
4 พฤษภาคม 2568 เวลา 13.30 น. พ.ต.อ.วีระศักดิ์ เพอแสละ ผกก.สภ.จะแนะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุระเบิด ที่กล่องป้องกันกล้องวงจรปิด ที่ติดตั้งไว้บนเสาไฟฟ้า บริเวณสามแยกริมถนนในหมู่บ้านไอร์ลาฆอ ซึ่งเป็นบ้านย่อยของบ้านไอร์โซ หมู่ 5 ต.ช้างเผือก ทำให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนคดีความมั่นคง กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.นราธิวาส ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย
จึงพร้อมด้วย นายมนชัย จิตกมลกานต์ ปลัดอาวุโส อ.จะแนะ และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่ง เดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุ พบเสาไฟฟ้ามีบันไดอลูมิเนียมวางพาดอยู่ ส่วนตัวกล่องที่ป้องกันกล้องวงจรปิดอยู่สูงจากพื้นประมาณ 3 เมตร ถูกอานุภาพของระเบิดแตกกระจาย พร้อมกองเลือดจำนวนหนึ่ง รวมทั้งเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่อง ที่ไม่ทราบภาชนะบรรจุและตัวจุดชนวนตกกระจายเกลื่อน
เจ้าหน้าที่จึงได้กันพื้นที่ไว้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าทำการตรวจสอบในวันพรุ่งนี้(5พ.ค.68) เนื่องจากทัศนวิสัยไม่อื้ออำนวยมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเพื่อนตำรวจได้นำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลจะแนะไปก่อนหน้าแล้ว ทราบชื่อ 1. ส.ต.ท.ภคพงศ์ สุวรรณชะนะ ผบ.หมู่ งานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวนตำรวจภูธร จ.นราธิวาส ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณใบหน้าและข้อมือซ้าย อาการสาหัส 2. ด.ต.สาธิต ถูกสะเก็ดระเบิดที่ศีรษะ และ 3. ส.ต.ท.ธีปกร ถูกสะเก็ดระเบิดที่ขาขวา เมื่อแพทย์ทำการปฐมพยาบาลในเบื้องต้น ได้ส่งต่อรักษาต่อที่โรงพยาบาลนราธิวาสรานครินทร์
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 8 นาย เดินทางไปยังพื้นที่ อ.จะแนะ เพื่อไปเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในคดีคนร้ายใช้อาวุธปืน ขนาด 9 มม. ตามประกบยิงนางสง่า อายุ 76 ปี ซึ่งเป็นหญิงชราตาบอดเสียชีวิตคาที่ ส่วนนายทัศไนย์ บุตรชาย ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบนถนนในหมู่บ้านไอร์บือแต ม.4 ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา
โดย ส.ต.ท.ภคพงศ์ ได้เป็นคนปีนขึ้นไปบนเสา เพื่อไปเอาเมมโมรี่การ์ด ที่เนื่องจากศูนย์ CCTV เกิดขัดข้องไม่สามารถเปิดใช้งานได้ และระหว่างที่ ส.ต.ท.ภคพงศ์ กำลังเอื้อมมือไปเปิดกล่องป้องกันกล้องวงจรปิด ก็ได้เกิดระเบิดขึ้นทันที ทำให้ตัวกล่องป้องกันกล้องวงจรปิดแตกกระจาย ส่วนเสาไฟฟ้ามีรอยร้าว ส่งผลให้ ส.ต.ท.ภคพงศ์ , ด.ต.สาธิต และ ส.ต.ท.ธีปกร ยืนถือบันไดอยู่ด้านล่างได้รับบาดเจ็บ
ทั้งนี้ พบว่า ส.ต.ท.ภคพงศ์ สุวรรณชะนะ เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่า เป็นฝีมือการกระทำของสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ซึ่งพบว่ากล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ละแวกใกล้กันสามารถบันทึกพฤติกรรมของคนร้ายเอาไว้ได้ เพื่อขยายผลไปสู่ผู้กระทำผิดมาลงโทษต่อไป
ขณะที่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สะท้อนว่ากลุ่มคนร้ายมีการเฝ้าสังเกตการณ์การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ จนพบว่าหลังเกิดเหตุรุนแรง เจ้าหน้าที่จะไปเก็บข้อมูลจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งบนเสาไฟฟ้าในเส้นทางเกิดเหตุ เพื่อนำไปตรวจสอบ ทำให้คนร้ายวางแผนนำระเบิดแสวงเครื่องไปซุกเอาไว้ในกล่องควบคุมกล้องวงจรปิดที่เสาไฟฟ้า เพื่อหวังทำร้ายเจ้าหน้าที่ เพราะรู้ว่าหลังเกิดเหตุยิงชาวบ้านแล้ว เจ้าหน้าที่ต้องมาเปิดกล่องควบคุมกล้องวงจรปิดดังกล่าว
สำหรับรูปแบบการนำระเบิดไปซุกซ่อนไว้ในกล่องควบคุมกล้องวงจรปิดในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรก เพราะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทำให้เจ้าหน้าที่ที่เปิดกล่องควบคุมไม่ได้ระแวง หรือเอะใจ หรือระมัดระวังเป็นพิเศษว่าคนร้ายจะก่อเหตุระเบิดในลักษณะนี้ขึ้น
เบื้องต้นสันนิษฐานว่า เป็นการกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงกลุ่มเดียวกันกับที่ก่อเหตุยิงยิงหญิงชราเสียชีวิต และลูกชายได้รับบาดเจ็บ โดยเป็นวางแผนก่อเหตุต่อเนื่องเชื่อมโยงมาจากเหตุดังกล่าว