
5 มีนาคม 2568 ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณะสุข "กัน จอมพลัง" นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ นักช่วยเหลือสังคมชื่อดัง พากลุ่มผู้เสียหาย เข้ายื่นหนังสือ นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯประจำรองนายกรัฐมนตรี กระทรวงสาธารณสุข เเละ ทันตแพทย์ อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
เพื่อขอให้ตรวจสอบ การรักษาของกลุ่ม "คลื่นพลังบุญ" ซึ่งกลุ่มนี้ บอกกับคนป่วยว่าไม่ต้องกินยาที่หมอสั่ง เพราะสามารถใช้คลื่นรักษาให้หายได้ คนหลงเชื่อจนทำให้มีอาการเจ็บป่วยหนักขึ้น โดยพาครอบครัวช่างปั้น มาขอให้ทีมสาธารณะสุขช่วย เพราะคิดว่าแม่อาจจะมีอาการทางจิตร่วมด้วย
กัน จอมพลัง เผยว่า วันนี้พาผู้เสียหาย 3 เคส มาร้องกระทรวงสาธารณะสุข ซึ่งหลายคนเคยเป็นลูกศิษย์เคยมาอยู่ด้วยกันจุดเริ่มต้นหลายคนมาคล้ายๆ กันมีอาการเจ็บป่วย
1. ซาร่า ซึ่งมีอาการกรดไหลย้อน เข้าไปทำการรักษากับ "ท่านพี่-น้องหญิง" กลุ่มคลื่นพลังบุญ โดยเป็นที่น่าสังเกตว่าหน้ากล้องบอกเยียวยา หลังกล้องคือรักษาให้เวลา 3 วินาที ให้บอกหาย พร้อมสั่งห้ามกินยารักษาอาการป่วย อ้างว่าการกินยาเท่ากับไม่เชื่อ ไม่ศรัทธา แต่บางคนแอบกินยา อาการดีขึ้น
2.นายวิทยา วัย 42 ปี ป่วยโรคตับอักเสบเฉียบพลัน ค่าตับจาก 70% เหลือ 20% มารักษาอาการกับกลุ่มคลื่นพลังบุญ อ้างว่าจะเสกตับกลับมาได้
3.นายเอ ช่างปั้น ตามหาภรรยาหายตัว 1 เดือน ครอบครัวลงความเห็นว่าอยากให้ตรวจสุขภาพจิต พบแพทย์
สำหรับกลุ่มพลังบุญ ก่อนหน้านี้ได้เคยมีการสัญญากับ ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ว่าจะเลิกทำการรักษา เเต่ยังกลับมากระทำอีก จึงอยากให้มีการตรวจสอบเพื่อเอาผิด
นาย วิทยา อายุ 42 ปี ผู้เสียหายที่เป็นโรคตับ เล่าว่า ตอนที่เข้าไปรักษา ได้ถามว่าตนเองมีกรรมอะไรไหม เพราะก่อนนี้เคยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช มาเเล้ว เเละ รักษาตามอาการมาเรื่อยๆ ตั้งเเต่ปี 2561 เเต่หลังจากนั้นตับอ่อนมันเปื่อยออกไปหมด เหลืออยู่ 20% จนกระทั่งสิ้นสุดกระบวนการรักษา ตอนนี้กลายเป็นเบาหวาน เพราะตับอ่อนสร้างไม่ได้ ผลิตไม่ได้ นำมาใช้ไม่ได้ด้วย
ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงต้นปี 2567 เห็นคลิปกลุ่มคลื่นพลังบุญจากแอปฯหนึ่ง เลยเกิดความศรัทธา จึงเดินทางไปหา "ท่านพี่-น้องหญิง" ส่วนตัวว่าจะถามว่าตัวเองมีกรรมอะไร ทางอาจารย์ตอบว่ามี "พญามาร" ติดตามอยู่ ทำให้ป่วย จึงเเก้ไขไปเรื่อยๆ เเล้วบอกจะใส่ตับทิพย์ให้ เเต่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ตนจึงหลงเชื่อ เเละ ทำการใช้ฝ่ามือส่งพลัง ทำเสียงส่งสัญญาณตับเข้าไปในท้อง ตนถามว่าต้องกินยาหมอไหม เขาก็บอกว่าไม่ต้องกิน ถ้ากินเเสดงว่าไม่ศรัทธาเขา จะทำรักษาไม่หาย เหมือนกับการบอกว่า หากภายใน 3 วินาที ไม่บอกว่าหาย ก็จะไม่หายเลย พอกลับมาบ้านหลังจากทำการรักษา ตนจึงหยุดกินยาทุกอย่าง เเต่หลังจากนั้นกลับผอมลง ทรุดลง ไม่มีเเรง สุดท้ายไม่ไหวจึงต้องกลับไปกินยา ตามหลักความจริงดีกว่า
ที่ผ่านมาตนเชื่อการรักษาของกลุ่มคลื่นพลังบุญ ถึงขนาดที่มีการซื้อเสื้อยืดของกลุ่มราคา 200 บาท เชื่อว่าใส่แล้วไม่ป่วย และแก้วน้ำทิพย์ แค่ใส่น้ำเปล่ากลายเป็นน้ำทิพย์ ช่วยไม่ให้ป่วยสารพัด ครอบจักรวาล ซึ่งจากวิธีการที่ตนเข้าไปรักษากับคนกลุ่มนี้ เมื่อไม่กินยาอาการแย่ลง มองว่าแก้ด้วยคลื่นพลังไม่ได้ เพราะต้องไปฉีดยารักษาตัวเหมือนเดิม
นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตอารีรัตน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า เคยเตือนคนกลุ่มนี้ไปรอบหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังมีการรักษาคนไข้ด้วยวิธีแบบนี้อีก ทางกระทรวงสาธารณสุขจะมีการดำเนินการอย่างเข้มข้น โดยจะต้องมีการดูในข้อกฎหมายว่า การใช้คำว่าเยียวยา เป็นคำพูดที่เลี่ยงบาลีหรือไม่ แต่ได้ข้อสรุปที่ว่าวิธีการที่ทำอยู่นั้นบ่งบอก ถึงการประกอบวิชาชีพทางเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต
อย่างกรณีไปบอกผู้ป่วยมะเร็งให้ใช้ เพิ่มพลังบุญในการรักษาโรคไม่ไปรับยาตรงนี้เสี่ยงอันตรายต่อชีวิตมาก รวมถึงการรักษาคนป่วยโรคอื่นๆ ที่สั่งห้ามกินยา ก็ล้วนเป็นอันตรายต่อชีวิต ซึ่งตนมองว่ารการดำเนินการแบบนี้ชัดเจนว่ากลุ่มคลื่นพลังบุญไม่คิดแก้ไข ไม่คิดละเลิก ปกปิดข้อเท็จจริง เป็นการหลอกลวง เข้าข่ายฉ้อโกง อยากให้ผู้เสียหายเดินหน้าเรื่องคดีอาญา
หลังจากนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขจะออกหมายเรียกกลุ่มคลื่นพลังบุญ มาสอบปากคำ เนื่องจากทราบข้อมูลว่ามีการแบ่งหน้าที่กันทำ สร้างสตอรี่ว่ามีนักวิจัยกำลังวิจัยเรื่องคลื่นพลังบุญ อ้างว่าช่วยให้อาการป่วยดีขึ้นได้ โดยคนในกลุ่มมีนักข่าว คนมีคลื่นพลังบุญ นักพูด มีนักวิชาการ คอยแบ่งหน้าที่กันสร้างเรื่องขึ่นมา ซึ่งตนมองว่าพลังที่ว่าพิสูจน์ไม่ได้
ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เปิดเผยถึงผลเสียของการรักษาที่ไม่ถูกต้อง เป็นเรื่องสำคัญมาก เป็นเรื่องของความปลอดภัย หากมีคนมาหลอกลวงแอบอ้างเรืองเเบบนี้ ทาง สบส. เรารับไม่ได้ โดยเฉพาะการเเอบอ้างเปิดสถานพยาบาลเถื่อนตั้งตัวเป็นหมอเถื่อน ถือว่าทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิต
สำหรับผลเสียการรักษาที่ไม่ถูกต้อง จะทำให้ร่างกายเมื่อไม่ได้รับยาตามที่เเพทย์สั่ง ก็จะทำให้ทรุดโทรม เสื่อมสภาพ อวัยวะต่างๆก็จะไม่ทำงานได้อย่างปกติ ก่อให้เกิดโรคตามมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบสมอง ระบบหายใจ ระบบเลือด ซึ่งจะเป็นสาเหตุให้เกิดการเสียชีวิตได้แย่างรวดเร็ว ทางกระทรวงสาธารณะสุข จึงจะเร่งดำเนินการในเรื่องนี้
ตรวจสอบสถานพยาบาลที่มิชอบตามกฏหมาย ซึ่งจะมีโทษตามกฎหมายอย่างรุนเเรง ถึงขั้นจำคุก 5 ปี การปฏิบัติตนเป็นหมอที่ไม่ใช่หมอ เเล้วไปรักษาผิดๆ ให้ความหวังเขา ถือเป็นการทำร้ายร่างกายอย่างรุนเเรง สบส.ก็จะตรวจสอบ หากพบว่าเป็นหมอเถื่อน ก็จะมีโทษจำคุก 3 ปี ซึ่งเป็นกฏหมายที่เกี่ยวข้องกัยการรักษาพยาบาล ยืนยันว่า จะดำเนินการเรื่องนี้อย่างเข้มงวดเเละเด็ดขาด
ภายหลังการยื่นหนังสือวันนี้ ทาง สบส .ยังได้นำนิติกร 7 คน มาทำการเร่งสอบปากคำผู้เสียหาย เพื่อเป็นหลักฐานในการพิจารณาดำเนินคดี เเละจะทำหนังสือเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ข้อมูลต่อไป
นายกองตรี ดร.ธนกฤ ยังฝากถึงผู้ที่ยังเข้าไปทำการรักษา ขอให้หยุด อย่าทำตาม ให้ไปหาหมอด้วยตนเอง เพราะการรักษาดังกล่าวไม่มีในโลก ไม่มีอยู่จริง เเต่ที่มีอยู่จริง การหลอกลวง เเอบอ้างการรักษาเเบบผิดๆ ติดคุกมีอยู่จริงๆ ย้ำว่า จะดำเนินการกวาดล้างทั้งเเก๊ง รวมถึงจะเอาผิดเรื่องการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่รับบคอมพิวเตอร์ เพราะถือว่าเคยพูดเเล้วยังไม่รู้เรื่อง ไม่ปฏิบัติตาม หากฟังอยู่ก็ขอให้เตรียมตัวให้ดีโดรเเน่นอน
สำหรับญาติของคนที่เคยทำการรักษา หากพบว่ามีอาการเกี่ยวกับเรื่องสัขภาพจิตร่วมด้วย ส่งทำการรักษาที่ศรีธัญญา
ยังฝากถึง "ท่านพี่น้องหญิงว่าเตือนเเล้วไม่ฟัง เดี๋ยวเจอกัน " พร้อมจะเลือกเรือนจำสวยๆ ให้อยู่ ให้ระวังตัวให้ดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการยื่นหนังสือวันนี้ ทาง สบส .ยังได้นำนิติกร 7 คน มาทำการเร่งสอบปากคำผู้เสียหาย เพื่อเป็นหลักฐานในการพิจารณาดำเนินคดี เเละจะทำหนังสือเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้เเจง