
24 ตุลาคม 2568 เวลา 10.00 น. ที่โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น ชั้น 2 กัน จอมพลัง หรือ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ พร้อม น.ส.กาญจนา สถาวร หรือ อีฟ ประธานมูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้ และกรรมการ รวมถึงคนทำบัญชี แถลงชี้แจงเรื่องเงินบริจาคของมูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้ รวมถึงประเด็น การจดทะเบียนมูลนิธิในข้อ 39 ที่ระบุว่า ถ้ามูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้ เลิกล้ม ให้ยกทรัพย์สินให้ มูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า
โดย น.ส.กาญจนา สถาวร กล่าวว่า มูลนิธิตั้งมาโดยมีเงินตั้งต้น 5 แสนบาท จากการลงขันของเพื่อนกันจอมพลัง มีเงินเข้ารวม 207,350,262.04 บาท ใช้ไปแล้ว 117,673,106.02 บาท และมีเงินคงเหลือในบัญชี 90,177,156.02 บาท
เรื่องข้อ 39 ถ้ายุบเลิกมูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้ จะโอนให้มูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า นั้น เป็นเพราะตอนนั้นเรารีบทำ เพราะทำกันเองไม่ไหวแล้ว เราเป็นผู้สัมมาอาชีพ ทำนานก็ไม่ไหวแล้ว เราส่งเอกสารตอนแรก ถูกตีตก เพราะไม่รู้เรื่องข้อนี้ ว่าต้องใส่ด้วยหรือไม่อย่างไร ส่วนที่ประชาชนส่งสัยว่าทำไมต้องเป็นมูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า ทั้งที่มีมูลนิธิเป็นร้อยเป็นพัน ทำให้คนเข้าใจว่าเรายกทรัพย์สินให้เลย หรือเป็นของมูลนิธิธรรมนัสแล้ว ซึ่งไม่จริง จะเป็นเช่นนั้นเมื่อยุบเลิก แต่ตอนนี้เรายังไม่เลิก และถ้าเอาเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ทั้งของมูลนิธิ และผู้บริจาค ถ้าถูกมหาดไทยตรวจสอบ เราก็มีความผิดในข้อบังคับ ซึ่งยังไม่เกิดขึ้น ยังไม่เคยโอนเงินให้มูลนิธิธรรมนัส ที่ผ่านมา โอนให้ราชประชานุเคราะห์ และเพื่อนพึ่งภายามยาก เพียง 2 แห่งเท่านั้น
“เนื่องจากเคยมีกรณีแจ็คสัน หวัง ที่โอนเงินให้ แล้วมีจุดประสงค์ให้โอนให้อีก 2 มูลนิธิ ก็ดำเนินการตามที่ผู้บริจาคมีวัตถุประสงค์”น.ส.กาญจนา กล่าว และว่า
เราเปิดบัญชีของมูลนิธิ 2 บัญชี มีอันนึงเป็นบัญชีที่เดินอยู่ อีกบัญชียังไม่ได้เคลื่อนไหว การเบิกเงินต้องมีกรรมการ 2 ใน 3 ซึ่งตนไม่เคยไปเบิกร่วมกับใคร มีเงินเข้า 5 แสนกว่ารายการ ไม่พบการเบิกเงินสดเลย
โดย กัน จอมพลัง กล่าวเสริมว่า ไม่พบการถอนเงินสดออกจากบัญชีมูลนิธิฯเลย เพราะเงินสดทุจริต มุบมิบ ไม่มีรายการเดินได้ มีปัญหาตามมาในอนาคต มูลนิธิเราเลยไม่กดเงินสดออกเลย
น.ส.กาญจนา กล่าวด้วยว่า สาเหตุที่เลือกมูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า เพราะเคยร่วมมือกับมูลนิธิธรรมนัส ตอนไม่มีมูลนิธิ ตอนน้ำท่วมก็ได้รับความช่วยเหลือ ที่ไม่ใช่เงิน เช่น ตั้งโรงครัว ทำอาหาร มีผู้ใหญ่สนับสนุนการทำอาหาร เมื่อเราถูกตีกลับจากมหาดไทย ว่าต้องใส่มูลนิธิรับช่วงต่อ ซึ่งไม่ใช่แค่ใส่เฉยๆ เพราะเขาไม่ได้รับแค่ทรัพย์สิน แต่ต้องรับภาระอื่นๆ ได้คุยกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิธรรมนัส เขายอมรับ ก็เลยเหมาะสมที่สุด ณ วันนั้น แต่ไม่ใช่ว่าแก้ไขอะไรไม่ได้
ขณะที่ กัน จอมพลัง กล่าวว่า สาเหตุที่ใส่ชื่อมูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า เพราะรีบ แต่พอเรื่องมันเกิด หลายคนไม่สบายใจ ตอนนั้นอาจคิดน้อย ตอนนี้คุยแล้ว จะเปลี่ยนข้อ 39 เป็นมูลนิธิที่มีความมั่นคง แต่ไม่บอกชื่อ เดี๋ยวหาว่าโหนเขาในวันที่เรามีปัญหา
เมื่อถามว่า ทำไมกัน ไม่มาเป็นประธานมูลนิธิเอง กัน จอมพลัง กล่าวว่า ตอนแรกคิดใช้ชื่อตน เพราะเมื่อตายไปแล้ว ก็จะช่วยต่อได้ อีกมุมการไม่มีอำนาจ ก็จะเป็นความโปร่งใส หลายคนอาจคิดว่าไม่นั่ง ไม่โปร่งใส วันนี้หลายคนอยากให้นั่ง ก็จะมานั่งเอง ถ้าเราไม่โปร่งใส เดี๋ยวผมมานั่งเอง
กัน จอมพลัง บอกด้วยว่า วันแรกที่เราตั้ง ก็ไม่คิดว่าจะมาขนาดนี้ เราไม่มีทรัพย์สินหรือเงินทอง เช่าแค่ห้องเก็บเอกสาร การทำงานก็ลงพื้นที่ส่วนใหญ่ ห้องทุกวันนี้ เรามีเป็นโกดัง เป็นฐานปฏิบัติการ ที่มีสื่อมวลชนเคยไปด้วย จริงๆถ้าได้รับสนุนจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า มีเงินถุงเงินถัง เราจะไปเริ่มที่พื้่นที่เล็กๆทำไม แต่ตอนนี้ก็ขยายไปตามเวลา
เมื่อถามว่า สนิทกับ ร.อ.ธรรมนัสไหม กัน จอมพลัง กล่าวว่า สนิทนะ ผมสนิท ส่วนที่รับงานปีหนึ่งกระทรวงเกษตรฯ มี 5 พันกว่างาน งานเจาะจงรูปแบบ ก็ดูเรื่องความเหมาะสม เขาก็เชิญผมไป 5 พันงาน เหมาะสมแค่ 3 งาน ถ้าสัมพันธ์ส่วนตัว ทำไมไม่ได้สักพันงาน นี่งานประชาสัมพันธ์ ไม่ใช่จัดซื้อ ถ้าทำถนน ก็ดูแปลก 2 ปี ได้ 7 งาน จาก 1 หมื่นงาน บางบริษัท ปีนึงได้ 77 งาน มากกว่าผมอีก ก็ต้องลองดูว่าปกติไหม แต่ยืนยันไมได้ไปซูเอี๋ย หรือวิ่งงานเลย
กัน จอมพลัง บอกด้วยว่า ตอนนี้มีเงินเหลือ 90 ล้านบาท แต่ก็มีที่ต้องรอจ่ายอีกประมาณ 94.45 ล้าน บังเกอร์ โรงเรียน โรงพยาบาลของทหาร ของตำรวจ การสร้างฐานบัญชาการ ไฟฟ้า ห้องน้ำ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทางทหาร ช่วยซัพพอร์ตทางทหาร สร้างสะพาน กระเช้า ซึ่งมีหนังสือขอความอนุเคราะห์จากหน่วยงาน ถ้าคิดเงินรอจ่าย ก็ติดค้างอยู่ 4-5 ล้าน
ทั้งนี้ในการแถลงข่าว ปรากฏว่า ไอซ์ รักชนก ศรีนอก สส.พรรคประชาชน กับ ณวัฒน์ อิสรไกรศีล มาร่วมฟังการแถลงข่าวและตั้งคำถามกับกัน จอมพลังด้วย
โดยไอซ์ รักชนก ศรีนอก ถามว่า ทำไมต้องโกหกออกสื่อว่าไม่สนิท ร.อ.ธรรมนัส เพราะพฤติกรรมที่ผ่านมา ก็สนิทสนมจนมีวันนี้ แล้วการไปออกงานกระทรวงเกษตรฯ และพรรคกล้าธรรม ทำไมต้องโกหกกับพี่น้องประชาชนเพื่อเบี่ยงเบนประเด็น
กัน จอมพลัง กล่าวว่า ผมบอกในรายการว่าผมสนิท กับคนที่ช่วยสังคม ก็บอกว่าสนิทประมาณนี้ ผมไม่รู้ว่าสนิทของคุณไอซ์ ต้องสนิทประมาณไหน ผมก็สนิทกับคนอื่นๆแบบนี้ อย่าง สก.พรรคประชาชน ก็สนิท ผมก็สนิทกับทุกคนแบบนี้เช่นเดียวกัน ถ้าคุณไอซ์ มองว่าผมช่วยพี่น้อง กลายเป็นการหาเสียง ผมก็ช่วยพรรคประชาชน ช่วย สก. อย่างนี้ก็หาเสียงเหรอ ผมไม่ได้เป็นเครื่องมือทางการเมืองให้ใคร อย่างผมสนิทกับคนของพรรคประชาชน ช่วยเรื่องสแกมเมอร์ที่ผ่านมา ขอให้ช่วย ผมก็ช่วย แต่ก็อยากได้คนที่จริงจัง ถ้าได้คนไม่จริงจัง ก็เสียเวลาเปล่า
ขณะที่ ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ตั้งคำถามในฐานะผู้บริจาคเงินให้กันจอมพลัง โดยถามว่าทำไมน.ส.กาญจนา ถึงไม่เปิดตัวว่าเป็นประธานมูลนิธิฯตั้งแต่ต้น ขณะที่ น.ส.กาญจนา พยายามชี้แจงว่า ไม่เคยปิดบัง
นอกจากนี้ ณวัฒน์ ยังตั้งคำถามถึงกรณ์ที่ กัน จอมพลัง เคยโดยสารเฮลิคอปเตอร์หน่วยงานราชการ โดยกัน จอมพลัง ตอบว่า ผมประสานในพื้นที่ภัยพิบัติชาวบ้านบนดอย ใครปฏิบัติภารกิจในพื้นที่บ้าง เครื่องว่างขอติดไป เอาของไปลงให้ชาวบ้าน วันนั้นรถก็เข้าไม่ได้ เดินไม่ได้ ชาวบ้าน 3 วันไม่ได้กินข้าว ผมไม่รู้จริงๆว่าสิ่งที่ผมทำถูกไหม ผิดไหม
นอกจากนี้ กัน จอมพลัง แจ้งด้วยว่า วันนี้เวลา 14.00 น. จะเดินทางไปกระทรวงมหาดไทย ให้ตรวจสอบมูลนิธิกัน จอมพลัง ว่าทุจริตไหม มีเงินเข้าหาร.อ.ธรรมนัส หรือมูลอื่นๆไหม มีการกดเงินสดออกมาใช้ไหม เพื่อความโปร่งใส
ทั้งนี้ ณวัฒน์ กล่าวในตอนท้ายว่า ผมมั่นใจว่ากัน จอมพลังและมูลนิธิกัน จอมพลัง ไม่มีเรื่องการทุจริต แต่สิ่งที่สังคมถามคือสิ่งที่บดบังอยู่ในเรื่องประธานมูลนิธิฯ สิ่งที่เรามายืนตรงนี้ ไม่ได้ว่าคุณกันทำผิดนะ แต่มูลนิธิแจ้งข้อมูลไม่ครบ ส่วนกรณีที่อิงแอบการเมืองซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าคนต้องคิด ตรงนี้เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่สบายใจ แต่ถามว่าผิดไหม ไม่ผิดกฎหมาย แต่มันอาจผิดตรงที่นู่นนี่นั่นมันกลับไปกลับมา แต่ตอนนี้ต้องเยียวยาวความรู้สึก ประชาชนที่กำลังดิ่งลงเหว ด้วยการเปิดเผยข้อมูลครบถ้วนรอบด้าน ตรงนี้ผิดพฤตินัย ไม่ได้ผิดกฎหมาย