"พ่อช็อก" รู้ข่าว "ลูกสาว" หนึ่งในเหยื่อ อุบัติเหตุเครื่องบินเกาหลีตก

29 ธันวาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุโศกนาฏกรรมเครื่องบินสายการบิน "เจจู แอร์" ลื่นไถลรันเวย์ที่ท่าอากาศยานย่นมูอัน เกาหลีใต้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ในนั้นเป็นคนไทย 2 คนคือ น.ส.จงลักษ์ ดวงมณี อายุ 45 ปี ชาวบ้านบ้านหนองแสงหมู่ 6 ต.กุดหมากไฟ อ.หนองวัวซอจ.อุดรธานี และน.ส.ศิริธร เชาว์ อายุ 22 ปี ชาวกรุงเทพฯ

 

 

ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของ น.ส.จงลักษ์ ดวงมณี ในพื้นที่ ต.กุดหมากไฟ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี พบกับญาติๆและคุณพ่อของ น.ส.จงลักษ์ กำลังจับกลุ่มพูดคุยกันถึงวิธีการที่จะดำเนินการกับศพของลูกสาวกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้าน โดยมีผู้ใหญ่บ้านและปลัดอำเภอหนองวัวซอเดินทางมาสอบถามรายละเอียดข้อมูล 

 

 

 

ทั้งนี้ นายบุญช่วย ดวงมณี อายุ 77 ปี พ่อของน.ส.จงลักษ์ เปิดเผยกับว่า รู้ข่าวตกใจแทบช็อคเมื่อรู้ว่าลูกสาวเป็นหนึ่งในผู้โดยสารที่เครื่องบินที่เกิดอุบัติเหตุ ตกรันเวย์ ที่เกาหลีใต้ ไม่คิดว่าจะเป็นลูกสาวตัวเองเคยเห็นแต่ในข่าว รู้ข่าวเมื่อสายวันนี้เมื่อลูกๆโทรมาบอกว่าน.ส.จงลักษ์ เสียชีวิตด้วย 

 

เมื่อรู้ข่าวร้องไห้จนไม่มีน้ำตาแล้ว ตนเองมีลูก 3 คนไปทำงานต่างประเทศทั้งหมด รวมทั้ง น.ส.จงลักษ์ เป็นลูกสาวคนสุดท้อง ไปทำงานที่เกาหลีใต้ประมาณ 7 ปีแล้ว ไปแบบถูกต้องตามกฎหมาย จนได้สามีชาวเกาหลีใต้ชื่อเจโฮ โดยลูกสาวทำงานโรงงานที่เมืองนาจู ปกติลูกสาวจะมาเยี่ยมบ้านเกิดที่อุดรธานี ปีละครั้ง 

 

ปีนี้ก็เช่นเดียวกันลูกสาวพาสามีมาเที่ยวเมืองไทยมาตั้งแต่ต้นเดือน ธ.ค.67 แล้วพากันไปเที่ยวจากนั้นลูกสาวก็ส่งสามีกลับก่อน จนมาวันที่ 29 ธ.ค. ลูกสาวบินกลับเกาหลีใต้ มารู้ข่าวอีกทีตอนเช้านี้ว่าลูกสาวเสียชีวิต พ่อไม่รู้จะพูดอะไรมีแต่ร้องไห้ ถามเรื่องลางสังหรณ์ ก็มีบ้างลูกสาวบอกว่าถ้าครอบครัววุ่นวายกันนักก็จะไม่กลับมาอีก ช่วงนั้น น.ส.จงลักษ์ มาพักที่อุดรวันที่ 9-13 ธ.ค.ที่ผ่านมา คงน้อยใจไม่ได้เอารถไปส่งลูกสาว เพราะว่าติดส่งญาติป่วย

 

 

 

 

อีกเรื่องนึงลางสังหรณ์คือลูกสาวยื่นเงินให้ 10,000 บาท บอกว่าให้เอาไปจ่ายค่าฌาปนกิจของตัว น.ส.จงลักษ์ ที่ทำไว้กับกองทุนหมู่บ้านไม่คิดว่าเงิน 10,000 บาท จะเป็นเงินสุดท้ายต้องมาจัดงานศพกับลูกสาว 

พ่ออยากได้ศพลูกสาวมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านขอดูหน้าเป็นครั้งสุดท้าย หัวอกพ่อพูดไปน้ำตาก็คลอไป 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ไทม์ไลน์ของ น.ส.จงลักษ์ และสามี มาเมืองไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค วันที่ 1 ถึง 8 ธ.ค ไปเที่ยวเชียงใหม่กับสามี จากนั้น 9-13 เดินทางมาเที่ยวที่จังหวัดอุดรธานี และวันที่ 14 เดินทางไปส่งสามีที่สนามบินสุวรรณภูมิกับเกาหลีไปก่อน จาก น.ส.จงลักษ์ ได้กลับไปที่จังหวัดพิจิตรอยู่กับลูกๆ 2 คนแล้วเดินทางลงกรุงเทพฯขึ้นเครื่องเช้าวันที่ 29 ธ.ค.นี้ จนเกิดเหตุสลดดังกล่าว 

 

ทางด้าน นายภาณุมาศ จิตรวศินกุล เจ้าของเพจ "เฮียเปี๊ยก" เปิดเผยว่า ทางด้านความช่วยเหลือที่หลานสาวของ น.ส.จงลักษ์ ได้ประสานตนมา ตนและทนายโนบิจะช่วยประสานเรื่องการนำศพกลับมาบำเพ็ญกุศล

 

ส่วนเรื่องการชดใช้เยียวยาเชื่อทางสายการบินต้องมีการเยียวยาแน่นอน แต่ถ้าการเยียวยานั้นทางญาติยังติดใจว่ายังไม่เหมาะสมกับการสูญเสียลูกสาว ก็สามารถที่จะฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งกับสายการบินได้