
27 ธันวาคม 2568 จากกรณีทีมพนักงานสืบสวนสอบสวน ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) นำโดย บก.ปปป. ได้ขอหมายค้นต่อศาลอาญา เพื่อเข้าตรวจค้นรวม 11 จุด ในพื้นที่ กทม.และ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อตรวจยึดพยานหลักฐานที่มีความเชื่อมโยงกับคดีที่ พ.ต.อ. ภ คนดัง ไปข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป.ว่า พล.ต.อ. อดีตบิ๊กตำรวจ นายหนึ่ง ใช้ให้ พ.ต.อ. ภ นำสินบนทองคำ น้ำหนักประมาณ 246 บาท มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท ไปให้ นาย อ. กรรมการองค์กรอิสระคนหนึ่ง เพื่อวิ่งเต้นคดีให้พ้นจากความผิด คดีที่เส้นเงินคนใกล้ชิดไปโยงเกี่ยวกับเว็บการพนันออนไลน์
ล่าสุด มีรายงานว่า ในการนำทองคำไปมอบให้กับนาย อ. นั้น มีการแอบถ่ายคลิปไว้ โดยการสั่งการ พล.ต.อ. สำหรับใช้เป็นเครื่องมือในการแบล็คเมล์ นาย อ. หากไม่ดำเนินการให้ตามที่มีการตกลงกัน
หลังจากที่มีการมอบทองคำให้ไปแล้ว นาย อ. ก็ได้เร่งรัดทำการไต่สวนผู้เกี่ยวข้อง จนสรุปผลการไต่สวน และพยายามจะนำสำนวนเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการชุดใหญ่
แต่ห้วงดังกล่าวหานั้น มีผู้เกษียณอายุราชการ พ้นจากตำแหน่งไปหลายคน ทำให้เสียงกรรมการปริ่มๆ และกรรมการหลายคนที่ทราบข้อมูล ข้อเท็จจริงในสำนวน ไม่เห็นด้วยกับความเห็นของอนุกรรมการ ชุดที่ นาย อ. ไต่สวนมา จึงพยายามทำให้องค์ประชุมไม่ครบไม่สามารถประชุมกันได้ จนสุดท้ายก็ยังไม่สามารถนำเรื่องการไต่สวนของคณะ นาย อ.เข้าสู่การประชุมได้
รายงานข่าวระบุต่อว่า หลังจากนั้น พล.ต.อ. ก็ได้เร่งรัดกดดัน นาย อ. มาโดยตลอด จนสุดท้าย คนสนิทของ นาย อ. ก็พยายามติดต่อ ขอคืนทองคำ ให้กับ พล.ต.อ. แต่ก็ยังไม่มีการคืนทองคำกันได้ จนในที่สุด พล.ต.อ. ได้ออกมากดดัน กล่าวหาตำรวจว่า เป็นองค์กรอาชญากรรมเเละเรื่องรับส่วย ในส่วนคดีก็พยายามโยนความผิดให้ พ.ต.อ. ภ และ พ.ต.ท. ค ในทุก ๆ เรื่อง เพื่อให้ตัวเองพ้นผิด
สุดท้าย พ.ต.อ. ภ ทนไม่ไหว จึงเป็นสาเหตุที่ พ.ต.อ. ภ นำคลิปการส่งมอบทองคำมาส่งให้กับทีมตำรวจ บก.ปปป. พร้อมให้รายละเอียดในทางคดี รวมถึงบอกเล่า หรือ ที่เรียกว่าเเฉพฤติกรรมต่างๆ ของ พล.ต.อ. ที่บิดเบือนข้อเท็จจริงในหลายประเด็น โดยระบุชัดว่า ข้อเท็จจริงในหลายประเด็นไม่ได้เป็นตามที่ พล.ต.อ. เคยให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนและสังคม เป็นการดิสเครดิตองค์กรตำรวจ
หลังได้รับข้อมูลพยานหลักฐาน พนักงานสอบสวน บก.ปปป. จึงได้รวบรวมหลักฐาน และเสนอต่อศาลอาญาเพื่อขอออกหมายค้น รวมทั้งสิ้น 11 จุด ในพื้นที่ กทม.และ จ.สุราษฎร์ธานี
โดยผลการตรวจค้นในเบื้องต้น พบทองคำแท่ง น้ำหนักประมาณ 120 บาท อยู่ในบ้านพักของลูกน้องคนสนิท ของ นาย ส. อดีต อนุกรรมการในองค์กรอิสระแห่งหนึ่ง ในชุดของ นาย อ. ซึ่งนาย ส.เป็นบุคคลที่เคยถูกกล่าวหาว่า ร่วมกับเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ พล.ต.อ. ในเรื่องการแจ้งบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ กรณีเงินมาซื้อปืน ที่อ้างว่าได้มาจากค่านายหน้าขายพระ
ต่อมา อดีต ผู้ว่า ฯ ก็ให้การยืนยันว่า ไม่เคยขายพระได้เงินจำนวนมากเหมือนที่ พล.ต.อ. ให้ข้อมูลองค์กรอิสระ ไว้ และยังมีอีกหลายๆ เรื่องที่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาขององค์กรอิสระดังกล่าว
ทีมตรวจค้นยังพบหลักฐานเด็ดเป็นเอกสารเกี่ยวกับการซื้อทองคำ เเละเอกสารที่สำคัญๆ หลายรายการ
ที่สำคัญยังพบพยานบุคคลคนสำคัญ ที่เป็นคนรับทองจาก พ.ต.อ. ภ ที่ให้การซัดทอดว่า ได้ส่งมอบทองคำดังกล่าวให้กับ นาย อ. ที่ไปด้วยกันในรถทันที ตรงนี้ ถือเป็นพยานปากสำคัญในคดีนี้ ที่ให้การมัดตัว นาย อ. อย่างไม่อาจปฏิเสธได้
นอกจากนี้ ทีมตรวจค้นยังพบเอกสารสำคัญอีกหลายๆ รายการ ที่อาคารสำนักงานให้เช่า ตั้งอยู่บนถนนรัชดาภิเษก ฝั่งตรงข้ามศาลอาญา เป็นสถานที่ที่ พล.ต.อ. ใช้เป็นวอร์รูม ในการต่อสู้คดี เเละเป็นสถานที่ ที่ทีมทนาย และทีมกฎหมายของ อดีต อนุกรรมการในองค์กรอิสระดังกล่าว รวมถึงลูกน้องของ พล.ต.อ. ใช้เป็นสถานที่ช่วยกันวางแผน ต่อสู้คดี
รวมทั้งการวางเเผนให้ นางสาว พ. คนดัง คนทำบัญชีเว็บพนัน ไปกล่าวหาบุคคลต่างๆ ที่ปรากฎเป็นข่าว โดยมีทีมทนาย และลูกน้อง ของ พล.ต.อ. เขียนสคริปต์ให้
นอกจากนี้ ยังมีการพบผังเส้นเงินที่ทำไว้ในห้องวอร์รูมดังกล่าวด้วย ขณะที่มีการตรวจค้นยังมีรายงานว่า พล.ต.อ. ได้เข้าไปกดดัน เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เก็บรวบรวมหลักฐานที่อาคาร ดังกล่าวอีกด้วย