“กัน จอมพลัง” ประกาศพักลงพื้นที่ ร่ำไห้สละเวลาลูกเพื่อสังคม

24 ตุลาคม 2568 ที่กระทรวงมหาดไทย นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าพบเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทย เพื่อขอให้มีการตรวจสอบความโปร่งใส ในการดำเนินการของ มูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้ โดยระบุว่า หลังจากการแถลงข่าวชี้แจงช่วงเช้า ตนรู้สึกเบาใจมากยิ่งขึ้น เชื่อว่ามีกลุ่มผู้ติดตามเข้าใจ เพราะทุกประเด็นที่ชี้แจง ทุกอย่างมีเอกสารในการนำเสนอ 

วันนี้ที่เดินทางมากระทรวงมหาดไทย เพื่อความชัดเจนเพื่อความโปร่งใสอีกชั้นหนึ่ง จึงเดินทางมาให้มีการตรวจเช็กอีกรอบนึงว่า เอกสารที่ตนแสดงไว้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ต้องการให้กระทรวงมหาดไทยตรวจสอบว่า การดำเนินการและเส้นทางการเงินต่างๆของมูลนิธิกันจอมพลังฯ เป็นไปอย่างถูกต้อง และเป็นบรรทัดฐานในการจัดทำมูลนิธิอื่น ไว้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ตอนนี้ตนจะยื่นคำร้อง ให้กระทรวงมหาดไทยตรวจสอบ เชื่อว่ามีกระบวนการที่เป็นรูปแบบอยู่แล้ว หากต้องการสิ่งใด หรือความร่วมมือส่วนไหนตนพร้อมที่จะทำทุกรูปแบบ เพื่อให้ความโปร่งใสออกมามากที่สุด

กัม จอมพลัง กล่าวว่า ที่ต้องการให้เป็นกระทรวงมหาดไทย เพราะเชื่อว่า สามารถชี้อยู่ชี้ตายของมูลนิธิได้เลยถ้าไม่มีความโปร่งใส เราอยู่ไม่ได้ หน่วยงานนี้ตนมั่นใจและดูแลเรื่องมูลนิธิโดยตรง สิ่งที่ตนและประธานมูลนิธิฯ ได้พูดถึงการเลือกมูลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่า เรายอมรับโดยตรงว่า เราใหม่ และเรารีบร้อนที่จะจัดการ เราหามีการตำหนิ ตนไม่ว่าใคร ไม่โกรธใคร
 

ยอมรับว่า เรื่องนี้ส่งผลกระทบหลายคนรวมถึง ร.อ.ธรรมนัส ถ้าพูดกันตามลูกผู้ชาย ตนต้องขอโทษที่ทำให้หลายคนได้รับผล กระทบ ที่ผ่านมาการก่อตั้งและมีชื่อของ ร.อ.ธรรมนัส เป็นการที่ตนได้ปรึกษากับเจ้าหน้าที่มูลนิธิ ไม่ใช่ ร.อ.ธรรมนัส โดยตรง

เมื่อถามว่า เหตุใดใช้ชื่อมูลนิธิธรรมนัสฯ แต่ไม่ปรึกษา ร.อ.เอกธรรมนัส กัน จอมพลัง กล่าวยอมรับว่า ตนคิดน้อยและแค่อยากให้มูลนิธิได้รีบออกมาทำงานให้ประชาชน ไม่ได้คิดที่จะล้มเลิกมูลนิธิในวันใดวันหนึ่ง ยอมรับว่าตนเป็นคนหนึ่งที่บางครั้งอาจจะทำเอาเร็วไม่ได้คิดมาก เป็นคนนึงที่มีความผิดพลาดได้

ส่วนที่มีบางคนมองว่า การตั้งมูลนิธิกันจอมพลังฯ เป็นมูลนิธิม้า ทั้งนี้หลายคนที่โอนเงินเข้ามาในบัญชีกันจอมพลัง ไม่ได้มองว่าประธานเป็นใคร มองว่าเป็นการนำเงินไปใช้ประโยชน์เพื่อสังคม นำไปช่วยทหารตำรวจจริงๆ และเราก็ทำแบบนั้น ประชาชนก็เห็นผลงานที่เป็นที่ประจักษ์ เรื่องนี้ไม่ใช่เฉพาะที่ตนที่พูด แต่ประชาชนเองก็พูด ถ้าจะเป็นบัญชีม้าตนไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์ส่วนตน และไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์เพื่อใคร

ในส่วนว่าจะไปให้สำนักงาน ปปง.ตรวจสอบเรื่องเส้นเงินหรือไม่ ตนก็ยินดี แต่ในเบื้องต้นให้กระทรวงมหาดไทย สามารถเป็นแม่งานในการดำเนินการตรวจสอบตนได้เลย ทั้งนี้ถ้าไม่บริสุทธิ์ใจคงไม่เดินทางมาให้ตรวจสอบที่นี่ ในประเด็นการฟอกเงิน มีหลายคนที่ออกมาว่า ไม่ได้ต้องการเงินคืน ก็ยังมีอยู่ ไม่ใช่ว่า เงินมาโดยไม่มีที่มา
 

ส่วนหลังจากนี้จะลงพื้นที่ทำงานอีกหรือไม่ จากนี้ขอใช้เวลาอยู่กับลูกและครอบครัวและทำงาน ถ้าวันไหนที่สังคมเรียกร้อง ตนก็จะกลับมาทำงานอีกครั้ง
 

เมื่อถามว่า จะพักการลงพื้นที่นานหรือไม่ ตอบว่า ก็คาดว่าจะเป็นช่วงเวลาหนึ่ง เพราะต้องยอมรับว่า สิ่งที่ตนขาดมาตลอดคือเวลาที่อยู่กับลูก ทั้งนี้ลูกสาวหน้าตาเหมือนตนมาก แต่ลูกสาวเองบอกว่าหน้าเหมือนแม่ ส่วนหนึ่งคิดว่าเป็นเพราะเขาใช้เวลาอยู่แต่กับแม่
 

ในช่วงท้ายของการสัมภาษณ์กัน จอมพลัง ได้ กล่าวพร้อมน้ำตา ระบุว่า
 

"ผมสละเวลาของผมกับลูกมามาก เวลาที่อยู่กับลูกแทบไม่มี มันเป็นมุมของพ่อหลายคนที่เจ็บปวด ลูกสาวเหมือนผมมาก แต่ลูกก็บอกไม่เหมือน เพราะผมไม่มีเวลาใกล้ชิด จะมีกี่คนที่ทำแบบผม ผมก็เป็นคนหนึ่งที่เอาเวลาของครอบครัว เอาเวลาของภรรยา มาใช้กับสังคม จากนี้ผมก็จะเอาเวลาที่ทำส่วนนี้ไปให้ครอบครัว"