svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าวสถานการณ์

“สีหศักดิ์” ตอก “กัมพูชา” หยุดยิงเลยสิ ไม่ใช่พูดแล้วแต่ยังยิง

“สีหศักดิ์” ตอก “กัมพูชา” ก็หยุดยิงเลยสิครับ! ไม่ใช่พูดแล้ว แต่ยิงมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนพลเรือนไทยเสียชีวิต ยังไม่เห็น “กัมพูชา” ตัดสินใจเลือกทางสันติภาพ

14 ธันวาคม 2568 นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการพูดคุยสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ว่า ทางเวียดนามก็รับทราบ ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร เขาเห็นการแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี การคลี่คลายสถานการณ์ ซึ่งตนก็ได้บอกไปว่าขึ้นอยู่กับฝ่ายกัมพูชา ที่เขาแสดงความพร้อมเมื่อไหร่ เพราะเมื่อวานก็ยังเห็นได้ชัด

 

เมื่อวานยังพูดถึงการหยุดยิง แล้ววันนี้เขาทำอะไร เขาก็ยิง BM-21 ข้ามมาฝั่งไทย ถูกพลเรือนของเราเสียชีวิต และบาดเจ็บหลายคน พร้อมถามว่าแบบนี้กัมพูชาพร้อมจะหยุดยิงหรือไม่ เพราะฉะนั้น ถ้าเราจะพูดเรื่องการหยุดยิง ต้องพูดกันด้วยความจริงใจ และเราอยากจะให้ฝ่ายสหรัฐอเมริกาที่อยากจะเห็นการหยุดจริง อยากเห็นสันติภาพกลับมา ก็ต้องเข้าใจสถานการณ์อย่างแท้จริง เข้าใจความรู้สึกของคนไทย เข้าใจความรู้สึกของประเทศไทย

 

อย่างที่ตนเรียนไปว่า ความกังวลนั้น เป็นความกังวลอย่างแท้จริง เหตุการณ์ทุ่นระเบิดก็เกิดขึ้นจริง ไม่ได้เป็นอุบัติเหตุ เพราะฉะนั้นหากจะหยุดยิงต้องจริงใจต่อกัน พิสูจน์กันด้วยการกระทำ

สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ

 

เมื่อถามว่า ล่าสุด นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ชี้แจงกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เกี่ยวกับการหยุดยิง นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า ท่านพูดว่า อยากให้การยั่วยุทั้งหลายมีการยุติลง ท่านชี้แจงว่าไม่ได้พูดถึงเรื่องการหยุดยิง

 

ส่วนเกมหลังจากนี้ ที่กัมพูชายกระดับตัวเองเป็นผู้ถูกกระทำ จะทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบหรือไม่นั้น นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า ตนเคยเรียนตลอดเวลาว่า ประเทศไทยก็อยากจะคุยอย่างจริงจัง ในประเด็นที่เป็นปัญหาระหว่างกันเพื่อหาทางออก แต่ถ้ากัมพูชาไม่พร้อมที่จะคุยสถานการณ์ก็ต้องเป็นแบบนี้

“ผมเคยพูดหลายครั้งแล้วว่ามีสองเส้นทาง เส้นทางหนึ่ง คือ มีความขัดแย้งมากขึ้น มีความสูญเสียมากขึ้นทั้งสองฝ่าย อีกเส้นทางหนึ่ง คือ สันติภาพ มีการพูดคุยกัน ผมก็ยังรู้สึกว่าฝ่ายกัมพูชา ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าไปเส้นทางไหน เพราะฉะนั้นถ้ากัมพูชายังไม่ตัดสินใจ ประเทศไทยจะไปคนเดียวได้อย่างไร“

 

เมื่อถามว่า จุดไหนที่ทำให้เราเชื่อมั่นว่ากัมพูชาพร้อมที่จะพูดคุย นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า "ถ้าพูดถึงเรื่องการหยุดยิง ก็หยุดยิงได้เลยสิครับ ถูกหรือไม่ ไม่ใช่พูดถึงการหยุดยิง แล้วก็ยังยิง ซ้ำแล้วซ้ำอีก"

 

ส่วนที่จะมีการช่วยเหลือคนไทยจากกัมพูชากลับมาวันละ 1,000 ที่นั่ง นั้น นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า ถ้าออกทางชายแดนไม่ได้ ตามจุดผ่านแดน โดยเฉพาะที่ปอยเปต อาจจะต้องใช้วิธีการให้เดินทางกลับด้วยเครื่องบินพาณิชย์ ซึ่งเรามีเที่ยวบินที่ไปเสียมราฐ ตนเข้าใจว่าวันละ 3 เที่ยวบิน จะทยอยพาคนไทยที่ประสงค์จะกลับประเทศไทยผ่านทางอากาศ

 

ส่วนที่ นายอันวาร์ จะมีการเรียกประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาเซียน ต้องมีการเตรียมตัวอย่างไรนั้น นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า อันดับแรกเราพร้อมที่จะไป ขึ้นอยู่กับว่าจะจัดได้หรือไม่ และขึ้นอยู่กับประเทศอื่น ๆ ว่าพร้อมที่จะไปด้วยหรือไม่ การประชุมออนไลน์ คิดว่าเรื่องที่สำคัญแบบนี้ ต้องประชุมที่นั่นเลย การประชุมออนไลน์ไม่ทำให้สามารถคุยกันลงลึกอย่างแท้จริง ซึ่งเราก็มีความพร้อมที่จะไปพูดคุยในประเด็นที่เป็นปัญหาจริง ๆ

 

เบื้องต้นได้พูดคุยถึงวันที่ประเทศไทยสะดวก ซึ่งเร็วที่สุดจะเป็นวันที่ 16 ธันวาคม 2568 นี้ ซึ่งเราก็พร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่ และได้ให้วันไป แต่ตอนนี้ยังตกลงกันไม่ได้เรื่องวัน ยังต้องดูอีกที และอาจจะไม่ได้ไปประชุมที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยเราได้เสนอให้ไปประชุมที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของอาเซียน

 

“สีหศักดิ์” ตอก “กัมพูชา” หยุดยิงเลยสิ ไม่ใช่พูดแล้วแต่ยังยิง

 

สำหรับกรณีที่กองทัพต้องการให้กระทรวงการต่างประเทศช่วยชี้แจงประชาคมโลก ภายหลังตรวจพบสมุดจดบันทึกพิกัดการวางทุ่นระเบิดของทหารกัมพูชานั้น นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า เราชี้แจงมาตลอดในทุกโอกาสและทุกเวทีก็นำประเด็นนี้ไปชี้แจง เช่น ในการประชุมรัฐสภาคีอนุสัญญาออตตาวา ที่นครเจนีวา ก็ได้พูดถึงกรณีที่ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดถึง 7 ครั้ง และได้เสนอในแง่ของถ้อยแถลง นำเสนอวิดีโอคลิปซึ่งทำมาในทุกเวที

 

เมื่อถามว่าการที่กัมพูชาเริ่มกลับมาโจมตีพื้นที่พลเรือน จะยกระดับการชี้แจงตอบโต้อะไรเพิ่มเติมมากกว่าการประณาม นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของฝ่ายทหารในการดำเนินการ ซึ่งฝ่ายทหารรู้ว่าจะต้องทำอย่างไร ในส่วนการปฏิบัติการทางการทูตก็พร้อมสนับสนุนการปฏิบัติการทางทหาร การยกระดับอะไรต่าง ๆ คงเป็นเรื่องของฝ่ายทหาร

 

ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายกังวล ว่าท่าทีที่แข็งกร้าวของไทยจะทำให้นานาชาติมองไทยเป็นผู้เล่นที่ก้าวร้าว นายสีหศักดิ์ ระบุว่า ตนไม่คิดว่าเราก้าวร้าว เรามีท่าทีที่ปกป้องผลประโยชน์ และไม่ได้คิดว่า เราตั้งใจที่จะมามีท่าทีที่แข็งกร้าวเกินความจำเป็น ซึ่งเราต้องปกป้องผลประโยชน์ของเราอย่างเต็มที่อยู่แล้ว คงไม่ใช่ท่าทีที่ก้าวร้าว การที่ทหารไทยต้องสูญเสียขา แล้วเราออกมาแสดงท่าที่ที่เข้มแข็งในเวทีระหว่างประเทศ เป็นการก้าวร้าวหรือไม่ ซึ่งก็ไม่ได้ก้าวร้าว