svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

"อัยการธนกฤต" แนะมาตรการเร่งด่วน รับมือกระแสยิวเมืองปาย

"อัยการธนกฤต" แนะมาตรการเร่งด่วน รับมือกระแส "ยิวเมืองปาย" ระบุ ต้องสร้างความสมดุลบรรยากาศท่องเที่ยว และการบังคับใช้กฎหมายให้มีความเหมาะสม ชี้ ควรตรวจสอบนักท่องเที่ยวประเทศอื่นพร้อมกันด้วย

18 กุมภาพันธ์ 2568 ดร.ธนกฤต วรธนัชชากุล อัยการผู้เชี่ยวชาญ และอาจารย์พิเศษผู้บรรยายวิชากฎหมายวิธีพิจารณาความ และกฎหมายพยานหลักฐาน ที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รามคำแหง นิด้า และแม่ฟ้าหลวง ได้ให้ความเห็น กรณีที่มีชาวบ้านอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้รับความเดือดร้อนจากนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล ความว่า

มาตรการเร่งด่วนในการจัดระเบียบนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลในปาย

ตามที่มีข่าวปรากฏตามสื่อมวลชนและในโซเชียลมีเดียจำนวนมากถึงความเดือดร้อนที่ทั้งชาวบ้าน แพทย์ พยาบาล ผู้ประกอบธุรกิจชาวไทย ในอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้รับความเดือดร้อนจากนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล และเมื่อวันที่ 17 ก.พ.2568 ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้มีคำสั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและให้รายงานผลให้ทราบภายใน 7 วันนั้น

ดร.ธนกฤต วรธนัชชากุล

การส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วยการสร้างบรรยายกาศการท่องเที่ยวที่ดี เป็นมิตร เป็นที่ประทับใจของนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ แต่ถ้าจะละเลยการบังคับใช้กฎหมายเพื่อรักษาบรรยากาศการท่องเที่ยวก็อาจจะนำมาซึ่งความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมืองและส่งผลเสียต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทยในระยะยาวได้

การสร้างความสมดุลของการรักษาบรรยากาศการท่องเที่ยวที่ดีและการบังคับใช้กฎหมายที่มีความเหมาะสม จึงเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นทั้งต่อคนไทยในพื้นที่และต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติทุกประเทศด้วย

ในเรื่องนี้ผมขอให้ความเห็นถึงมาตรการเร่งด่วนที่ควรต้องดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวปาย ดังนี้

1.เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องควรดำเนินการตรวจสอบอย่างจริงจังว่า มีนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล ที่เข้ามาประกอบอาชีพ เป็นเจ้าของธุรกิจ หรือรับจ้างทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตตามที่ชาวปายร้องเรียนจริงหรือไม่ 

ถ้าหากตรวจพบว่ามีจริง ก็ถือว่าเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ. คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 37 (1) มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจจะเข้ากรณีที่ถือว่ามีพฤติการณ์ที่สมควรถูกเพิกถอนการอยู่ในประเทศไทยได้ตาม พ.ร.บ. คนเข้าเมืองฯ มาตรา 36

รวมทั้งควรตรวจสอบนักท่องเที่ยวของประเทศอื่นในกรณีเดียวกันนี้ไปพร้อมกันด้วย และควรดำเนินการตรวจสอบด้วยว่ามีคนไทยเป็นนอมินีในการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวในปายหรือไม่ ถ้าพบว่ามีก็ต้องดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมา

2.ควรมีการบังคับใช้กฎหมายกับนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลรวมทั้งนักท่องเที่ยวของชาติอื่นที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ก่อความวุ่นวายเดือดร้อนรำคาญ ให้กับประชาชนในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าไปก่อความเดือดร้อนในโรงพยาบาล การฝ่าฝืนกฎหมายจราจร การสูบกัญชาในที่สาธารณะ การก่อเสียงดังสร้างความเดือดร้อนรำคาญ เพื่อจัดระเบียบสังคมในปายให้เกิดความสงบเรียบร้อย เป็นเมืองปายที่มีเสน่ห์แห่งความสงบเช่นเดิม

3.เจ้าหน้าที่รัฐควรเข้าตรวจสอบสถานที่ในปายที่ใช้เป็นโบสถ์ของชาวอิสราเอลว่าดำเนินการถูกต้องตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 หรือไม่

หากยังไม่ถูกต้อง ก็ต้องเร่งดำเนินการให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดไว้

4.เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องควรตรวจสอบด้วยว่า มีนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลหรือนักท่องเที่ยวชาติอื่น ๆ ที่มีพฤติการณ์ตาม พ.ร.บ. คนเข้าเมืองฯ มาตรา 12 (7) หรือไม่

คือมีพฤติการณ์ที่เป็นภัยต่อสังคม ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยของประชาชน หรือความมั่นคงของประเทศ 

ถ้าพบว่ามี ก็ถือว่าเป็นผู้มีพฤติการณ์ที่สมควรถูกเพิกถอนการอยู่ในประเทศไทยได้ตาม พ.ร.บ. คนเข้าเมืองฯ มาตรา 36