
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อวงการพลังงานโลกอีกครั้ง หลังออกมาเปิดเผยว่า สหรัฐฯ มีแผนจะเก็บรักษาหรือขายน้ำมันดิบที่ยึดได้จากเรือบรรทุกน้ำมันนอกชายฝั่ง เวเนซุเอลา รวมถึงยึดตัวเรือไว้เป็นทรัพย์สินของสหรัฐฯ ด้วย
"เราจะเก็บน้ำมันพวกนี้ไว้ บางทีเราอาจจะขายมัน หรือบางทีเราอาจจะเก็บมันไว้ใช้ในคลังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ (Strategic Reserves) และเราจะยึดเรือพวกนั้นไว้ด้วย" ทรัมป์กล่าว
โดยความเคลื่อนไหวนี้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการ "ปิดล้อมเบ็ดเสร็จ" เพื่อบีบให้ นิโคลัส มาดูโร ผู้นำเวเนซุเอลาสละอำนาจ
ปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐฯ ในทะเลแคริบเบียนและแปซิฟิกตะวันออกทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมาก
ด้านรัฐบาลเวเนซุเอลาภายใต้การนำของมาดูโร ได้ออกมาประณามการกระทำของสหรัฐฯ ว่าเป็นการกระทำเยี่ยงโจรสลัด (Piracy) และเป็นการรุกรานอธิปไตยอย่างร้ายแรง โดยล่าสุดตามคำขอของเวเนซุเอลา คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ได้จัดการประชุมวาระเร่งด่วนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ท่ามกลางการสนับสนุนจากรัสเซียและจีนที่ตำหนิท่าทีของสหรัฐฯ ที่คุกคามสันติภาพในภูมิภาค
"ทรัมป์ควรเอาเวลาไปจัดการปัญหาเศรษฐกิจและสังคมในประเทศของตัวเองจะดีกว่า โลกจะน่าอยู่ขึ้นถ้าเขาสนใจแต่เรื่องในบ้านตัวเอง" นิโคลัส มาดูโร โต้กลับทรัมป์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ