13 มีนาคม 2568 นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ชี้แจงกรณี มีแม่ของผู้ต้องขังในเรือนจำกลางเขาบิน ไปร้องต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ว่า ลูกชายถูกผู้คุมทำร้ายร่างกาย จนต้องส่งจดหมายน้อยออกมาขอความช่วยเหลือ โดยยืนยันว่า กรมราชทัณฑ์กำลังตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้อยู่ว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
แต่เบื้องต้นเรือนจำกลางเขาบินนั้น ถือเป็นเรือนจำ Super Max หรือ เรือนจำมั่นคงสูงสุด มีแต่ผู้ต้องขังอัตราโทษสูง ความผิดร้ายแรง หรือผู้ต้องขังที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง อยู่รวมกว่า 3,000-4,000 คน ซึ่งการควบคุมดูแล ก็ต้องมีระเบียบที่เข้มงวด และเมื่อมีผู้ต้องขังฝ่าฝืนระเบียบ ผู้คุมก็ต้องไประงับทันที แต่ไม่ใช่ใช้ความรุนแรง
อย่างเคสนี้เบื้องต้นได้รับรายงานจากทางเรือนจำกลางเขาบินว่า เกิดจากการทะเลาะวิวาท เจ้าหน้าที่ก็ต้องไประงับ ระงับเสร็จก็ต้องตรวจสอบว่า ใครเป็นคนก่อเหตุ ใครเป็นคนก่อการ บุคคลนั้นก็ต้องไปอยู่ใน Super Max จำกัดสิทธิประโยชน์ ไม่ให้ก่อความวุ่นวาย แต่ไม่ใช่การทรมาน เมื่อพฤติกรรมดีขึ้น ก็ค่อยนำตัวออกมา
อย่างไรก็ตาม กรมราชทัณฑ์ก็จะรับไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่า ที่รายงานมานั้น ตรงตามข้อเท็จจริงครบถ้วนหรือไม่ และจะมีการลงพื้นที่ไปตรวจสอบอีกครั้งเพื่อให้เกิดความชัดเจน
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ยังบอกด้วยว่า ที่ผ่านมามีทั้งเรื่องร้องเรียนจริง และไม่จริง จากการที่กฎระเบียบที่เข้มงวดต่างๆ และถูกตัดสิทธิ์เรื่องความสะดวกสบายออกไป จึงมีการร้องเรียนเข้ามาจำนวนมาก และมีหลายๆ คดีที่ก็ยุติเรื่องไป มีเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ที่มีมูล และถ้ามีเหตุที่ชัดเจน กรมราชทัณฑ์ก็ไม่เคยที่จะปกป้อง หรือปิดบังได้ เพราะผู้ต้องขังต้องเจอญาติ และทนาย หากกรมราชทัณฑ์ปิดบัง หรือไม่คุ้มครองสิทธิ์ผู้ต้องขัง กรมราชทัณฑ์เองก็จะโดนสอบสวน และมีการตรวจสอบจากสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และหน่วยงานภายนอกอื่นๆ อยู่แล้ว