svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ช็อก! เพื่อนสุดโหดบุกใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวเพื่อนดับคาที่ต่อหน้าลูก

ช็อก! เพื่อนสุดโหดบุกพังประตูบ้าน ใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวเพื่อนดับคาที่ต่อหน้าลูกสาวและลูกชาย ตำรวจเร่งไล่ล่า

16 กุมภาพันธ์ 2568 เวลาประมาณ 03.00 น. ร.ต.อ.กิติศักดิ์ อุดมรักษ์ รอง สว.สอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งมีชายถูกทำร้ายร่างกายเสียชีวิตภายใน บ้านหลังหนึ่ง ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน แพทย์โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ประสานเจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ ไปให้การช่วยเหลือ 

 

 

ช็อก! เพื่อนสุดโหดบุกใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวเพื่อนดับคาที่ต่อหน้าลูก

ภายในบ้านพบ ร่างผู้เสียชีวิต ทราบชื่อ นายพิชาติ อายุ 42 ปี สภาพนอนคว่ำหน้า มีบาดแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะ ใบหน้า เลือดไหลออกมาจากศีรษะจำนวนมาก

 

ใกล้กันพบค้อนปอนด์มีคราบเลือดคชติดอยู่ 

 

ช็อก! เพื่อนสุดโหดบุกใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวเพื่อนดับคาที่ต่อหน้าลูก

 

ส่วน นายเฉลิมวงศ์ หรือก๋อง มีมูล อายุ 28 ปี ผู้ก่อเหตุ เพื่อนบ้านอยู่ใกล้กัน ได้หลบหนีไปแล้วพร้อมกับโทรศัพท์ของผู้เสียชีวิต 2 เครื่องไปด้วย โชคดีที่ไม่ทำร้ายเด็กทั้ง 2 คน มีโทรศัพท์ที่ซ่อนไว้โทรไปขอความช่วยเหลือตนเอง 

 

 

สอบถาม น.ส.ลลิตา อายุ 38 ปี น้องสาวของผู้เสียชีวิต เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า พี่ชาย มีอาชีพเป็นช่างรับต่อเติมซ่อมแซมบ้าน พักอาศัยอยู่ภายในบ้านกับ ลูกชายวัย 8 ปี และลูกสาว วัย 10 ปี ลูกสาวของผู้เสีบชีวิต ได้โทรไปบอกว่า พ่อ ถูกนายก๋อง ซึ่งเป็นเพื่อนของผู้เสียชีวิต ใช้ค้อนปอนด์ตีจนสลบ ไม่หายใจแล้วตนจึงรีบเดินทางมาที่บ้าน พบว่าพี่ชายเสียชีวิตแล้ว ลูก 2 คนนั่งกอดศพพ่ออยู่ จึงได้โทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ 

 

ลูกสาวผู้เสียชีวิต เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองตอนเองพร้อมกับพ่อ และน้องชายนอนหลับพักผ่อนอยู่ในบ้าน นายก๋องได้พังประตูบ้านเข้ามา แล้วนำค้อนปอนด์มาทุบที่หัวของพ่อหลายครั้ง จากนั้นได้หลบหนีไปพร้อมกับโทรศัพท์ของพ่อ 

 

สอบถาม เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กัน ทราบว่า ผู้เสียชีวิตและ นายก๋อง เป็นเพื่อนกันมานานแล้ว คืนก่อนเกิดเหตุ เกิดมีปากเสียงกัน ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรกัน มีการท้ายกันไปมา ไม่คิดว่าจะมาเกิดเหตุบุกมาทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต 

 

เบื้องต้นตำรวจเร่งล่าผู้ก่อเหตุ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนร่างผู้เสียชีวิตส่งนิติเวช เพื่อชันสูตรศพตามขั้นตอนต่อไป