1 ตุลาคม 2567 ความคืบหน้าการจับกุม "แม่ตั๊ก" และ "ป๋าเบียร์" สองสามีภรรยาเจ้าของร้านทองชื่อดัง ซึ่งไลฟ์สดขายทองผ่านแอปพลิเคชันติ๊กต๊อก โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาถูกคุมตัวแยกเข้าห้องขังกองปราบฯ ในช่วงดึกได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้าห้องควบคุมว่ามีอาการเครียด นอนไม่หลับ ขอให้ญาติคนติดตามนำยาคลายเครียดที่เตรียมไว้มาให้ทาน
กระทั่งช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สั่งข้าวมันไก่ร้าน "เจ้อ้วนเสนา" มาเตรียมไว้ให้เป็นอาหารเช้า 3 กล่องเนื่องจากมีผู้ต้องหาหญิงคดีบัญชีม้าอีก 1 คน ที่ถูกคุมขังอยู่ด้วย โดยผู้ต้องหาบัญชีม้ารายนี้ เป็นคนนครศรีธรรมราชบ้านเดียวกับ "ป๋าเบียร์"
ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 09.15 น. ตำรวจ ปคบ. ได้นำตัว แม่ตั๊ก และ ป๋าเบียร์ ไปฝากขังศาลอาญา พร้อมคัดค้านการประกันตัว ทำให้ต้องไปขอลุ้นในยื่นคำร้องขอประกันตัวในชั้นศาล ใน 4 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ บิดเบือนนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ, ร่วมกันโฆษณาโดยใช้ข้อความที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค และร่วมกันเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสินค้า โฆษณาที่มีข้อความอันเป็นเท็จ ซึ่งทางตำรวจคัดค้านการประกันตัว ผู้ต้องหาทั้งสอง เนื่องจากเป็นคดีที่มีมูลค่าความเสียหาย และมีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก
ขณะที่คุมตัวแม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์ ออกมาจากห้องคุมขังเพื่อขึ้นรถไปส่งศาลฝากขัง ทั้งคู่มีสีหน้าเครียดอย่างเห็นได้ชัด แม่ตั๊กยังปิดปากเงียบ ส่วนป๋าเบียร์ ยังยืนยันความบริสุทธิ์ ขอให้ทุกคนเข้าใจ ขอให้การกับเจ้าหน้าที่ ไม่มีเจตนาทำให้ใครเสียหายขุ่นเคืองใจ ขอสาบานจะไม่ทิ้งใครไปไหน อยากให้เห็นความตั้งใจที่จะเยียวยาผู้เสียหาย เราไม่หนี ไม่หายไปไหน อยากดูแลทุกคน ตนเองเกิดเป็นพ่อค้าแม่ค้าหากทำไรให้ไม่พอใจยินดีที่จะยอมรับ ขอโอกาสให้ตนได้พิสูจน์ความจริง ส่วนการประกันตัวในชั้นศาลก็ว่ากันต่อไป
ด้าน พันตำรวจโทปริญญา ปาละ รองผกก. กอง 1 ปคบ. เปิดเผยว่า เมื่อคืนแม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์ มีสภาพจิตใจนอนไม่หลับ และแม่ตั๊กมีอาการหอบหืดจึงขอยา จึงให้เลขาของแม่ตั๊กเอายามาให้และดูแล เนื่องจากเจ้าหน้าที่มีน้อยจึงขอให้มาช่วย ยืนยันผู้ต้องหาไม่ได้ให้สิทธิพิเศษ หรือ VIP ทั้งเรื่องกินข้าว การดูแลระหว่างถูกควบคุม ทุกอย่างเป็นไปตามกฎและสิทธิของผู้ต้องหา ซึ่งทางตำรวจมีการกันตัวอย่างเข้มงวด เพราะไม่รู้ว่าเป็นใคร เนื่องจากหวั่นจะถูกทำร้ายร่างกาย ทั้งนี้ยังไม่ตรวจสอบการรักษาว่ามีอาการป่วยหรือไม่
ส่วนเมื่อวานระหว่างสอบปากคำ ในห้องสอบสวน แม่ตั๊กมีการแสกนหน้าโอนเงิน ทางโทรศัพท์มือถือ นั้น ขอชี้แจงว่าเป็นการโอนเงินคืนจ่ายให้ผู้เสียหาย ซึ่งมีการโอนออกทุกวัน ส่วนข้อกังวลที่จะมีการโยกย้ายเงินออกนั้น ชี้แจงว่า เนื่องจากเขาประกอบธุรกิจหลายอย่าง จึงต้องมีการพิสูจน์ทราบให้ได้ว่าทรัพย์สินไหนมาจากการฉ้อโกง จะมีการอายัดเงินเป็นส่วนๆ ไป ไม่ต้องห่วง และตำรวจได้แจ้ง ปปง. และตั้งคณะกรรมการในการสืบทรัพย์แล้ว
หลังจากนี้ ทางตำรวจ ปคบ. เตรียมเรียกนักร้องชื่อดัง ดารา อินฟลูเอ็นเซอร์คนดัง ร่วมไลฟ์สดขายทองออนไลน์ เข้าสอบปากคำ ร่วมกันเจตนาโฆษณาสินค้าที่มีข้อความอันเป็นเท็จ ไม่ตรงปกหรือไม่
ก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ผบก.ปคบ.) เปิดเผยหลังการจับกุมว่า ตำรวจได้ขอศาลอนุมัติหมายจับ 3 หมายจับ 4 ข้อหา และหมายค้นอีก 2 จุด จนสามารถจับกุมผู้ถูกกล่าวหาไว้ได้ เบื้องต้นทั้งคู่ยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และไม่ขอให้การใดๆ
อย่างไรก็ตาม คดีนี้เป็นคดีที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน แม้ว่าขณะนี้จะมีผู้เสียหายมาร้องทุกข์ 2 คน แต่ก็มีผู้เสียหายจำนวนมากที่ยังไม่ได้มาร้องทุกข์กับตำรวจ ดังนั้นพนักงานสอบสวนจะคัดค้านการประกันตัว และคาดว่าจะฝากขังต่อศาลอาญาในวันที่ 1 ต.ค.นี้ และการประกันตัวให้เป็นดุลพินิจของศาล
ส่วนพยานหลักฐานที่ตรวจยึดได้จากบ้านของแม่ตั๊ก ที่มีทั้งตู้เซฟ และอาวุธปืน 4 กระบอก ตรวจสอบเบื้องต้นเป็นอาวุธปืนที่มีทะเบียน โดยเจ้าหน้าที่ก็ได้เก็บรวบรวมหลักฐานเอกสารได้พอสมควร แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะอยู่ระหว่างการตรวจสอบ อาจกระทบต่อคดี แต่มีการตรวจยึดทองได้บางส่วน
ขณะที่ทรัพย์สินอื่นๆ เช่น รถหรูหลายคัน ที่มีกระแสข่าวว่าถูกขนย้ายไปอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้วนั้น ก็ยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเฝ้าสังเกตการณ์ ติดตามทรัพย์ตั้งแต่ก่อนที่หมายจับจะออกอยู่แล้ว ตลอดจนมีการเฝ้าระวังตามแนวชายแดน ซึ่งเบื้องต้นยังไม่พบว่ามีการยักย้ายถ่ายเทรถหรูออกนอกประเทศ ทั้งนี้จะรายงานคดีไปยัง ปปง. เพื่อให้ดำเนินการสืบเส้นทางการเงินและทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด เนื่องจากคดีนี้เป็นมูลฐานความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน
ทั้งนี้ความคืบหน้าจะรายงานให้รับทราบต่อไป