
14 กุมภาพันธ์ 2568 พลตำรวจโท สยาม บุญสม ผบช.น. พร้อมตำรวจนครบาล 5 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมบ่อนจีนเทากลางกรุง โดยเปิดเผยว่า การจับกุมในครั้งนี้ กองกำกับการสืบสวนนครบาล 5 และฝ่ายสืบสวน สน.บางโพงพาง ได้รับแจ้งจากสายลับว่า ที่บริเวณชั้น 3 ของอาคารย่านยานนาวา มีการลักลอบจัดให้มีการละเล่นการพนันไพ่โป๊กเกอร์ ซึ่งอาคารดังกล่าวบริเวณชั้น 1 เปิดเป็นร้านอาหารจีนบังหน้า โดยเมื่อปี 2566 เคยถูกจับกุมเรื่องของเสพยาเสพติดจนทำให้มีคนเสียชีวิต และได้ปิดกิจการไป ก่อนจะมาเปิดอีกครั้งโดยผู้ประกอบการเป็นคนละคนกัน
โดยเมื่อชุดจับกุมเข้าไปที่ห้องหมายเลข 5555 ของชั้น 3 พบนักพนันเล่นอยู่มากกว่า 20 คน โดยแต่ละคนล้วนแล้วแต่เป็นชาวต่างชาติ สามารถจับกุมนักพนันทั้งหมด 12 คน แบ่งเป็นหญิง 2 ชาย 10 สัญชาติจีน 8 คน สิงคโปร์ 2 คน ฟิลิปปินส์ และอินเดียอย่างละ 1 คน รวมทั้งจับผู้ดูแลเป็นหญิงชาวไทย 1 คน ส่วนนักพนันที่เหลือมากกว่า 10 คน หลบหนีไปได้ ชุดจับกุมจึงควบคุมตัวทั้ง 13 คนเข้ามาสอบปากคำที่ สน.บางโพงพาง
พร้อมกับยึดของกลางเป็น ยึดของกลาง เงินสดสกุลไทย จำนวน 319,400 บาท, เงินสดสกุลประเทศสิงคโปร์ จำนวน 5,308 เซนต์, เงินสดสกุลประเทศจีน จำนวน 7,035 หยวน, เงินสดสกุลประเทศฮ่องกง จำนวน 12,074 ดอลล่าฮ่องกง , เงินสดสกุลทวีปยุโรป จำนวน 100 ยูโร, เงินสดสกุลประเทศมาเก๊า จำนวน 70 หยวน, ชิปพร้อมกระเป๋า (อุปกรณ์แทนเงินสด) จำนวน 2 ใบ เป็นเงิน 5,982,800 บาท, ไพ่ จำนวน 10 สำรับ, โต๊ะสำหรับเล่นโป๊กเกอร์ จำนวน 1 โต๊ะ, เก้าอี้ จำนวน 9 ตัว, โทรศัพท์ 15 เครื่อง และพบสุราต่างประเทศ ที่นำเข้ามาผิดกฎหมาย 45 ขวด
จากการสอบปากคำนักพนันชาวต่างชาติให้การว่า มีเพื่อนชาวต่างชาติชักชวนให้มาเล่นการพนันแบบปากต่อปาก โดยอ้างว่าไม่รู้ว่าที่ประเทศไทยการเล่นพนันจะผิดกฎหมาย เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยเล่นเป็นปกติที่ต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศสิงคโปร์ โดยจากการตรวจสอบพบว่ามีนักพนันท์ที่เป็นชาวสิงคโปร์ 1 คน overstayed ส่วนผู้ดูแลที่เป็นหญิงชาวไทยให้การว่า ตนได้รับการว่าจ้างจากนายจ้างที่เป็นคนจีนมานานกว่า 1 ปี
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันเล่นพนันโดยไม่ได้รับอนุญาต และแจ้งข้อหาเป็นผู้จัดให้มีการเล่นพนัน กับหญิงผู้ดูแลชาวไทย รวมทั้งจะมีการสืบสวนสอบสวนขยายผลเพื่อตรวจสอบว่าเจ้าของอาคารที่ให้เช่ามีส่วนรู้เห็นกับการกระทำความผิดด้วยหรือไม่