เปิด 3 ข้อ แก๊งทวงหนี้ใช้ข่มขู่ทวงเงินซึ่งผิดหลักกฎหมาย
ธปท. ระบุแก๊งทวงหนี้ไม่สามารถข่มขู่ ยึดทรัพย์หรือโทรทวงหนี้ได้มากกว่าวันละครั้ง เหตุผิดหลักกฎหมาย เตือนประชาชนอย่างหลงเชื่อ โดยหากพบการกระทำความผิดสามารถแจ้งเอาผิดได้ตลอด24ชม.
ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ได้รวบรวมข้ออ้างทางกฎหมายที่คนตามทวงหนี้ที่ใช้บ่อยเพื่อข่มขู่ให้ลูกหนี้กลัวและยอมทำตาม ได้แก่
1. การขู่ว่าเป็นหนี้ไม่จ่ายจะติดคุก ซึ่งความจริงแล้วการไม่จ่ายหนี้ไม่ใช่ความผิดตามกฎหมายอาญา แต่เจ้าหนี้สามารถฟ้องร้องให้ลูกหนี้ชำระหนี้ได้
2. จะมีการยึดทรัพย์ทันทีถ้าไม่จ่าย ซึ่งความจริงคือเจ้าหนี้ต้องฟ้องร้องต่อศาลจนคดีถึงที่สุดก่อน
3. การโทรทวงหนี้ เช้า กลางวัน เย็น ไม่สามารถทำได้ เพราะกฎหมายให้ทวงหนี้ได้วันละ 1 ครั้งเท่านั้น
ด้านนางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันยังคงมีประชาชนจำนวนมากตกเป็นเหยื่อของกลุ่มหลอกลงทุนและการปล่อยกู้ผ่านออนไลน์ โดยเฉพาะการส่งข้อความผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ทวงถามหนี้เงินกู้ พร้อมชักชวนให้ทำการกู้เงินในวงเงินเพิ่มเติม
จึงแนะนำว่าหากประชาชนถูกแก๊งทวงหนี้ แอบอ้าง หรือ ข่มขู่ ให้ทำการบันทึกข้อมูลทุกด้าน ทั้งการสนทนา ภาพถ่าย หรือเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไว้เพื่อใช้ดำเนินคดี หากพบเห็นเบาะแสการกระทำผิด สามารถแจ้งไปยัง Call Center สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้กฎหมายกำหนดไว้ว่าการติดตามทวงหนี้ ซึ่งมีลักษณะการพูดจาข่มขู่ ดูหมิ่น การเปิดเผยข้อมูลการเป็นหนี้ของลูกหนี้ การใช้ความรุนแรงทำให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย อาจจะถูกดำเนินคดีในข้อหา ฝ่าฝืน พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท
สำหรับผู้ที่ประกอบธุรกิจสินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีโทษจำคุก 1-5 ปี ปรับตั้งแต่ 100,000-500,000 บาท และ การเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท และหากตรวจสอบว่ามีทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิด ก็จะมีความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีกด้วย