
ความคืบหน้าคดีฆาตกรรมโหด นายวรนันท์ พันนาขา หรือ โน๊ต หรือ มีนา อายุ 25 ปี ชาวจังหวัดหนองคาย เป็นสาวประเภทสอง( LGBTQ+) ถูกชายชาวจีน คือ นายถงหยวน ฟู่ ( Mr.Tongyung Fu ) อายุ 42 ปี ฆ่าโหด กรีดหน้าอกตั้งแต่คอถึงอวัยะเพศ ควักหัวใจ ปอดข้างซ้ายหายไปข้าง แล้วยังมีการกรีดเต้านมทั้งสองข้าง นำซิลิโคนออกมาวางกองไว้ด้านนอก จำนวน 2 ชิ้น ก่อนทิ้งศพหมกในห้องน้ำ ภายในอพาร์ตเม้นต์แห่งหนึ่ง ภายในซอยอรุโณทัย พัทยากลาง ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ต่อมา นายถงหยวน ฟู่ ถูกจับกุมตัวได้ภายในเดียวกับที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุ โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ขณะเตรียมบินหนีกลับ เมืองคุนหมิง ประเทศจีน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา
28 เมษายน 2568 ช่วงสาย พนักงานสอบสวน ควบคุมตัวนาย ถงหยวน ออกมาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยมีล่ามแปลภาษา ช่วยสื่อสารให้กับพนักงานสอบสวน โดยผู้ต้องหามีสีหน้าเรียบเฉย นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนยังได้เรียก นายอ้วน อายุ 61 ปี พ่อของนายวรนันท์ มาสอบสวนปากคำเพิ่มเติมด้วย
ขณะที่ พ.ต.ท.พิทักษ์ เนินแสง รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยว่า การสอบปากคำวันนี้ เป็นการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ต่อหน้าทนายความ มีการบันทึกวิดีโอเอาไว้ นอกจากนี้ ยังมีการประสานทางสถานทูตจีนในการติดต่อญาติผู้ต้องหา พร้อมส่งตัวเเทนร่วมรับฟังการสอบปากคำ เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต
พร้อมกันนี้ รองผู้กำกับสอบสวน สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยถึงการเสียชีวิตว่า จากการประสานกับเเพทย์นิติเวชยืนยันว่า ปอดผู้เสียชีวิตไม่ได้หาย เเต่การชันสูตรรอบเเรก มองเข้าไปไม่ถึง ย้ำว่า ไม่มีเรื่องของขบวนการค้ามนุษย์ เเละการนำอวัยวะไปขาย โดยผลการชันสูตรอย่างละเอียด เเพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ จะเป็นผู้เปิดเผย โดยทราบว่า จะมีการเลาะผ่าชันสูตรอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุการตายที่เเท้จริง ว่าเสียชีวิตจากสาเหตุใด เเละต้องรอผลนิติวิทยาศาสตร์และผลชันสูตรร่างของผู้ตายว่ามีอวัยวะส่วนใดหายไป
สำหรับตัวของผู้ต้องหา มีความเครียด เเละจากการพาไปตรวจร่างกาย มีอาการบาดเจ็บที่หลัง มีอาการปวดที่บริเวณหลัง ทางเเพทย์โรงพยาบาล จึงต้องใส่เฝือกไว้ เพราะกลัวว่าหากผู้ต้องหาเป็นอะไรไป จะเป็นปัญหากับกระบวนการสอบสวนของตำรวจ โดยคาดว่า อาการบาดเจ็บของผู้ต้องหา เกิดจากการต่อสู้กับผู้ตาย นอกเหนือจากบริเวณรอยข่วนที่ใบหน้า
พ่อเเละพี่สาว ของผู้เสียชีวิต เดินทางมาที่สถานีตำรวจ สภ.เมืองพัทยา คุณพ่อเปิดใจ กรณีที่เพจหนึ่งโพสต์ข้อความว่า " “พ่อคนตาย” ลั่น ลูกตายใครจะหาเงินให้ใช้ บอกให้ทำประกันก็ไม่ทำ อยากได้มือถือลูก น่าจะมีเงินในบัญชี 4 แสน“ อื่ม…ชีวิต ไม่รู้จะพูดไง " ซึ่งข้อความดังกล่าว ถูกเเชร์ออกไปอย่างแพร่หลาย เเละมีการโจมตีทางพ่อกับครอบครัวว่าหวังเเต่เงินจากลูกอย่างเดียว ไม่ได้เสียใจที่สูญเสียลูก
คุณพ่อเปิดใจ ในเรื่องนี้ว่า ไม่ได้มีเจตนาคิดอย่างที่สังคมกำลังวิพากษ์ วิจารณ์อยู่ เพราะลูกใคร ใครก็รัก ไม่ได้หวังเงินจากลูกเพียงอย่างเดียว ตนเองเป็นผู้สูญเสีย เมื่อเจอเเบบนี้ คำพูดที่นำไปโพสต์บิดเบือนเจตนา กับความรู้สึกของตนเอง เหมือนเป็นการซ้ำเติมครอบครัว ลูกเป็นเสาหลักของคอบครัว ลูกเเบบนี้ ตนหาไม่ได้อีกเเล้ว เขาเป็นคนดี ยาเสพติดก็ไม่เคยยุ่งเกี่ยว
ส่วนกรณีที่ ระบุว่า น้องมีนา ถูกหนุ่มฆาตกรจีน ควักปอดอปอดหายไปด้วย พี่สาว เเละ พ่อ เปิดเผยประเด็นนี้ว่า ตอนนี้ยังไม่ได้เห็นสภาพศพของน้อง มีนา เเต่ตำรวจเล่าให้ฟังว่า ปอดเขาไม่ได้หายไป เวลานี้ยังรอผลการชันสูตร จาก รพ.ตำรวจ เเละ เเละครอบครัว ก็มีความกังวล เพราะยังไม่รู้ว่าน้องมีนา จะอยู่ในสภาพเบบไหน
คุณพ่อมีนา บอกอีกว่า เวลานี้ยังติดใจสาเหตุที่เเท้จริง ว่าฆาตกรชาวจีน ฆ่าลูกของพ่อทำไม พ่อยังกล่าวถึง การใช้ขวดน้ำตีหัวคนร้ายชาวจีน เมื่อวานนี้ (27 เม.ย.2568) ขณะทำเเผนประกอบคำรับสารภาพว่า เกิดจากความโกรธ และ เสียใจที่สะสมไว้ ในส่วนของคดี ตนต้องการให้ดำเนินการถึงที่สุด
ขณะที่ น.ส.มยุรี จำจรัส ผู้อำนวยการสำนักงานยุติธรรม จ.ชลบุรี เดินทางมาพบนาย อ้วน ผู้เป็นพ่อ โดยแจ้งสิทธิ์ การช่วยเหลือเกี่ยวกับการเยียวยาผู้เสียชีวิตจากเหตุอาชญากรรม จากกองทุนยุติธรรม ในส่วนที่ผู้เสียชีวิตจะได้ประมาณ 200,000 บาท
ด้านมูลนิธิสวิง นำทนายความมาช่วยเหลือด้านคดีผู้เสียชีวิต ส่วนศพของนายวรนันท์ พนักงานสอบสวน นำศพส่งสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อผ่านชันสูตรอีกครั้ง โดยจะตรวจสอบถึงสาเหตุการเสียชีวิตแบบละเอียด เก็บเล็บดีเอ็นเอ เนื่องจากมีการต่อสู้กับผู้ต้องหา รวมถึงอยากทราบว่า แผลที่ผ่าตัดตรงท้องเกิดก่อนการเสียชีวิต หรือหลังเสียชีวิต รวมถึงประเด็นอื่น ๆ ที่อาจเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี
ต่อมาเวลา 13.00 น. ภายหลังพนักงานสอบสวนสอบปากคำ นายถงหยวน ฟู่ เพิ่มเติม ใช้เวลานานกว่า 3 ชม. ได้คุมตัวชายชายจีน ไปฝากขังศาลจังหวัดพัทยา โดยนำหมวกกันน็อคมาให้ผู้ต้องหาสวมใส่ พร้อมกับเสื้อเกราะ โดยมีคุณพ่อ เเละ พี่สาวของมีนายืนดูอยู่ใกล้ๆ เเต่ไม่ได้เข้าไปทำประชาทัณฑ์ใดๆ
เบื้องต้น ผู้ต้องหาถูกแจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และข้อหาลักทรัพย์ ซึ่งในคดีนี้พนักงานสอบสวนเเนบท้ายคำร้องฝากขัง คัดค้านการประกันตัว สำหรับมือถือของผู้ตาย ตำรวจได้ยึดคืนมาจากผู้ก่อเหตุเเล้ว
ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายถงหยวน ฟู่ รับสารภาพกับตำรวจว่าเป็นผู้ลงมือจริง เนื่องจากนัดเจอผู้เสียชีวิตผ่านแอปพลิเคชัน เพื่อซื้อบริการ ในราคา 8,000บาท โดยไม่รู้ว่าผู้ตายเป็นสาวประเภทสอง แต่เมื่อทราบภายหลังจึง ขอเงินคืนครึ่งหนึ่ง เเต่ฝ่ายผู้ตายไม่ยอม ทำให้มีปากเสียงกันอย่างรุนแรง และ เกิดการต่อสู้กันจนเสียชีวิต เเละผู้ต้องหา ยังยอมรับว่าลงมือกรีดร่าง และ นำอวัยวะออกมาจริง ยืนยันว่า ไม่ได้แตะต้องปอดไม่ได้เอาไป
สำหรับร่างของน้องมีนา ครอบครัวมีกำหนดการเดินทางไปรับร่างที่นิติเวช รพ.ตำรวจ ในช่วงเย็น หลังจากไปทำพิธีเชิญดวงวิญญาณทีหอพัก ที่เกิดเหตุ โดยหลังจากรับร่างน้องมีนาเเล้ว ก็จะนำกลับไปที่วัด ที่ อ.โพนพิศัย จ.หนองคาย เพื่อทำพิธีทางศาสนา
ต่อมาเวลา 13.40 น. นางกาญจนา พันนาขา อายุ 41 ปี (กาญ) พี่สาวคนโต รวมถึงญาติ ของผู้ตาย ได้นิมนต์พระสงฆ์ เดินทางมายังห้องพักที่เกิดเหตุ เพื่อทำพิธีเชิญดวงวิญญาณของผู้ตาย เดินทางกลับบ้านเกิด จ.หนองคาย ใช้เวลาทำพิธีประมาณ 5 นาที ระหว่างทำพิธี บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า บางช่วงพี่สาวได้ยืนกอดรูปน้องมีนา ร้องไห้บอกดวงวิญญาณของน้องว่า ”กลับบ้านเรากันนะ ที่นี้ไม่ใช่บ้านเรา“ ก่อนจะเดินทางมุ่งหน้า สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อรับร่างน้องสาว กลับไปบำเพ็ญกุศลศพตามประเพณีบ้านเกิดต่อไป