
23 กุมภาพันธ์ 2568 จากการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างจริงจัง เจ้าหน้าที่ตำรวจฝั่งไทยจึงได้ประสานงานขอความช่วยเหลือกับเจ้าหน้าที่กัมพูชา ช่วยปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยเจ้าหน้าที่ทางฝั่งไทยได้เดินทางไปร่วมประชุม ปรึกษาหารือกับทางตำรวจกัมพูชา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชา ให้ความร่วมมือ ช่วยเหลือเป็นอย่างดี
หลังจากก่อนหน้านี้ ทางตำรวจไทยได้รับการประสานมาจากเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ทำงานอยู่บนตึกแถวสูง 4 ชั้น แอบส่งข้อความและคลิปวิดีโอ ขอความช่วยเหลือมา จนสืบทราบ ถึงแหล่งกบดานของขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จนนำไปสู่การจับกุมทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งกัมพูชา
โดยจุดดังกล่าวเป็นตึกแถว สีฟ้า สูง 4 ชั้น ในพื้นที่ปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจย เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ ทั้งหมด 227 คน แบ่งเป็น ชาวไทย 125 คน (หญิง 60 คน , ชาย 65 คน) , ชาวอินโดนีเซีย 3 คน , ชาวอินเดีย ชาย 48 คน (หญิง 3 คน , ชาย 45 คน) , ชาวปากีสถาน 51 คน (หญิง 6 คน , ชาย 45 คน)
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กัมพูชา จะต้องนำเหยื่อทั้งหมดไปคัดกรอง จากนั้นจะมีการส่งต่อให้กับทางประเทศไทย โดยจะใช้ช่องทางจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก บนพื้นที่สะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา อีกไม่เกิน 1-2 วันนี้ โดยจะมีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจฝั่งไทย นำโดย พล.ต.ต.ถาวร ดุลยวิทย์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว พร้อม พ.ต.อ.ไกเขต บุรีรักษ์ พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต รองผบก.ภ.จว.สระแก้ว
สำหรับขั้นตอน หลังจากมีการรับตัวเหยื่อทั้งหมดแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยจะนำตัวเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทั้งหมดส่งไปที่ศูนย์คัดกรองจังหวัดสระแก้ว เพื่อคัดกรอง การเข้า-ออก ว่า แต่ละคนมีการเข้าออกแบบไหน ถูกหลอกมาเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือมีการสมัครใจ เพื่อเข้ามาทำงาน เมื่อคัดกรองแล้วถ้าเจ้าหน้าที่พบว่าตั้งใจ หรือสมัครใจที่จะกระทำผิดดังกล่าว ก็จะส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนคนที่ถูกหลอกมาทางเจ้าหน้าที่จะส่งกลับภูมิลำเนาต่อไป