รู้แล้วช็อก! สาเหตุ ฮ.ตก จเรตำรวจเผยหลังหน่วยนิรภัยกองบินตรวจพบ

30 พฤษภาคม 2568 พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ(จตช.)  ให้สัมภาษณ์กับเนชั่นทีวี ถึงความคืบหน้า หลังเรียกประชุมติดตามความคืบหน้าคลี่คลายกรณีเหตุเฮลิคอปเตอร์ตำรวจ รุ่นเบลล์ 212 (BELL212)ตก ในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นเหตุให้ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ หรือ สารวัตรจ๊อบ อายุ 33 ปี นักบิน (สบ 2) , ร.ต.อ.ทรงพล บุญชัย หรือ ผู้กองเอก อายุ 34 ปี นักบิน (สบ 1) และ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย อายุ 55 ปี รอง สว.(อก.) ช่างอากาศยาน ซึ่งเป็นช่างเครื่อง เสียชีวิต รวม 3 นาย เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ว่า

 

 

พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รองจเรตำรวจแห่งชาติ , พล.ต.ต อำนาจ เดชบุญเหลือง ผบก.กองบินตำรวจ ,นักบินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เพื่อสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุ ว่า การตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นประกอบด้วยหลายส่วนและเพื่อให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัด

จากการตรวจสอบเบื้องต้น สาเหตุที่ทำให้ฮ.ตก น่าเชื่อว่า เกิดจากใบพัดส่วนหางขาด จนทำให้เสียการควบคุมและการทรงตัว โดยการขาดของส่วนหาง เกิดจากใบพัดด้านบนมาตัดส่วนหาง โดยเหตุที่จะทำให้ใบพัดด้านบนตัดส่วนหางได้นั้น เป็นไปได้ว่าเกิดจากอุปกรณ์บางส่วน เช่น น็อต และน่าเชื่อว่าเป็นน็อตหลุด 2 ตัว ที่ยึดอยู่หลุดออกมา ทำให้ใบพัดเสียการทรงตัวแล้วลงมาตัดที่ส่วนหาง

 

 

ทั้งนี้ ตนเองยังไม่ขอยืนยันว่า เป็นน็อตจริงหรือไม่ จะต้องให้ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ไปตรวจสอบเพิ่มเติมทางด้านเทคนิคอีกครั้ง ส่วนสาเหตุที่น็อตหลุดต้องมีการตรวจสอบว่าหลุดจากการใช้งานหรือหลุดจากการซ่อมบำรุง แต่น็อตดังกล่าวยังอยู่ในอายุการใช้งานอีกกว่า 600 ชั่วโมง

ส่วนถ้าไม่ใช่น็อต จะเป็นอุปกรณ์อะไรได้อีกบ้างนั้น ตนเองยังไม่สามารถตอบได้เช่นกัน ต้องรอให้ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบก่อน

 

พล.ต.อ.ธัชชัย ย้ำว่า เฮลิปคอปเตอร์เบลล์ 212 ที่เกิดเหตุตกมีการซ่อมบำรุง อย่างถูกต้อง แต่หลังจากนี้จะต้องตรวจสอบหาสาเหตุที่ทำให้ ฮ.ตก อย่างละเอียด ว่า 1.จะเกิดจากการผลิต 2.เกิดจากการซ่อมบำรุงที่ไม่ถูกต้อง 3.เกิดจากเหตุสุดวิสัย หรือ 4.เกิดจากความผิดพลาดของนักบิน ซึ่งในเรื่องของความผิดพลาดของนักบิน ตนมองว่าจากพยานหลักฐานเบื้องต้นที่มีอยู่เป็นไปได้น้อย  ดังนั้นจึงต้องไปตรวจสอบที่ 3 ส่วนแรก ว่าเกิดจากอะไร ส่วนมีน้ำหนักของสาเหตุไปทางไหนนั้น ตนเองก็ยังตอบไม่ได้ ต้องรอให้ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบนำข้อมูลมาประกอบกัน

 

 

พร้อมยอมรับว่า นอกจากการซ่อมบำรุงตามวงรอบในวันที่ 13 เมษายน 2568 แล้ว ยังมีการซ่อมแบบรายสัปดาห์ ซึ่งจะต้องทำการตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดอีกครั้ง ทั้งนี้การซ่อมแซมรายสัปดาห์ถือเป็นการตรวจเช็คตามวงรอบปกติเช่นกัน

  

ส่วนการซ่อมหลายสัปดาห์จะมีการเปลี่ยนอะไหล่ด้วยหรือไม่นั้น พล.ต.อ.ธัชชัย ระบุว่า หากมีความจำเป็นก็ต้องเปลี่ยน หากพบอะไรที่ครบวงรอบการใช้งานก็จำเป็นต้องเปลี่ยน หรืออะไรเสียก็จะต้องเปลี่ยน หากไม่สามารถซ่อมแซมได้

 

สำหรับน็อตก็จะต้องไปดูว่าเป็นที่โรงงานผลิต หรืออยู่ในส่วนของการซ่อมบำรุง  ซึ่งเป็นสาเหตุที่จะต้องมีการตรวจสอบรายละเอียด

 

 

ส่วนน็อต หรือ อุปกรณ์ของ เฮลิคอปเตอร์ที่มีอยู่เพียงพอได้มาตรฐานหรือไม่ พล.ต.อ.ธัชชัย ระบุว่า ยังตรวจสอบไปไม่ถึงตรงนั้น โดยจะต้องทำการตรวจสอบภาพรวมของสาเหตุการตก และภาพรวมทั้งหมดของการซ่อมบำรุง โดยอีก 2 สัปดาห์จะมีการนัดหมายประชุมอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนหาข้อเท็จจริงของผู้เกี่ยวข้อง เพราะที่ตรวจสอบได้เบื้องต้นเป็นการตรวจสอบของหน่วยนิรภัย กองบินตำรวจ เป็นผู้ตรวจสอบ จากหลักฐานที่พบหลังเฮลิคอปเตอร์ตก

  

และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะต้องมีคนรับผิดชอบทั้งทางอาญาและทางแพ่ง โดยยืนยันว่า งานนี้ไม่มีมวยล้มต้มคนดูเพราะเป็นเรื่องใหญ่และเป็นเรื่องที่สำคัญมากแบบนี้ขึ้นอีก เพราะเป็นภาพลักษณ์ต่อองค์กร

 

ส่วนในวันพรุ่งนี้ที่ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีภารกิจที่จะต้องใช้อากาศยานเดินทางไปที่ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ทางกองบินตำรวจมีความพร้อม โดยจะใช้เครื่องยูโร ซึ่ง ผู้บังคับการกองบินตำรวจ ย้ำว่าเครื่องทุกลำไม่ได้เสี่ยง ยังใช้ได้ แต่เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้น จะต้องทำการตรวจสอบอย่างละเอียดเท่านั้น