svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าวสถานการณ์

"กองทัพไทย" นำโทรศัพท์มือถือ "ทหารกัมพูชา" ที่ตรวจยึดไว้ มาแสดงให้ "คณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศดู"

"กองทัพไทย" นำโทรศัพท์มือถือ "ทหารกัมพูชา" ที่ตรวจยึดไว้ มาแสดงให้ "คณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศดู" โดยมีข้อมูลภาพที่ใช้เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์

14 พฤศจิกายน 2568 กองทัพไทย จัดการประชุมชี้แจงและแสดงหลักฐานต่างๆ ในสถานการณ์ความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา

โดยมีผู้บังคับบัญชาของกองบัญชาการกองทัพไทย ร่วมกับ ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ และผู้แทนสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ให้ข้อมูลสำคัญต่อ คณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย (Military Attache Corps to Thailand : MAC-T) 18 ประเทศ ณ ห้องประชุมออดิทอเรียม อาคาร 9 กองบัญชาการกองทัพไทย

 

 

"กองทัพไทย" นำโทรศัพท์มือถือ "ทหารกัมพูชา" ที่ตรวจยึดไว้ มาแสดงให้ "คณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศดู"

การชี้แจงมุ่งเน้นประเด็นสถานการณ์ความมั่นคงบริเวณชายแดน โดยเฉพาะกรณีทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดที่พิสูจน์ทราบแล้ว ทั้งหลักฐานเชิงประจักษ์และทางนิติวิทยาศาสตร์ว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่ ในพื้นที่ห้วยตามาเรีย อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ได้รับความสนใจจากนานาประเทศ

 

"กองทัพไทย" นำโทรศัพท์มือถือ "ทหารกัมพูชา" ที่ตรวจยึดไว้ มาแสดงให้ "คณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศดู"

 

"กองทัพไทย" นำโทรศัพท์มือถือ "ทหารกัมพูชา" ที่ตรวจยึดไว้ มาแสดงให้ "คณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศดู"

 

"กองทัพไทย" นำโทรศัพท์มือถือ "ทหารกัมพูชา" ที่ตรวจยึดไว้ มาแสดงให้ "คณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศดู"

 

"กองทัพไทย" นำโทรศัพท์มือถือ "ทหารกัมพูชา" ที่ตรวจยึดไว้ มาแสดงให้ "คณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศดู"

 

"กองทัพไทย" นำโทรศัพท์มือถือ "ทหารกัมพูชา" ที่ตรวจยึดไว้ มาแสดงให้ "คณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศดู"

 

"กองทัพไทย" นำโทรศัพท์มือถือ "ทหารกัมพูชา" ที่ตรวจยึดไว้ มาแสดงให้ "คณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศดู"

 

"กองทัพไทย" นำโทรศัพท์มือถือ "ทหารกัมพูชา" ที่ตรวจยึดไว้ มาแสดงให้ "คณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศดู"

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

โอกาสนี้ เจ้ากรมข่าวทหาร ได้กล่าวถึงเจตนารมณ์อันแน่วแน่ของไทย ในการปฏิบัติตามมติคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) และคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) อย่างใกล้ชิด รวมถึงการอำนวยการและประสานงานร่วมกับคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) ซึ่งต่อมาได้ปรับเป็นคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) เพื่อให้การเจรจาดำเนินไปตามข้อตกลงการหยุดยิงของทั้งสองฝ่าย

 

นอกจากนี้ ไทยให้ความสำคัญอย่างยิ่งและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดต่อ Joint Declaration หรือถ้อยแถลงผลการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีไทย และนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นเอกสารที่ไทยยืนยันเสมอว่าเป็นแนวทางสำคัญในการมุ่งสู่สันติภาพที่ยั่งยืน

 

สำหรับเหตุการณ์ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดที่เกิดขึ้นซ้ำหลายครั้ง ส่งผลให้สถานการณ์ความขัดแย้งเผชิญกับความตึงเครียดและซับซ้อนมากขึ้น เนื่องจากสะท้อนให้เห็นถึงการที่กัมพูชา ขาดความจริงใจ และไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง ซึ่งนำไปสู่การดำเนินมาตรการตอบโต้ของรัฐบาลไทยในที่สุด โดยฝ่ายไทยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าประเทศต่างๆ จะเข้าใจบริบทและเหตุผลของการดำเนินมาตรการดังกล่าว

 

 

โดยการชี้แจงครั้งนี้แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ครอบคลุมภาพรวมสถานการณ์ หลักฐาน และผลพิสูจน์ทางเทคนิค ได้แก่

1. พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม ชี้แจงภาพรวมสถานการณ์ความขัดแย้งไทย–กัมพูชา โดยเฉพาะเหตุการณ์ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดหลายครั้งตลอดระยะเวลา 2–3 เดือนที่ผ่านมา จนนำไปสู่เหตุผลในการตอบโต้ของรัฐบาลไทย

2. พันเอก ดนัย จำนงชอบ ผู้แทนกรมข่าวทหารบก นำเสนอหลักฐานและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดน รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับการปะทะครั้งล่าสุด

3. พันเอก สัณฐิชัย ชมภูจันทร์ ผู้แทนศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ชี้แจงผลการตรวจสอบและพิสูจน์ทราบทั้งทางหลักฐานเชิงประจักษ์และทางวิทยาศาสตร์ว่าเป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่วางใหม่  ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้คณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศเข้าใจข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ และเห็นบริบทของความจำเป็นในการดำเนินการของรัฐบาลไทย

 

ในช่วงท้าย เจ้ากรมข่าวทหาร ได้กล่าวแสดงความขอบคุณต่อคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ ที่ให้เกียรติสละเวลาเข้ารับฟังการชี้แจง พร้อมทั้งให้ความสนใจ ซักถาม และแลกเปลี่ยนมุมมองอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นร่วมกันของประเทศต่าง ๆ ในการธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาค

 

กองทัพไทย ย้ำว่าการดำเนินการดังกล่าวคือการทูตด้านความมั่นคงอย่างแท้จริง เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจร่วมกันในระดับสากลและสนับสนุนความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศอย่างยั่งยืน

 

 

ทั้งนี้ ฝ่ายทหารไทย ยังนำโทรศัพท์มือถือ ของทหารกัมพูชา ที่ตรวจพบและยึดไว้ มาแสดงให้ทูตทหารต่างประเทศดู โดยมีข้อมูลภาพที่ใช้เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์

 

"กองทัพไทย" นำโทรศัพท์มือถือ "ทหารกัมพูชา" ที่ตรวจยึดไว้ มาแสดงให้ "คณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศดู"

 

"กองทัพไทย" นำโทรศัพท์มือถือ "ทหารกัมพูชา" ที่ตรวจยึดไว้ มาแสดงให้ "คณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศดู"

 

"กองทัพไทย" นำโทรศัพท์มือถือ "ทหารกัมพูชา" ที่ตรวจยึดไว้ มาแสดงให้ "คณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศดู"

 

"กองทัพไทย" นำโทรศัพท์มือถือ "ทหารกัมพูชา" ที่ตรวจยึดไว้ มาแสดงให้ "คณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศดู"