svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ผปค.มาเต็ม รร. รอฟังข่าวไฟไหม้รถบัส ผู้ว่าฯ อุทัย ลงพื้นที่ประสานงานเอง

เห็นแล้วหดหู่! ผู้ปกครองมาเต็มโรงเรียน รอฟังข่าวเหตุไฟไหม้รถบัสที่มีลูกหลานโดยสารไป ขณะที่ผู้ว่าฯ อุทัยธานี ลงพื้นที่ประสานงานเอง

1 ตุลาคม 2567 ความคืบหน้าเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียน บนถนนวิภาวดีรังสิต บริเวณใกล้เคียงศูนย์การค้าเชียรังสิต เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย โดยเป็นเด็กนักเรียน โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี  ที่มาทัศนศึกษาจำนวน 38 คน ครู 6 คน รวมทั้งหมด 44 คน สามารถลงจากรถได้ 19 คน ส่วนรายละเอียดผู้บาดเจ็บเสียชีวิต และสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ อยู่ระหว่างตรวจสอบ
ผปค.มาเต็ม รร. รอฟังข่าวไฟไหม้รถบัส ผู้ว่าฯ อุทัย ลงพื้นที่ประสานงานเอง
 

ทั้งนี้มีรายงานว่า หลังเกิดเหตุและเป็นข่าวเผยแพร่ ทางเพจเฟซบุ๊กของโรงเรียนที่เกิดเหตุ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า 

"ประกาศให้ผู้ปกครองทุกคนไปที่โรงเรียนนะ ผู้ว่าจะไปตั้งศูนย์ประสานงานที่โรงเรียนเวลานี้ครับ ประสานงานกับท่านผู้ว่าได้เลยครับ"

โดยหลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ได้มีชาวเน็ตจำนวนมาก เข้าไปแสดงความคิดเห็นให้กำลังใจทางโรงเรียน แสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต รวมถึงรอฟังแถลงการณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากทางโรงเรียน

 

ขณะที่ นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ ผวจ.อุทัยธานี ออกไปบัญชาการการให้ความช่วยเหลือ ติดตาม ประสานงาน แจ้งข่าวกรณีอุบัติเหตุที่เกิดกัยรถบัสที่นำนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม โดยมีข้าราชการ ประชาชน ผู้ปกครองนักเรียน ไปรอฟังข่าวอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นอย่างใจจดใจจ่อ ด้วยความเป็นห่วงลูกหลาน ไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร ซึ่งขณะนี้ยังมีข่าวจาดจุดเกิดเหตุไม่มากนัก
ผปค.มาเต็ม รร. รอฟังข่าวไฟไหม้รถบัส ผู้ว่าฯ อุทัย ลงพื้นที่ประสานงานเอง
ผปค.มาเต็ม รร. รอฟังข่าวไฟไหม้รถบัส ผู้ว่าฯ อุทัย ลงพื้นที่ประสานงานเอง
ผปค.มาเต็ม รร. รอฟังข่าวไฟไหม้รถบัส ผู้ว่าฯ อุทัย ลงพื้นที่ประสานงานเอง

นายน้อย อายุ 58 ปี ซึ่งเป็นตาของเด็กนักเรียน ม. 2 ชื่อน้องแอ็ค อายุ 14 ปี เผย คณะนักเรียนกว่า 100 คน ไปทัศนศึกษากันที่ จ.อยุธยา และเดินทางไปต่อต่างจังหวัดหนึ่ง โดยไปทั้งหมดรถบัส 3 คัน จากหน้าโรงเรียนตั้งแต่ช่วงตี 4- 5 ครึ่ง แล้วรถทั้ง 3 คัน ข่าวล่าสุด ระบุมีเด็กเสียชีวิต 19 คน รอดชีวิต 16 คน และยังไม่ทราบครู ดับ 3 รอด 3 คน
นายน้อย อายุ 58 ปี ตาของเด็กนักเรียน ม.2 ชื่อน้องแอ็ค

โดยที่ศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องจากพระราชดำริและความมั่นคง (ศปร.) หรือศูนย์อำนวยความสะดวกในการประสานงานเบื้องต้นจากเหตุการณ์ครั้งนี้ โดยจะแบ่งพื้นที่เป็น 3 ส่วนด้วยกัน ส่วนแรกใช้เป็นที่รับรองครู-เด็กนักเรียนทั้งหมด หลังจากเกิดเหตุการณ์สลดขึ้น ซึ่งจะแยกนักเรียนหญิงและนักเรียนชา

ส่วนที่2 ใช้สำหรับรับรองผู้ปกครอง ซึ่งมีทั้งผู้ปกครองที่พบกับบุตรหลานแล้ว และผู้ปกครองที่ยังไม่พบกับบุตรหลาน

ส่วนที่ 3 เป็นส่วนที่เจ้าหน้าที่ใช้สำหรับทำงาน

โดยบรรยากาศในเบื้องต้นพบว่า มีผู้ปกครองจำนวนหลายราย ที่ยังคงอยู่ในอาการหวาดผวา และเสียขวัญเดินทางเข้ามาติดต่อเพื่อถามหาบุตรหลาน บางคนที่เจอบุตรหลานจากเหตุการณ์ดังกล่าว ก็รู้สึกดีใจถึงกับร้องไห้โฮ แต่บางคนที่ยังไม่เจอก็ร้องไห้ บางคนอยู่ในอาการเครียด พร้อมทั้งมีการพูดคุยกับทางด้านเจ้าหน้าที่พร้อมกับวีดีโอคอลหาญาติเพื่อพูดคุย 
ผปค.มาเต็ม รร. รอฟังข่าวไฟไหม้รถบัส ผู้ว่าฯ อุทัย ลงพื้นที่ประสานงานเอง

ทั้งนี้ในช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาถึงยังจุดศูนย์อำนวยการพร้อมเข้าไปด้านในห้องรับรอง เพื่อพูดคุยปลอบขวัญ และให้กำลังใจกับผู้ปกครอง และเด็กนักเรียน ใช้เวลาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ประมาณครึ่งชั่วโมง จึงเดินทางไปดูที่เกิดเหตุ
ผปค.มาเต็ม รร. รอฟังข่าวไฟไหม้รถบัส ผู้ว่าฯ อุทัย ลงพื้นที่ประสานงานเอง

เวลา 15.40 น. ทางเจ้าหน้าที่ได้นำเด็กนักเรียนที่เดินทางมาทัศนศึกษา ซึ่งอยู่ในรถบัสคันที่ 1 และคันที่ 3 ทยอยเดินทางขึ้นรถบัสของ ขสมก.ที่ทางกระทรวงคมนาคมได้จัดเตรียมไว้ เดินทางกลับจังหวัดอุทัยธานี ส่วนน้องๆ นักเรียนและคุณครู ที่อยู่ในรถบัสคันที่ 2 ซึ่งเป็นรถที่เกิดเหตุนั้น เจ้าหน้าที่ได้พักรับรองอยู่ภายในห้องพัก ยังไม่ได้เดินทางกลับ

สำหรับการทัศนศึกษาดูงานในครั้งนี้นั้น มีคุณครูและนักเรียนร่วมเดินทางกันมาทั้งหมด 112 คน ประกอบไปด้วยนักเรียนชั้นอนุบาล 3 - มัธยมศึกษาปีที่ 3 มีการแบ่งขึ้นรถบัสจำนวน 3 คัน คันที่ 1 จำนวน 35 คน คันที่ 3 จำนวน 38 คน ส่วนคันที่ 2 ซึ่งเป็นคันที่เกิดเหตุ จำนวน 39 คน ครู 6 คน เจอแล้ว 3 คน มีนักเรียน ที่หนีออกมาได้ 16 คน นอนโรงพยาบาล 3 คน อยู่ระหว่างตรวจสอบ 20 คน เป็นชาย 14 คน หญิง 6 คน
ผปค.มาเต็ม รร. รอฟังข่าวไฟไหม้รถบัส ผู้ว่าฯ อุทัย ลงพื้นที่ประสานงานเอง