
30 มกราคม 2568 นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ , นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ และพันเอกนายแพทย์ธวัชชัย กาญจนรินทร์ หรือ “อาจารย์หมอธวัชชัย” ตั้งโต๊ะแถลงข่าว เกี่ยวกับความคืบหน้าคดีละเมิดอำนาจศาล กรณีการจำลองเหตุการณ์การเสียชีวิตของ "แตงโม นิดา" ที่บ้านพระอาทิตย์
นายปานเทพ กล่าวว่า คดีนี้มีที่มาจากการที่ นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ หรือ “ทนายตุ๋ย” ทนายความของ แซน วิศาพัช หนึ่งในจำเลยคดี "แตงโม นิดา" ได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดนนทบุรี ขอให้มีการไต่สวนการละเมิดอำนาจศาลใน 2 ประเด็นหลัก
ได้แก่ 1.กรณีการจำลองเหตุการณ์การตกเรือของแตงโม ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาประกอบด้วย นายอัจฉริยะ นายปานเทพ พันเอกนายแพทย์ธวัชชัย และนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล โดยทนายตุ๋ยเห็นว่า การกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาล เนื่องจากคดีหลักยังไม่มีคำพิพากษา
2.กรณีคำให้สัมภาษณ์ของนักอาชญวิทยารายหนึ่ง ที่กล่าวในทำนองว่า ได้ไปให้การในคดีแตงโมที่ศาล แต่กลับเห็นว่าศาลมีท่าทีนั่งหัวเราะ ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นการละเมิดอำนาจศาล
นายปานเทพ ระบุว่า ไม่ได้แปลกใจที่ถูกทนายตุ๋ยร้อง เพราะได้มีการประกาศผ่านโซเชียลก่อนหน้านี้ โดยมีเป้าหมายที่ พยานผู้เชี่ยวชาญ ผู้จัดจำลองเหตุการณ์ รวมถึงสื่อมวลชน ไม่ว่าจะเป็นสถานีโทรทัศน์ เพจข่าว ผู้ประกาศข่าว และผู้รายงานข่าว พร้อมระบุว่า “งานนี้มีคนติดคุกแน่” ซึ่งตัวเคยโพสต์เตือนไว้แล้ว เพราะแม้ทนายตุ๋ยจะไม่มีประวัติด่างพร้อย แต่คำประกาศดังกล่าว ส่งผลให้สื่อมวลชนเกิดความกังวล หลายช่องเลือกที่จะไม่รายงานข่าวนี้ต่อ เพราะกลัวจะเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาล
ตนโพสต์ตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค. ว่า ให้รอดูว่า ทนายตุ๋ย จะฟ้องสำเร็จหรือไม่ เพราะหากสำเร็จ นั่นหมายความว่าเราถูกปิดปาก แต่หากไม่สำเร็จ ก็ต้องจับตาดูว่าผลกระทบจะเป็นอย่างไร ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาเราทราบดีว่า สิ่งที่เราทำไม่ได้เป็นการละเมิดอำนาจศาล
นายปานเทพ กล่าวว่า ศาลได้รับคำร้องของทนายตุ๋ยแล้วพิจารณาแล้วและเห็นว่า ทั้งพวกเราและสื่อมวลชน ไม่ได้ละเมิดอำนาจศาล จึงไม่มีการไต่สวน นี่คือประเด็นสำคัญที่สุด แต่ทนายตุ๋ยกลับให้สัมภาษณ์ในลักษณะที่ไม่ชัดเจน ทำให้สื่อบางแห่งเข้าใจผิด
“อยากให้สื่อมวลชนทุกคน “เลิกกลัวคำขู่จากทนายตุ๋ย” เพราะการนำเสนอข่าวเป็นสิทธิที่ต้องได้รับการ”
ขณะที่ นายอัจฉริยะ ระบุ การยื่นเรื่องคำร้องละเมิดอำนาจ ความจริงจะต้องยื่นผ่านผู้อำนวยการศาลเท่านั้น ทนายตุ๋ยไม่มีสิทธิยื่นต่อศาลโดยตรง เพราะคดีนี้เป็นเรื่องระหว่างศาลและผู้ที่กระทำผิด โดยในส่วนของนักกฎหมายที่ไปยื่นแบบนี้ ถือว่า “หน้าแตก”
ในส่วนการยื่นคำร้องต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในการแก้ไขคำฟ้อง และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้มีการสืบสวนการบิดเบือนคดีแตงโม ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ คนบนเรือ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ และมีการเอื้อประโยชน์ให้ใครหรือไม่ ยืนยันเราทำ เราไม่มีการบิดเบือน ไม่มีการใส่ความหรือสร้างหลักฐานเท็จขึ้นมา เพราะเราทำตามสิทธิของภาคประชาชน ทำตามกรอบของกฎหมาย
ทั้งนี้ในช่วงสัปดาห์หน้า ตนจะมีมาตรการโต้กลับ ในฐานะผู้ถูกร้อง โดยตัวเองจะไปยื่นร้องมรรยาททนายตุ๋ยที่สภาทนายความ ตามมาตรา 9 ที่ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า “ไม่มีคดีความเกิดขึ้นจริง เป็นการยุยง ส่งเสริมให้มีคดีความ”
เบื้องต้นในฐานะที่เป็นคนรับผิดชอบ การประสานงานการทำงานของดีเอสไอ ตอนนี้คดีเริ่มมีความคืบหน้า ทั้งเรื่องการสอบพยานที่ไม่ต่ำกว่า 30 ปาก แต่ไฮไลท์จะอยู่วันที่ 24 ก.พ.นี้ ที่เรากำลังหารือกันอยู่ ก็จะมีชุดสืบสวนเดินทางไปต่างประเทศ คุยเรื่องของดาวเทียมต่างๆ ที่เราจะต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศ ซึ่งมีหน่วยงานต่างๆ มีความประสงค์เข้าร่วม ยืนยันว่าเป็นการทำแบบโปร่งใส ตรวจสอบได้
ส่วนเรื่องของ "คุณแม่แตงโม" เราไม่เอาแม่ เพราะไม่อยากให้แม่มากินรวบตอนจบ สุดท้ายจะมาเรียกเงิน เราไม่ได้ทำงานเพื่อเงิน เราต้องการพิสูจน์ความยุติธรรมให้แตงโม