22 เมษายน 2568 จากกรณี ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาคดีร่วมกันปฏิบัติหน้าที่มิชอบหมายเลขดำ อท 131/2567 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 1 เป็นโจทก์ ฟ้อง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. ,นายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด กับพวกรวม 8 คนเป็นจำเลย ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151, 157, 200, 83, 86 พรป.ประกอบรัฐธรรมนูญญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 พรป. ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172,192
ทั้งนี้ ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ยกฟ้อง “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กับพวกรวม 6 คน และจำคุก 2 อดีตอัยการ นายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด 3 ปี นายชัยณรงค์ แสงทองอร่าม อดีตอัยการอาวุโส 2 ปี ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้
ล่าสุด พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง เปิดเผยภายหลังฟังคำพิพากษานานกว่า 3 ชั่วโมง ว่า รู้สึกโล่งใจและสบายใจ เหมือนปลดล็อคความรู้สึกที่ตกเป็นจำเลยของสังคมมาตลอดระยะเวลานาน โดยวันนี้กระบวนการยุติธรรมชี้ให้เห็นแล้วว่าตนเองริสุทธิ์ ซึ่งที่ผ่านมาพยายามต่อสู้และแสดงหลักฐานที่เป็นข้อเท็จจริงต่อศาลที่เป็นผู้พิจารณามาโดยตลอด
ส่วนคำพิพากษาที่ลงโทษจำคุกอดีตอัยการ 2 ท่าน ก็มีการพูดคุยกันในห้อง แต่ไม่ขอก้าวล่วงคำพิจารณาของศาล และท่านอื่นที่มีการพิจราณาในวันนี้
ส่วนกรณีที่มีความเห็นแย้งจากอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาทุจริตฯ (กรณีผู้บริหารของศาลทุจรริตฯไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษา ซึ่งความเห็นนี้จะติดไปศาลสูงและถูกนำไปพิจารณา) ผลจะออกมาอย่างไร ตนพร้อมปฏิบัติและยินดีน้อมรับในเงื่อนไขทุกกรณี รวมทั้งที่ผ่านมาศาลมีเมตตาให้ประกันตัวสู้คดีในชั้นพิจารณา โดยมีเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ แต่ก็ไม่ได้กระทบกับการดำเนินชีวิต เพราะการเดินทางออกนอกประเทศแต่ละครั้งก็สามารถขออนุญาตได้
รวมทั้งครั้งนี้ได้ใช้หลักทรัพย์เดิมและเงื่อนไขเดิมในการยื่นประกันตัว เนื่องจากถึงแม้ศาลจะยกฟ้องก็มีคำสั่งให้ขังไว้ระหว่างอุทธรณ์จึงต้องทำเรื่องขอประกันตัว ซึ่งทั้ง 8 คน ได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว
ส่วนกรณีการจะยื่นขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุดหรือไม่นั้นเพื่อไม่ให้อัยการอุทธรณ์ จากนี้จะต้องไปปรึกษาทนายถึงเรื่องดังกล่าวเกี่ยวกับรายละเอียด
อย่างไรก็ตาม ต้องขอขอบคุณศาลที่มีเมตตาให้นั่งฟังระหว่างการอ่านคำพิพากษา เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่ถูกดำเนินคดีถึงขั้นพิพากษา
สำหรับบรรยากาศภายหลังได้รับการประกันตัว นายเนตร และ นายชัยณรงค์ ได้เดินทางออกจากศาลโดยมีสื่อมวลชนเฝ้าสังเกตุการณ์จำนวนมาก แต่ก็ปฏิเสธที่จะให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์ หรือบันทึกภาพ