15 มีนาคม 2568 “เนชั่นทีวี” เกาะติดปฏิบัติการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ในพื้นที่ชายแดนจังหวัดเมียวดี ที่เมืองชะเวโก๊กโก ซึ่ง "กองกำลังพิทักษ์ชายแดน" หรือ "บีจีเอฟ" สามารถจับกุมบรรดาผู้ร่วมขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จากชาติต่างๆ ได้เป็นจำนวนมาก
โดยการลงพื้นที่ไปตรวจสอบปฎิบัติการ กวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมืองชะเวโก๊กโก จังหวัดเมียวดี ในวันนี้ พันโทหน่าย หม่อง ไซ โฆษกกองกำลังพิทักษ์ชายแดน หรือบีจีเอฟ ได้ขับรถยนต์ นำ เนชั่นทีวีเดินทางจากจังหวัดเมียวดี ไปยังเมืองชะเวโก๊กโก เพื่อจะไปดูอาคารของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ของนายทุนชาวจีน ที่ถูกคณะกรรมการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้เข้าไปควบคุมชาวต่างชาติ และยึดอาคาร และอุปกรณ์ต่างๆ
ระหว่างการเดินทาง ทาง เนชั่นทีวี ได้สอบถามว่า ”อาคารที่ตั้งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์มีกี่แห่ง ทางโฆษกบีจีเอฟ บอกว่า ให้ลองนึกดูว่า ชาวต่างชาติที่ควบคุมไว้ได้กว่า 7,693 คน จะต้องมีอาคารจำนวนมากขนาดไหนที่จะรองรับคนเหล่านี้ได้ และเมื่อสอบถามต่ออีกว่า จะทำอย่างไรกับอาคารเหล่านี้ ก็ได้รับคำตอบว่า ได้ทำการยึดไว้ทั้งหมด และจะนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป เพราะเป็นการลงทุนที่ผิดกฎหมาย
ขณะที่บรรยากาศตลอด 2 ข้างทาง จะเห็นทั้งการก่อสร้าง ทั้งถนนที่ทางกองกำลังพิทักษ์ชายแดน ได้นำงบประมาณมาพัฒนาเกือบ 20 ล้านบาท และยังพบว่า มีการก่อสร้างอาคารของนักลงทุนชาวจีนที่ เข้ามาเช่าพื้นที่จากรัฐบาลกลางอีกเป็นจำนวนมาก พอเข้ามาในตัวเมืองชะเวโก๊กโกแล้ว แม้จำนวนคนจะบางตาจากการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในช่วงตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา แต่จะสังเกตเห็นว่าประชากรในเมืองนี้ยังคงมีการใช้ชีวิตกันตามปกติ
หลังจากนั้น โฆษกกองกำลังพิทักษ์ชายแดนได้ พามาดูอาคารของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของชาวจีน ขนาดสูง7 ชั้น หากมองภายในจะเหมือนอาคารทั่วไป ไม่มีรั้วปิดกั้นใดๆ แต่เมื่อเข้าไปข้างใน ชั้นล่าง และชั้น 1 จะมีห้องโถงขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยโต๊ะ และเก้าอี้หลายร้อยตัว รองรับคนได้ไม่ต่ำกว่า 300-400 คน
และยังพบและยังพบป้าย “บันไดสู่ความสำเร็จ” ที่เป็นภาษาจีนติดอยู่ภายในห้อง เพื่อให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้มีแรงจูงใจในการทำงาน และเมื่อขึ้นไปชั้น 3 พบว่าเป็นห้องนอนประมาณ 20 ห้อง ในแต่ละห้องมีเตียงพักได้ 6 คน และมีห้องน้ำส่วนตัว รวมถึงติดแอร์อยู่อย่างสะดวกสบาย
ขณะที่อุปกรณ์ทั้งจอคอมพิวแตอร์ พีซียู โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์ต่างๆ ได้ถูกทยอยนำมาบรรจุลงในลังไม้ เพื่อเตรียมจะนำไปชั่งน้ำหนัก ก่อนจะแจ้งให้ทางรัฐบาลจีน เพื่อคำนวนในการนำเครื่องบินมาขนอุปกรณ์เหล่านี้ไปตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดว่าเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่ และจากการที่เนชั่นทีวีได้ลงพื้นที่ไปดูสถานที่ควบคุมตัวของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีน ต่างพบว่า นำผ้า นำกระดาษมาปกปิดใบหน้าทั้งหมด ซึ่งผิดวิสัยของคนที่บอกว่าถูกหลอกลวงให้มาทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้ประชุมครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา มีมติจะทำหน้าที่ในการตรวจสอบการเข้ามาทำธุรกิจในอาคารต่างๆ ภายในเมืองชะเวโก๊กโก่ โดยไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า หากพบว่ามีการกระทำความผิด จะดำเนินคดีตามกฎหมายทันที และในเร็วๆ นี้จะมีการส่งชาวจีนที่มีคดีติดตัว 6 คนให้ทางรัฐบาลจีนมารับตัวกลับไปดำเนินคดีต่อไป
ข่าว : สกาวรัตน์ ศิริมา
ภาพ : จักรินทร์ นมนาน