรืออื่น ๆ โปรตีนจากพืช อาหารสุขภาพตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ

รวมไปถึงอาหารที่ไม่ทำร้ายโลก เช่น ธุรกิจอาหารที่มีการเลี้ยงสัตว์ที่นำมาผลิตอาหารที่ลดก๊าซมีเทน ธุรกิจอาหารที่ได้มาจากการปลูกพืชที่ไม่ได้เกิดจากการเผาไร่ หรือทำลายผิวดิน อาหารที่ลดการใช้สารเคมีทั้งในอาหาร และไม่ทิ้งสารเคมีไว้ให้สิ่งแวดล้อม

3. ธุรกิจการค้าปลีกทั้งออนไลน์และออฟไลน์ การใช้แพลตฟอร์มเพื่อการค้าออนไลน์ร่วมกับการมีหน้าร้านแบบออฟไลน์ แบบ Omni Channel จากการแพร่ระบาดของโควิดอย่างยาวนาน จนติดเป็นนิสัยที่ผู้บริโภคจะค้นหาสินค้าแบบออนไลน์

ทั้งนี้จากการศึกษา Journey ผู้บริโภคสมัยใหม่จำนวนไม่น้อยที่ยังไม่ตัดสินใจซื้อสินค้าในทันที ยังจะออกมาสัมผัสสินค้าตัวจริงที่อยู่บนหน้าร้านแบบออฟไลน์ก่อนจะไปตัดสินใจซื้ออีกครั้งบนออนไลน์ หรือจำนวนหนึ่งก็ตัดสินใจซื้อที่หน้าร้านแบบออฟไลน์ ดังนั้นในปี 2566 ธุรกิจร้านค้าปลีกต่าง ๆ ต้องพร้อมที่รองรับการจับจ่ายของลูกค้าทุกรูปแบบ

4. ธุรกิจกลุ่มนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ช่วยให้ประหยัดพลังงาน และลดการปล่อยมลพิษ เช่น อุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานไฟฟ้า และธุรกิจที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เช่น แบตเตอรี่ เหล็ก

กลุ่มนวัตกรรมประหยัดพลังงานอื่น ๆ เช่น แผงโซลาร์ อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดพลังงาน เซ็นเซอร์ที่ใช้ในครัวเรือน เช่น เซ็นเซอร์เปิด-ปิดไฟอัตโนมัติเชื่อมต่ออุปกรณ์สมาร์ทโฟน เพื่อสร้างความเหมาะสมในการใช้พลังงานในบ้าน เทคโนโลยีที่ส่งเสริมการเป็น Smart Home รวมไปถึงงานบริการที่เกี่ยวกับการออกแบบติดตั้งระบบนวัตกรรมประหยัดพลังงานเพื่อโลกและคุณภาพชีวิต

5. ธุรกิจสุขภาพและคุณภาพชีวิตของสัตว์เลี้ยง จากการสำรวจของ Morgan Stanley Research ระบุว่า เกือบ 70% ของผู้เลี้ยงให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงของตัวเองเสมือนเป็นสมาชิกในครอบครัว

ดังนั้น ธุรกิจทั้งหมดที่เกี่ยวกับคุณภาพชีวิตของสัตว์เลี้ยงจึงมีโอกาสที่จะเติบโต ซึ่งรวมการกิน อยู่ นอน ขับถ่าย พักผ่อน ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยง ธุรกิจอาหารสัตว์คุณภาพสูง อุปกรณ์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง แชมพูดูแลขน ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพฟัน ของเล่น เสื้อผ้า ที่นอน ที่ให้อาหารอัตโนมัติ บริการสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร แบบ Pet Friendly รวมถึงกิจกรรมสัตว์เลี้ยง เช่น สถานที่สำหรับสัตว์ได้วิ่งเล่น สระว่ายน้ำสำหรับสัตว์เลี้ยง เป็นต้น

6. ธุรกิจท่องเที่ยว ขนส่งผู้โดยสาร ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจเพื่อความบันเทิง จากการคาดการณ์ของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่คาดว่าการท่องเที่ยวจะกลับมาเกือบเหมือนปกติก่อนโควิด ดังนั้น กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวกับการออกไปนอกบ้านของผู้คนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางออกไปท่องเที่ยวใกล้ หรือไกล การขนส่ง ธุรกิจรถเช่า ธุรกิจที่เกี่ยวกับการทำกิจกรรมบันเทิงและสันทนาการใด ๆ การพักผ่อน การรับประทานอาหาร   เป็นต้น

 ปัจจุบันธุรกิจ SME เกิดใหม่ขึ้นทุก ๆ ปี  ซึ่งในแต่ละปีมีธุรกิจซึ่งไม่สามารถไปต่อได้จากปีแรกกว่า 50% ดังนั้นการวางแผนที่ดีและจับเทรนด์ธุรกิจให้ทัน เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจสามารถอยู่รอด และสร้างความได้เปรียบอย่างมาก  โดยเห็นว่าการจับเทรนด์ที่มาแรงในปี 66 เพื่อให้ผู้ประกอบการธุรกิจสามารถวางแผน และเตรียมตัวเพื่อสร้างความได้เปรียบ เพื่อนำไปสู่ความแข็งแกร่งและโอกาสในอนาคต

 

logoline