13 พฤษภาคม 2568 ที่บริเวณอาคารหอประชุม โครงการก่อสร้างอาคาร สตง.แห่งใหม่ นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (ผู้ว่าฯ สตง.) เดินทางมาร่วมพิธีทำบุญตักบาตรพระภิกษุสงฆ์สายกรรมฐาน จำนวน 109 รูป และพิธีสวดบำเพ็ญส่วนกุศลให้กับผู้สูญหายและผู้เสียชีวิตจากเหตุตึก สตง.ถล่ม เพื่อเป็นสิริมงคลให้แก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่
ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าสอบปากคำ ว่า ต้องไปถามดีเอสไอ และตำรวจ เพราะเป็นคดีอาญา ส่วนคดีฮ้้วประมูล และนอมินี ก็ให้ไปถามดีเอสไอ เพราะเรารอผลอยู่ ส่วนที่จะมีการออกหมายจับวิศวกร และผู้ที่เกี่ยวข้องนั้น ก็เป็นไปตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาศึกษาการยกระดับมาตรฐานการก่อสร้าง มาตรฐานความปลอดภัย ที่ตำหนิเรื่องการไม่ไปเข้าร่วมชี้แจง กมธ. ว่า จะต้องมีความเป็นลูกผู้ชายมากกว่านี้ โดยนายมณเฑียร ไม่ได้ตอบคำถามนี้
จากนั้น นายมณเฑียร ได้เดินไปส่งสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม กลับแล้วเสร็จ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามความหนักใจถึงเรื่องคดีความ โดยนายมลเฑียร ยืนยันว่า ไม่หนักใจเรื่องคดี ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย มีคนถามว่าทำไมตนถึงอยู่เฉย แต่ตนบอกไป 2-3 ครั้งแล้วว่า ในส่วนการดำเนินคดี มีเจ้าหน้าที่ดูแลหลายหน่วยงานอยู่แล้ว และมีคณะกรรมการสอบสวนหลักของรัฐบาลตั้งขึ้น ที่มีการสอบสวนทั้งด้านวิศวกรรม และวิทยาศาสตร์ เชื่อว่าทุกคณะที่ทำงาน คงรอผลจากคณะกรรมการชุดหลักของรัฐบาล เพราะมีผู้ทรงคุณวุฒิหลายคน
นายมณเฑียร กล่าวต่อว่า ดีเอสไอทำเรื่องฮั้วประมูลกับนอมินี เราก็ต้องรอผลว่าจะออกมาอย่างไร ส่วนพนักงานสอบสวนตำรวจทำเรื่องคดีอาญาเกี่ยวกับผู้เสียชีวิต รวมถึง กมธ.ทุกคณะ ที่เรียกเราไปสอบก็มีกว่า 10 คณะ ก็เป็นเรื่องของการชี้แจงข้อเท็จจริง ขณะที่ ป.ป.ช.ที่ได้รับเรื่องไปแล้ว อยู่ระหว่างการดำเนินการ เราก็ให้ความร่วมมือเต็มที่
นอกจากนี้ยังมีคณะกรรมการตรวจสอบของ สตง. ที่เข้ามาขอเอกสารหลักฐาน เพื่อนำไปตรวจสอบ พร้อมย้ำว่า สตง.ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบกับทุกหน่วยงานตามขั้นตอน และยอมรับผลการตรวจสอบทุกเรื่องทุกกรณี หากเราไม่ติดภารกิจใดๆ เราก็พร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่
“กระบวนการเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา หากถามก่อนหน้านี้เราจะมอบเจ้าหน้าที่ที่รู้เรื่องจริงๆ ไปตอบ ในฐานะผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรง ส่วนผมที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง ก็ตอบได้ในส่วนที่ผมต้องรับผิดชอบ ก็ขอแค่นี้แล้วกัน” นายมลเฑียร กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงการแก้ไขแบบแปลนและปล่องลิฟท์ นายมณเฑียร กล่าวว่า ต้องไปถามคนที่รับผิดชอบ
ส่วนก่อนหน้านี้ที่ผู้รับเหมาอย่าง บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เผยว่า จะต้องทำงานตามงบประมาณ บางอย่างก็ต้องแก้เพื่อปรับลดงานนั้น มีส่วนไหนของตึกที่ให้ปรับแก้ตามงบ นายมณเฑียร ยืนยันว่าไม่จริง ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบ ซึ่งในการแก้ไขเราจ้างคนมาออกแบบ เป็นหลักตามวิศวกรรม ใครก็ตามที่ออกแบบแล้วจะแก้แบบ ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ออกแบบ ซึ่งเป็นหลักการตามปกติ ใครจะพูดอะไรก็ได้ แต่หลักการทางกฎหมายมันมี ฉะนั้นเรายึดตามกฎหมาย และตามระเบียบ และมาตรฐานทางวิศวกรรม
“เราอย่าเอาความรู้สึก อย่าเอาทุกสิ่งที่เขาพูดมา ทุกคนพยายามโดดหมด แต่ทุกคน ใครก็ตามที่จะหนี ก็หนีไม่พ้นกฎแห่งกรรม ใครที่ทำอะไรไว้ก็ต้องรับกรรมของผลการกระทำ” นายมณเฑียร กล่าว
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า อยากจะขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากขนาดนี้หรือไม่ นายมณเฑียร กล่าวว่า เป็นเรื่องของความเสียใจที่เหตุการณ์มันเกิดขึ้น เราคงไม่อยากให้เกิดขึ้น ซึ่งเราแถลงความเสียใจตั้งแต่วันแรกแล้ว
ส่วนที่ญาติของผู้เสียหายบอกว่า ยังไม่ได้รับคำขอโทษที่จริงจังจากทาง สตง. นั้น นายมณเฑียร หัวเราะแล้ว กล่าวว่า “ผมว่านะ ไปถามญาติตรงๆ อย่าไปฟังคนอื่น คนของ สตง.ทุกคน ไปพบญาติของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนป่วยหรือเสียชีวิต เราส่งเจ้าหน้าที่ไปทุกคนทุกจังหวัด เพราะฉะนั้นทุกคนจะได้รับคำกล่าวขอโทษ และร่วมงานในพิธีทุกคน อย่าไปฟังข่าว เอาที่จริง”
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าว พยายามขอให้นายมณเฑียร กล่าวคำขอโทษจากปากอีกครั้ง ซึ่งนายมณเฑียรไม่ตอบก่อนจะขึ้นรถกลับโดยทันที