นายสัตวแพทย์โสภัชย์ ชวาลกุล รองอธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า ได้ติดตามสถานการณ์การผลิตไข่ไก่อย่างต่อเนื่องโดยประชุมหารือกำหนดแนวทางรักษาเสถียรภาพราคาไข่ไก่กับผู้แทนผู้เลี้ยงไก่ไข่จาก 4 สมาคม 4 สหกรณ์ และผู้ประกอบการไก่ไข่พันธุ์ 16 บริษัทเนื่องจากไข่ไก่ล้นตลาดตั้งแต่ในเดือนพฤษภาคมทำให้ราคาตกลงมากสวนทางกับราคาอาหารสัตว์ พันธุ์สัตว์ และน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มสูงขึ้นทำให้คณะอนุกรรมกรรมการต้นทุนการผลิตไก่ไข่และไข่ไก่ของคณะกรรมการนโยบายพัฒนาไข่ไก่และผลิตภัณฑ์ (Egg Board) คำนวณว่า ต้นทุนการผลิตไขไก่ในเดือนมิถุนายนปรับขึ้นเป็นเฉลี่ยฟองละ 3.02 บาท กรมปศุสัตว์จึงดำเนินมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาไข่ไก่ด้วยการขอความร่วมมือให้ปลดไก่ไข่ยืนกรงและเร็วขึ้นและเพิ่มปริมาณการส่งออกไข่ไก่ระหว่างเดือนมิถุนายน – กรกฎาคมจนสถานการณ์คลี่คลายเข้าสู่สมดุลและราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มปรับตัวสูงขึ้น
ไข่ไก่เป็นสินค้าอ่อนไหว ราคาปรับตามกลไกตลาด โดยคาดว่า ในเดือนกันยายน – ตุลาคม ของทุกปีมีเทศกาลกินเจและเป็นช่วงปิดภาคเรียน ประกอบกับฝนตกชุก อัตราการบริโภคไข่ไก่จะน้อยลงซึ่งจะส่งผลให้ราคาไข่ไก่ปรับลดลงตามไปด้วย
รองอธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์การผลิตและการบริโภคไข่ไก่ใกล้เคียงจุดสมดุล โดยยังต้องการการปลดไก่ไข่ยืนกรงตามอายุที่เหมาะสมและคงอัตราการส่งออกเพื่อเป็นกลไกในการปรับสมดุลปริมาณการผลิตไข่ไก่ให้สอดคล้องกับอัตราการบริโภคที่จะปรับตัวลดลงในเดือนกันยายน-ตุลาคม ดังนี้
– ขอความร่วมมือผู้เลี้ยงไก่ไข่ทุกรายเร่งปลดไก่ไข่ยืนกรงที่อายุเกิน 80 สัปดาห์ ยกเว้นรายย่อยที่เลี้ยงต่ำกว่า30,000 ตัว ที่มิใช่ฟาร์มในระบบเกษตรพันธะสัญญาของผู้ประกอบการรายใหญ่
– ขอความร่วมมือผู้เลี้ยงไก่ไข่รายใหญ่ขนาดการเลี้ยงตั้งแต่ 100,000 ตัวขึ้นไป ปลดไก่ไข่ยืนกรงที่อายุ 78 สัปดาห์ จนถึงสิ้นเดือนตุลาคม 2565
– ขอความร่วมมือผู้เลี้ยง PS 16 รายผลักดันการส่งออกไข่ไก่ โดยกำหนดเป้าหมายให้ในเดือนสิงหาคมส่งออก60 ตู้คอนเทนเนอร์ (19.5 ล้านฟอง) ต่อไปในเดือนกันยายน – ตุลาคมส่งออก 100 ตู้คอนเทนเนอร์ (32 ล้านฟอง) ต่อเดือน
ทั้งนี้กรมปศุสัตว์จะประเมินสถานการณ์เป็นระยะเพื่อกำหนดมาตรการรักษาสมดุล Demand – Supply ให้เหมาะสม
สถานการณ์การเลี้ยงไก่ไข่และผลผลิตไข่ (Supply) พบว่า ปัจจุบันจำนวนไก่ไข่ยืนกรงมี 50.67 ล้านตัว ประมาณการผลผลิตไข่ไก่ 42.05 ล้านฟองต่อวัน (ข้อมูลวันที่ 25 กรกฎาคม) ส่วนอัตราการบริโภค (Demand) เฉลี่ยประมาณ41.89 ล้านฟองต่อวัน โดยคาดการณ์อัตราบริโภคภายในประเทศปัจจุบันประมาณวันละ 41.50 ล้านฟอง ขณะที่ส่งออกเฉลี่ย 389,325 ฟองต่อวัน (ข้อมูลการออกใบรับรองสุขอนามัยวันที่ 1 – 10 สิงหาคม 2565)
จากการติดตามสถานการณ์ตั้งแต่ต้นปี 2565 พบว่า เดือนมกราคม – เมษายน อัตราการบริโภคไข่ไก่ปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากผู้บริโภคเลือกไข่ไก่ที่มีราคาถูกกว่าเป็นแหล่งโปรตีนทดแทนจากเนื้อสุกรที่มีราคาปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงสถานการณ์การระบาดของโควิด – 19 ที่อาการของผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มรุนแรงน้อยลงทำให้การค้าภายในประเทศคล่องตัวมากขึ้น กระทั่งในเดือนพฤษภาคม ไข่ไก่เริ่มมีการสะสมในระบบมากขึ้น ส่งผลให้แนวโน้มราคาไข่ไก่ปรับลดลง สวนทางกับต้นทุนการผลิตที่ยังคงมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากสถานการณ์สงครามรัสเซีย – ยูเครนได้แก่ ราคาน้ำมันและราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่สูงขึ้น ขณะที่กำลังซื้อของประชาชนลดลงเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจและราคาสินค้าที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ในเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม กรมปศุสัตว์จึงดำเนินมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาไข่ไก่จนสถานการณ์เริ่มคลี่คลายและราคาที่เกษตรกรจำหน่ายปรับตัวสูงขึ้น