
17 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.โชคชัยได้นำตัว น.ส.ปณิตา หรือ อลิน อายุ 18 ปี 8 เดือน โมเดลลิ่งสาว มายื่นคำร้องขอฝากขังครั้งแรก มีกำหนด 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 17-28 ก.พ.2568 ในคดีที่น้องไอ เด็กเอนฯ ถูกลูกค้าชาวจีนบังคับอัพยาจนเสียชีวิตคาโรงแรม
คำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 10 ก.พ.2568 ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่เวรสอบสวนได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุ สน.โชคชัย ว่า มีเหตุหญิงเสียชีวิตที่โรงแรม ซอยโยธินพัฒนา 3 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. จึงได้ออกตรวจที่เกิดเหตุพบพนักงานโรงแรม แจ้งว่า MR.DUOYIN WU สัญชาติ จีน (ทราบชื่อภายหลัง) มาเปิดห้องพักกับผู้เสียชีวิต คือ น.ส.ไอรดา หรือ ไอ อายุ 22 ปี เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2568 เวลาประมาณ 23.16 น.
ต่อมาเมื่อวันที่ 10 ก.พ.2568 ชายดังกล่าวได้ออกจากห้องไป จึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โชคชัย มาตรวจสอบ จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบ น.ส.ไอรดา ไม่สวมเสื้อผ้าอยู่บนเตียงลักษณะเปลือยกายท่อนบน ตรวจสอบไม่พบบบาดแผลตามเนื้อตัวร่างกาย และไม่พบร่องรอยการต่อสู้ จึงได้นำศพส่งสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต
ต่อมาปรากฏจากการสืบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ น.ส.ปณิตา ผู้ต้องหาได้ประกาศหาบุคคลเพื่อให้ไปนอนกับ MR.DUOYIN WU กระทั่งต่อมา น.ส.ปณิตา ได้ติดต่อกับ น.ส.ไอรดา ซึ่งหลังจากที่พูดคุยตกลงกันแล้ว ผู้ต้องหาได้บัดหมายให้ น.ส.ไอรดา ไปพบกับ MR.DUON WU ที่โรงแรมที่เกิดเหตุ กระทั่งน.ส.ไอรดา ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดที่ซอย โยธินพัฒนา 3 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. เมื่อวันที่ 10 ก.พ.2568 เวลาประมาณ 06.15 น.
จากนั้นผู้ต้องหาปรากฏตัวต่อหน้าพนักงานสอบสอบสวน สน.โชคชัย จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาซึ่งมาปรากฎตัว ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 139 ว่ากระทำความผิดฐาน เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหาพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 282 อัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินกว่า 6 เดือนแต่ไม่ถึง 10 ปี ในชั้นสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหา ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ
เนื่องจากพนักงานสอบสวนได้สอบสวนจะครบ 48 ชั่วโมงแล้ว แต่ยังไม่เสร็จสิ้น จะต้องสอบสวนพยานผู้เสียหายอีก 7 ปาก รอผลการตรวจพิสูจน์ของกลาง ผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือและประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหาประกอบกับผู้ต้องหาไม่ใช่ผู้ถูกจับและยังไม่ได้มีการออกหมายจับ แต่ด้วยเหตุผลและความจำเป็นดังกล่าวจึงได้สั่งให้ผู้ต้องหาไปศาลเพื่อออกหมายขังตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 134 วรรคท้าย ด้วยเหตุผลและความจำเป็นดังกล่าว จึงขอหมายขังผู้ต้องหาไว้ระหว่างการสอบสวน
นอกจากนี้กรณีผู้ต้องหาขอให้ปล่อยชั่วคราว พนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกัน เนื่องจาก ผู้ต้องหาเป็นต่างด้าวและคดีมีโทษร้ายแรง เกรงว่า ผู้ต้องหาอาจจะหลบหนีและยากแก่การติดตามตัวมาดำเนินคดีในภายหลัง ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้
โดยภายหลังศาลอนุญาตฝากขัง ผู้ต้องหาไม่ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ