
เมื่อวันที่ 27 ต.ค.2568 นายธีรทัย เจริญวงศ์ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เปิดเผยว่าจังหวัดชายแดนใต้ เป็นพื้นที่ที่เผชิญกับปัญหาความขัดแย้งทางสังคมและเหตุความไม่สงบที่ยืดเยื้อ ผลักดันให้เด็กและเยาวชนจำนวนมากตกอยู่ในสถานะที่เปราะบาง อาจถูกดึงดูดเข้าสู่วงจรแห่งความรุนแรงหรือถูกชักจูงไปในทิศทาง
ที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งปัญหาเชิงโครงสร้างที่ฝังรากลึกในพื้นที่ไม่เพียงแต่เป็นต้นตอของความขัดแย้งเท่านั้น
แต่ยังเป็นอุปสรรคสำคัญที่ขัดขวางการพัฒนาสังคม เศรษฐกิจ และการยกระดับคุณภาพชีวิต การแก้ปัญหา
อย่างยั่งยืนจึงไม่อาจสำเร็จได้ด้วยการพึ่งพาแต่เพียงการใช้กำลังหรือมาตรการด้านความมั่นคง แต่ต้องสร้างภูมิคุ้มกัน ให้กับเด็กและเยาวชนผ่านการให้ความรู้ เสริมสร้างรากฐานความเข้มแข็งทางสังคม เพื่อนำพาพื้นที่ชายแดนใต้ก้าวข้ามผ่านความขัดแย้ง
นายอดิศักดิ์ ตันติวงศ์ ประธานศาลฎีกา จึงได้มีดำริให้สานต่อ “โครงการเยาวชนไทยหัวใจเดียวกัน (Belia Thai Sejiwa Sehati) รุ่นที่ 10” จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 มกราคม – 6 กุมภาพันธ์ 2569
ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายประธานศาลฎีกา“คุณธรรมนำทาง สร้างศรัทธา พัฒนาคุณภาพ” โครงการดังกล่าว ฯ เป็นอีกหนึ่งในโครงการสำคัญของศาลยุติธรรมที่มุ่งเน้นการปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีงามให้กับเด็กและเยาวชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ โดยเปิดโอกาสให้เยาวชนได้เข้าร่วมกิจกรรมที่ออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ในทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเสริมสร้างจิตสำนึก คุณธรรม จริยธรรม ความรู้ด้านกฎหมาย สิทธิและหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชน รวมถึงกระบวนพิจารณาพิพากษาคดีของศาลเบื้องต้น
“การให้ความรู้เชิงป้องกันนี้มีเป้าหมายสำคัญคือ การช่วยป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนกระทำความผิดโดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เป็นการช่วยเหลือและแนะแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันที่เหมาะสม
ให้เด็กและเยาวชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้เหล่านี้ สามารถเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีและมีคุณภาพในสังคม
นำความรู้ที่ได้กลับไปพัฒนาชุมชนท้องถิ่นของตน” นายธีรทัย กล่าว
สำนักงานศาลยุติธรรม โดยกองสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ ขอเชิญชวนน้อง ๆ อายุระหว่าง
15-18 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า ในสถาบันการศึกษา ซึ่งมีที่ตั้ง
ในจังหวัดชายแดนใต้ ได้แก่ จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ได้แก่
อำเภอจะนะ อำเภอนาทวี อำเภอเทพา และอำเภอสะบ้าย้อย หรือมีภูมิลำเนาในพื้นที่ดังกล่าว
สมัครเข้าร่วมโครงการเยาวชนไทย หัวใจเดียวกัน รุ่นที่ 10 โดยสามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์
กองสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ สำนักงานศาลยุติธรรม https://iprd.coj.go.th และเฟซบุ๊กเยาวชนไทย
หัวใจเดียวกันhttps://www.facebook.com/BeliaThaiSejiwaSehati
นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลประจำสำนักประธานศาลฎีกาและโฆษกศาลยุติธรรม ประธานคณะทำงานดำเนินการโครงการเยาวชนไทยหัวใจเดียวกัน เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าว ฯ
ได้เริ่มดำเนินการครั้งแรกรุ่นที่ 1 ในปี พ.ศ. 2555 เว้นช่วงสถานการณ์โควิด -19 ปัจจุบันได้ก้าวสู่รุ่นที่ 10 แล้ว ซึ่งหลักสูตรเน้นทั้งวิชาการและกิจกรรมจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ครอบคลุมกฎหมายหลากหลายด้าน
อาทิ ความรู้เกี่ยวกับศาลยุติธรรม หลักกฎหมายทั่วไป กฎหมายสำหรับเด็กและเยาวชน การไกล่เกลี่ย
พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กฎหมายอาญาและคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ กฎหมายลิขสิทธิ์ กฎหมายแพ่ง และกฎหมายอิสลามรวมถึงการแนะแนวทางอาชีพนักกฎหมาย นอกจากนี้เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการยังได้มีโอการเดินทางไปทัศนศึกษาณ สถานที่สำคัญ เช่น ศาลฎีกา ทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ที่ดีในชีวิต
ของพวกเขาอีกด้วย
“ประธานศาลฎีกา ได้เล็งเห็นถึงประโยชน์ของโครงการนี้ ที่เยาวชนผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับ
โดยพิจารณาจากความสำเร็จของรุ่นที่ผ่านมาจึงดำริให้สานต่อโครงการเยาวชนไทย หัวใจเดียวกัน
โดยมุ่งเสริมวัคซีนทางปัญญาให้แก่เด็กและเยาวชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ วัคซีนนี้มิใช่เพื่อป้องกัน
โรคทางกายแต่เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันทางความคิดและจิตใจที่แข็งแกร่ง เพื่อให้พวกเขาสามารถเติบโตเป็นผู้นำทางสังคมที่มีความพร้อมและสามารถนำความรู้ ประสบการณ์ รวมถึงแรงบันดาลใจที่ได้รับ กลับไปสร้างเครือข่าย
พัฒนาชุมชนท้องถิ่นของตนเอง” นายสุริยัณห์กล่าว
ทั้งนี้ โครงการเยาวชนไทย หัวใจเดียวกัน ตั้งแต่รุ่นที่ 1 ถึงรุ่นที่ 9 มีเยาวชนผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการรวมทั้งสิ้น 1,207 คน ขณะที่มีเยาวชนในพื้นที่ชายแดนใต้แสดงความสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการมากกว่า 4,812 คน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จและการตอบรับที่ดี สำนักงานศาลยุติธรรมจึงหวังว่า
การจัดโครงการในปีนี้จะได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมเช่นที่ผ่านมา