9 พฤษภาคม 2568 นายเกรียงศักดิ์ กอวัฒนา รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์ ในฐานะกิจการร่วมค้า และเป็นผู้รับเหมาโครงการก่อสร้างตึก สตง. หลังเกิดเหตุตึกถล่ม ว่า จริงๆ เราอยากจะพูดอะไรหลายๆ อย่าง แต่อยู่ระหว่างการสอบสวน จึงไม่อยากพูดอะไรที่ไปกระทบกับส่วนอื่นๆ ยืนยันว่า เราเป็นผู้รับเหมา เซ็นสัญญากับ สตง. แล้วทำงานตามแบบ ในกระบวนการของการทำงาน ก็มีการตรวจสอบกันอย่างเข้มข้น
ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไปใช้วัสดุอะไรที่ไม่ได้มาตรฐาน เอกสารที่บริษัท โดยกิจการร่วมค้ายื่นขออนุมัติจากทางผู้ควบคุมงาน และคณะกรรมการตรวจรับวัสดุก็มีครบถ้วน เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของเรา
ส่วนการแก้ไขแบบแปลนการก่อสร้าง บริษัท อิตาเลียนไทยฯ รับรู้รับทราบด้วยหรือไม่ นายเกรียงศักดิ์ ระบุว่า ในฐานะที่ เป็นผู้รับเหมา ก็ได้ทำตามสัญญาการก่อสร้าง และเมื่อมีการแก้ไขแบบ ซึ่งก็มาจากทางผู้ออกแบบ และเจ้าของงานที่มีความประสงค์จะแก้ไข ดังนั้นบริษัทฯ ก็จะต้องทำตาม เพราะเขามีคำแนะนำมาให้ ซึ่งบริษัทมีเป็นหลักฐานทุกอย่าง
“ถามว่า รู้รึเปล่า เราก็รู้อยู่แล้วว่า เขาขอให้เราแก้ไขแบบ ถ้าถามต่อว่า รู้หรือไม่ว่าแบบแข็งแรงหรือไม่ คือ เราไม่ทราบ ต้องเข้าใจว่า ตึกนี้ 30 ชั้น ถ้าเราแก้ไขอะไรสักอย่าง เราต้องไปพิจารณา วิเคราะห์ ตึกทั้งตึก เพราะฉะนั้นจะมาดูแบบกันเฉยๆ แล้วมาบอกว่า ได้หรือไม่ได้ มันไม่ใช่หน้าที่ของผู้รับเหมาอยู่แล้ว และเราไม่มีความสามารถที่จะไปทำแบบนั้น”
นายเกรียงศักดิ์ ย้ำว่า ที่ผ่านมาที่มีการแก้ไขแบบถึง 9 ครั้ง ไม่ใช่ว่าเราไม่รับทราบ แต่เรารับทราบและเรารู้ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีการพูดคุยกันในที่ประชุมทุกครั้ง และมีหนังสือสั่งการให้บริษัทตนเองทำ พร้อมยกตัวอย่างว่า การแก้ไขแบบทุกครั้งหากมีผลกระทบกับงบประมาณ ตนเองก็จะต้องทำงานลดให้กับทางราชการ อย่างเรื่องของการลดความหนาของผนังลิฟท์ เราก็ต้องทำเป็นงานลด ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการฮั้วกันเพื่อลดงาน แล้วผู้รับเหมาได้รับผลประโยชน์ตามที่เขียนข่าวกัน แต่ลดเพื่อให้สอดคล้องกับทางราชการ
ส่วนเรื่องการแก้ไขแบบ สตง.เป็นผู้ขอให้แก้ไขแบบหรือไม่นั้น นายเกรียงศักดิ์ ระบุว่า ตนไม่ทราบ พร้อมชี้แจงว่า เมื่อได้รับแบบมาแล้ว แบบอาจจะเกิดความขัดแย้งกัน โดยโครงการนี้ มีแบบขัดแย้งกันจำนวนมาก เช่น แบบโครงสร้างไปขัดแย้งกับแบบงานสถาปัตยกรรม แบบสถาปัตยกรรมไปขัดแย้งกับงานระบบ และแบบงานระบบไปขัดแย้งกับงานตกแต่งภายใน
ซึ่งในเรื่องของแบบขัดแย้ง ตนได้ออกเอกสารสอบถามไปถึง 700 ฉบับ เพื่อสอบถามไปยังผู้ควบคุมงานว่า จะให้บริษัทเราทำอย่างไร จะให้ทำตามแบบโครงสร้าง หรือให้ทำตามแบบสถาปัตย์ เพราะตนเองทำไม่ได้เนื่องจากแบบมันขัดแย้งกัน และถ้าตนเองทำตามแบบโครงสร้าง ก็ไปขัดแย้งกับแบบงานสถาปัตย์ ดังนั้นจึงต้องถาม ซึ่งเป็นหลักปกติที่จะต้องถาม เพราะทุกโครงการมีเรื่องแบบขัดแย้งกันอยู่แล้ว
เมื่อถามถึงกรณีการแก้ไขปล่องลิฟท์ ล่าสุดมีการชี้แจงในที่ประชุมว่าอย่างไรนั้น นายเกรียงศักดิ์ ระบุว่า ตอนนั้นทางเดินระหว่างปล่องลิฟท์ มีความกว้างไม่เป็นไปตามกฎหมาย ที่ประชุมจึงได้มีการสอบถามกันว่าควรทำอย่างไร และอาคาร สตง.เป็นตึกราชการ จึงไม่จำเป็นต้องขออนุญาตก่อสร้างกับทาง กทม. แต่เป็นการแจ้งเพื่อทราบเท่านั้น พร้อมยืนยันว่า แม้มีการแก้ไขแบบอยู่หลายครั้ง แต่ยังใช้สเป็ควัสดุ ทั้งเหล็ก ปูน สเป็คเดิม
นายเกรียงศักดิ์ กล่าวต่อว่า ในความขัดแย้งกันยังมีหลายกรณี บางกรณีเราตรวจเจอก่อน เราก็เขียนเอกสารไปสอบถาม หรือที่เรียกว่า เอกสาร RFI ซึ่งในส่วนของปล่องลิฟท์ บริษัทได้เขียนเอกสารไปสอบถามผู้ควบคุมงาน ซึ่งผู้ควบคุมงานก็นำไปปรึกษาในที่ประชุมของคณะกรรมการตรวจการจ้าง จากนั้นก็หนึ่งในคณะกรรมการเสนอว่า ประเด็นนี้ควรไปสอบถามผู้ออกแบบ ซึ่งทาง กิจการร่วมค้า PKW จึงได้สอบถามไปทางผู้ออกแบบ โดยทางผู้ออกแบบได้ให้ความเห็นมาว่าจะทำอย่างไร ก่อนส่งเรื่องกลับมาให้ทาง PKW แล้ว PKW ก็นำเรื่องเข้าสู่คณะกรรมตรวจการจ้างอีกครั้ง หลังจากนั้น เมื่อที่ประชุมเห็นตรงกันว่าเอาตามที่ผู้ออกแบบเสนอมา ทางPKW ก็จะส่งเรื่องมาให้บริษัทตนเอง เพื่อให้ดำเนินการตามที่เขาสั่งมา
ส่วนในที่ประชุมมีการพูดคุยเรื่องความปลอดภัยหาก ในการแก้ไขแบบหรือไม่นั้น นายเกรียงศักดิ์ บอกว่า เรื่องนี้ตนเองอาจจะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งจริงๆ แล้วคนออกแบบเป็นคนดูแลเรื่องความปลอดภัยนี้อยู่ หากผู้ออกแบบยืนยันว่าทำได้ ก็ดำเนินการตามนั้น พร้อมยืนยันว่า ขั้นตอนในการดำเนินการ เป็นไปอย่างถูกต้องทุกขั้นตอน
ส่วนเรื่องของการปลอมลายเซ็น นายเกรียงศักดิ์ ยืนยันว่า บริษัทไม่รู้เพราะตนเองไม่ได้มีหน้าที่ไปตรวจลายเซ็นใคร
โดยขณะที่ ผู้สื่อข่าวกำลังถามประเด็นเรื่อง เอกสารสอบถามไปถึง 700 ฉบับ เรื่องแบบแปลนมีความขัดแย้งกันนั้น เป็นเรื่องปกติหรือไม่ แต่ผู้แทน บริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ ได้เข้ามาเพื่อจะพานายเกรียงศักดิ์ ไปมอบเงินเยียวยาให้กับครอบครัวผู้เสียหาย ซึ่งเป็นจังหวะที่นายเกรียงศักดิ์ ยังตอบคำถามไม่แล้วเสร็จ โดยมีการดึงแขนนายเกรียงศักดิ์ ออกจากวงสัมภาษณ์ของสื่อมวลชนทันที แล้วอ้างว่ามีประชาชนรออยู่