
16 ธันวาคม 2568 การสู้รบกับกัมพูชา ยืดเยื้อมานานกว่า 1 สัปดาห์ และฝ่ายกัมพูชากดดันทหารไทยได้ไม่น้อย โดยยังไม่มีวี่แววว่าฝ่ายไทยจะเผด็จศึกได้ในระยะเวลาอันใกล้ ท่ามกลางกระแสข่าวกัมพูชามี “ตัวช่วย” ทั้งอาวุธทันสมัยอย่างไม่น่าเชื่อ และมีนักรบรับจ้าง ซึ่งเป็นชาวตะวันตกเข้ามาร่วมบังคับฝูงโดรนสังหาร
แหล่งข่าวซึ่งเป็นอดีตหัวหน้าหน่วยงานด้านความมั่นคงระดับประเทศ ซึ่งปัจจุบันยังเป็นที่ปรึกษาคนสำคัญให้กับฝ่ายความมั่นคง วิเคราะห์ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องปกติ เพราะ
1.ทำให้ฝ่ายยุทธการต้องเปลี่ยนมุมมองของสงครามครั้งนี้ จากที่เคยคิดว่าเป็นแค่การปะทะกัน ไม่กี่วันก็จบ กลายเป็นการปะทะที่ขยายพื้นที่ และเสี่ยงจะกลายเป็นสงครามขนาดใหญ่ ในแบบการประกาศสงครามเต็มรูปแบบกันจริงๆ
2.กัมพูชามีการเตรียมความพร้อมมากกว่าที่ฝ่ายไทยประเมินเอาไว้ โดยมีเจตนาสู้รบกับไทยอย่างชัดเจนและจริงจัง เห็นได้จากการจัดหาอาวุธที่ฝ่ายไทยคาดไม่ถึง และถูกนำมาใช้ เช่น อาวุธทันสมัยต่างๆ หรือแม้กระทั่ง BM-21 ที่ฝ่ายไทยเคยเชื่อว่ากัมพูชามีจำนวนจำกัด ปะทะกันไม่นานก็หมด แต่กลายเป็นว่ารบกันมาถึงตอนนี้ กัมพูชายังคงมีอาวุธที่พร้อมต่อสู้กับไทยเป็นจำนวนมาก
ฉะนั้นจึงน่าเชื่อว่า ยุทธศาสตร์ของกัมพูชาคือการ “สร้างสงครามยืดเยื้อ” เพื่อดึงนานาชาติ หรือมหาอำนาจเข้ามากดดันไทย ผ่านเทคนิคการให้ข่าวบิดเบือนแต่เร็วกว่าไทย ซึ่งทำมาตลอด
3.การทำสงครามด้วย “โดรน” ตรงตามที่ฝ่ายไทยคาดหมาย แต่ที่เหนือความคาดหมายคือ โดรนกัมพูชาฝ่าแนวป้องกันของไทยเข้ามาได้จำนวนมาก และยังมีนักรบต่างชาติเข้ามาช่วยในเรื่องยุทธการเกี่ยวกับโดรน ซึ่งขณะนี้มีข้อมูลค่อนข้างชัดเจนแล้ว
4.กรณีการใช้ “จารชน” แม้ในสงครามระหว่างประเทศจะกระทำกันทุกสมรภูมิ โดยหวังผล 3 ประการ คือ
แต่สิ่งที่ฝ่ายไทยคาดไม่ถึงก็คือ กัมพูชาไม่เคยให้น้ำหนักกับการทำสงครามจารกรรมมาก่อน แต่ครั้งนี้กลับให้น้ำหนักสูงมาก เหมือนกับได้รับการฝึก หรือแนะนำทางยุทธการจากชาติที่สาม
5. การสนับสนุนโดยประเทศที่ 3 เห็นชัดเจนว่ามีแน่นอน
มีทั้งการสนับสนุนเรื่องอาวุธ และโดรน ซึ่งในมุมวิเคราะห์ของฝ่ายความมั่นคง แม้จะเป็นการสนับสนุนอย่างไม่เป็นทางการ โดยไม่ผ่านระบบ “จัดซื้อระดับรัฐ” หรือการช่วยเหลือแบบให้เปล่าโดยรัฐ แต่รัฐบาลของประเทศที่สาม จะไม่รู้ไม่เห็นเลย คงเป็นไปไม่ได้ เพราะประเทศเหล่านี้ โดยเฉพาะชาติมหาอำนาจ มีเครือข่ายงานข่าวกรองฝังตัวอยู่ในประเทศสมาชิกอาเซียนทุกประเทศ มีการติดตามความเคลื่อนไหว รวมถึงดักรับ (ดักฟัง) การติดต่อสื่อสารของไทยและกัมพูชาตลอดเวลา ฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้น มีประเทศที่สาม โดยเฉพาะมหาอำนาจรู้เห็นแน่นอน
แหล่งข่าวระดับสูงจากกองทัพ วิเคราะห์และตั้งตุ๊กตาไปในแนวทางเดียวกันว่า