18 กุมภาพันธ์ 2568 ความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของดาราสาว “แตงโม นิดา” ที่วันนี้ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อมดีเอสไอ หัวหน้าชุดสืบสวน เชิญ พ.ต.ต.ปภิณวิช รอดบางยาง หรือ กอล์ฟ ซึ่งเป็นผู้ที่ขายเรือให้กับ “ปอ ตนุภัทร เลิศทวีวิทย์” แล้วนำไปขับในคืนวันเกิดเหตุที่ แตงโม นิดา เสียชีวิต และ นายกิตติภัฏ ธนาสนธิราช หรือ อู๊ด ผู้เชี่ยวชาญด้าน GPS เข้าให้ข้อมูล
ซึ่งต่อมาเวลา 14.30 น. นายกิตติภัฎ ออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภาย หลังนำหลักฐานเอกสารซึ่งเป็นหนังสือรับรองว่าตนมีความเชี่ยวชาญในด้าน GPS เดินเรือมานาน 30 ปี มายืนยันข้อมูลการเดินเรือ และการติดตั้ง GPS เรือในวันที่เกิดเหตุให้พนักงานสอบสวนดีเอสไอ โดยยืนยันว่า ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง GPS เรือ หลักฐานที่นำมาให้พนักงานสอบสวนดีเอสไอในวันนี้ เป็นหลักฐานเดียวกันกับที่เคยยื่นไว้แล้วกับตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี เมื่อ 3 ปีก่อน ซึ่งหลักฐานดังกล่าวจะสามารถไขความจริงได้ว่า วันเกิดเหตุเรือมีการเดินทางไปในทิศทางใด ทั้งยังสามารถดูพิกัดได้ว่าหัวเรือหันไปในทิศทางใด จอดหยุดนิ่งตรงจุดไหนของแม่น้ำ และอยู่ที่ความลึกของแม่น้ำเท่าไหร่ เวลาไหน รวมถึงความเร็วของเรือในการแล่นด้วย
ด้าน นายวิชชุพันธ์ จิตภักดี อายุ 34 ปี ทนายความของนายกิตติภัฎ กล่าวยืนยันว่า วันนี้มาให้ปากคำเพิ่มเติมเนื่องจากมีสื่อไปพาดพิงว่า พยานไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ จึงมาให้การเป็นประโยชน์ต่อคดีและชี้แจงความบริสุทธิ์ของตัวเองว่า ตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญโดยมีความเชี่ยวชาญเรื่องเรือและ GPS มานานกว่า 30 ปี และมาพิสูจน์ต่อคดี ยืนยันไม่มีการแก้ไข GPS ตามที่มีการเสนอข่าว
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่กำลังสัมภาษณ์นายกิตติภัฏ ปรากฏว่า นายกอล์ฟ หรือ พันตำรวจตรีปภิณวิช รอดบางยาง ซึ่งเป็นผู้ที่ขายเรือให้กับ ปอ ตนุภัทร ได้เลี่ยงพบสื่อ โดยเดินออกจากห้องสอบสวนไป หลังจากให้ข้อมูลกับหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนเกือบ 5 ชั่วโมง
จากนั้นเวลา 15.20 น. พ.อ.นายแพทย์ธวัชชัย กาญจนรินทร์ เดินทางเข้ามาให้ข้อมูลต่อ พนักงานสอบสวน DSI โดยระบุว่าวันนี้มาให้ข้อมูลในฐานะพยาน ใน 2 ประเด็น คือเรื่องผ้าขาวและเรื่องโทรศัพท์มือถือของ “แตงโม” ที่ได้รับจาก "บังแจ็ค"
สำหรับเรื่องแรกคือ เรื่องของ "ผ้าขาว" หมอธวัชชัยบอกว่า ได้เตรียมเอกสารมาให้กับดีเอสไอ เกี่ยวกับเส้นทางของผ้า มีหลักฐานแชตข้อมูลการติดต่อกันผ่านทาง LINE และคลิปวิดีโอคอลพูดคุยกัน ระหว่างผู้ส่งและผู้รับ เพื่อที่จะส่งผ้าชิ้นดังกล่าวไปให้กับบังแจ็คที่ต่างประเทศ
นอกจากนี้ หมอธวัชชัย ยังได้เปิดเผยภาพถ่าย ซึ่งเป็นภาพของหญิงสาวรายหนึ่ง ชื่อเล่นเป็นผลไม้ หมอธวัชชัย ระบุว่า หญิงคนนี้เป็นคนที่ส่งผ้าขาวไปให้กับบังแจ็ค
หมอธวัชชัย ยังได้ไล่เรียงเหตุการณ์ย้อนหลังกลับไปหลังเกิดเหตุว่า "แอนนา" และ อดีต สส.ท่านหนึ่ง ได้ประกาศจะให้รางวัลคนที่เจอผ้าขาวชิ้นนี้ ต่อมาช่วงปลายเดือนมีนาคม ก็มีคนที่ชื่อเป็นผลไม้ชนิดหนึ่ง ติดต่อไปหาบังแจ็คผ่านทาง LINE ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามี LINE บังแจ็คได้อย่างไร และมีการพูดถึงหลักฐานและขอที่อยู่เพื่อจัดส่งผ้าไปให้
ต่อมา เมื่อวันที่ 29 มีนาคมในเวลา 13.53 น. ตามเวลาประเทศไทย ก็มีการสนทนากันระหว่างผู้ส่งผ้าและผู้รับซึ่งก็คือบังแจ็ค โดยคุยกันเป็นเวลา 1 นาที 42 วินาทีซึ่งมีคลิปอัดเอาไว้เป็นหลักฐาน ต่อมาวันที่ 5 เมษายน ผ้าชิ้นดังกล่าวได้ส่งไปถึงบังแจ็ค ซึ่งบังแจ็คได้ส่งข้อความ LINE บอกกันว่าพัสดุมาถึงแล้ว หลังจากนั้น 15 นาทีก็มีคนทักบังแจ็คมาสอบถามว่า ผ้าถึงแล้วหรือ แล้วก็มีการพูดคุยเพื่อจะขอให้ไลฟ์สดร่วมกัน โดยมีทนายมาร่วมพูดคุยอีกหนึ่งคน และไลฟ์สดเป็นเวลา 7 นาที 36 วินาที
หมอธวัชชัย ยังบอกอีกว่า ตอนนั้นตัวบังแจ็คไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ส่ง เพราะเห็นแค่หน้าเท่านั้น จนกระทั่งได้มาเจอกับตน และให้ทีมงานช่วยตรวจสอบจนรู้ถึงที่มาที่ไปของบุคคลนี้ ซึ่งข้อมูลในส่วนนี้จะส่งมอบให้กับทางดีเอสไอ เป็นคนที่ดำเนินการตรวจสอบต่อไป
ส่วนเรื่องโทรศัพท์มือถือ iPhone 13 Pro ของ แตงโม หมอธวัชชัย ยืนยันว่า เครื่องที่ได้รับมาจากบังแจ็คเป็นเครื่องโคลนนิ่งจากเครื่องจริง ซึ่งไม่แน่ใจว่ามีการโคลนนิ่งมาในช่วงไหนโดยใคร โดยเมื่อกู้ข้อมูลมาจาก iCloud แล้วพบว่า มีข้อมูลภาพและวีดีโอที่เพิ่มเติมมาจากเครื่องเดิมจำนวนมา
“ถ้าได้เครื่องจริงมาจะมีประโยชน์มากคือ หากมีรูปหรือข้อมูลใดที่ลบไปแล้ว และยังไม่ได้อัพขึ้น iCloud ธรรมดาเครื่องโคลนนิ่งจะกู้กลับมาไม่ได้ แต่ถ้าเครื่องจริงจะสามารถกู้กลับมาได้ทันที”
เมื่อถามว่า แล้วโทรศัพท์มือถือเครื่องจริงของ แตงโม ตอนนี้อยู่ที่ไหน หมอธวัชชัย ตอบผู้สื่อข่าวว่า “ผมก็ไม่ทราบครับ อาจจะอยู่ที่ผู้ร้ายก็ได้ คนดี ๆ ที่ไหนเขาจะเปลี่ยนสลับเครื่องเอามาให้เรา ซึ่งเราต้องกลับไปดูไทม์ไลน์ว่าเขาโคลนนิ่งช่วงไหน”