สาวทอม ขับรถชนดะ 8 คัน วิ่งถือปืนขู่สามล้อ ตบหน้าตำรวจ

วันที่ 26 กันยายน 2567 เวลา 01.00 น. พ.ต.อ.พนม เชื้อทอง ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ พร้อมด้วย พ.ต.ท.กุลนันท์ อภินิตินันท์ รอง ผกก.(สอบสวน), สายตรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ ร่วมกันจับกุม น.ส.วิภานี เนียลเซ็น อายุ 28 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนแบบออโตเมติก ขนาด 9 มม. และแม็กกาซีนไม่มีกระสุน โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณแยกถนนสาทรเหนือ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม.

สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 20.30  น.วันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ ร.ต.อ.สุขสันต์ กันยาสนธิ์ รอง สว.จร.สน.ทุ่งมหาเมฆ กำลังอำนวยการจราจรอยู่บริเวณแยกเซ็นต์โย ถนนสาทรเหนือ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่าให้สกัดจับรถยนต์ โตโยต้า รุ่นยารีส สีขาว ทะเบียน กทม. ที่ก่อเหตุเฉี่ยวชนรถยนต์หลายคันแล้วหลบหนี เหตุเกิดตั้งแต่บริเวณหน้าอาคารโครนอสสาทร ถนนสาทรเหนือ ไปจนถึงแยกวิทยุ จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย ส.ต.อ.ศวัสกร หนูรี , ส.ต.ท.สถาพร พันธุ์งาม และ ส.ต.ท.ศุภวิชญ์ บัวเย็น ผบ.หมู่ จร.สน.ทุ่งมหาเมฆ

จากการติดตามก่อนถึงแยกวิทยุ ประมาณ 20 เมตร พบรถยนต์คันที่ก่อเหตุอยู่ในสภาพพุ่งเสยอยู่บนฟุตปาธ มีรอยเฉี่ยวชนรอบคัน และด้านขวายังเบียดกับรถแท็กซี่โตโยต้า สีเหลือง ได้รับความเสียหาย 

ส่วนคนขับรถคันก่อเหตุ เป็นหญิงสาวลักษณะคล้ายทอม  สวมเสื้อยืดลายทางขาวแดง นุ่งกางเกงยีนส์ขาสามส่วน มีอาการคลุ้มคลั่ง วิ่งใช้อาวุธปืน ข่มขู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ 3 คน ที่โดยสารนั่งอยู่บนรถตุ๊กตุ๊กสามล้อ ทำให้โชเฟอร์และนักท่องเที่ยวต่างพากันหลบหนีตายจ้าละหวั่น ขณะที่ประชาชนที่อยู่บริเวณดังกล่าว ต่างตกใจแตกตื่นกันทั้งถนน โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

จากนั้น ร.ต.อ.สุขสันต์ พร้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรทั้ง 3 นาย ได้ช่วยกันจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ ก่อนถูกผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนตบเข้าที่แก้มด้านซ้ายของ ส.ต.ท.สถาพร พันธุ์งาม ผบ.หมู่ จร.ได้รับบาดเจ็บ 

จากการตรวจค้นรถยนต์ บริเวณใต้เบาะคนขับพบอาวุธมีดปลายแหลม 1 เล่ม และ เอกสารโอนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน

ทั้งนี้ สอบสวน น.ส.วิภานี ผู้ก่อเหตุให้การว่า ตนมีอาชีพขับรถโบลด์ออกจากบ้านพัก ย่านถนนราชพฤกษ์ ฝั่งธนบุรี และกำลังจะไปรับเพื่อนที่หัวลำโพง เมื่อมาถึงบริเวณหน้าอาคารโครนอส พบรถเก๋งฮอนด้าซิตี้ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ขับมาจากแยกวิทยุ แล้วมากลับรถหน้าอาคารโครนอส ตนขับมาหักหลบไม่ทัน จึงได้เฉี่ยวชนท้ายรถด้านซ้าย จากนั้นเกิดอาการสติแตก รู้สึกเหมือนว่าถูกกดดัน  จึงขับรถไล่ชนรถไปทั่ว จนกระทั่งรถเสยปีนฟุตปาธ ขับต่อไปไม่ได้ และยังรู้สึกเหมือนมีคนจ้องทำร้าย จึงถืออาวุธปืนวิ่งออกไปข่มขู่คนที่นั่งในรถสามล้อ แต่ปืนไม่มีลูก เพราะตนเพิ่งซื้อมาได้ไม่กี่วันในราคา 2.5 หมื่นบาท โดยเจ้าของปืนโอนลอยมายังไม่ได้ใส่ชื่อตนครอบครอง 

ด้าน พ.ต.ท.กุลนันท์ อภินิตินันท์ รอง ผกก.(สอบสวน)สน.ทุ่งมหาเมฆ กล่าวว่า หลังจากรับตัวผู้ก่อเหตุมาแล้ว ได้ทำการตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติด และจับเป่าแอลกอฮอล์ เบื้องต้น ไม่พบทั้งสารเสพติดและแอลกอฮอล์ จากการสอบถามญาติให้การว่า ผู้ก่อเหตุกินยาระงับประสาทก่อนออกจากบ้าน และมีประวัติการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา 

ส่วนรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะนี้ มีทั้งหมด 8 คัน ประกอบด้วย ฮอนด้าซิตี้ , รถฮอนด้า แจ๊ซ , รถฮอนด้า ซิตี้ , รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ,รถยนต์ยี่ห้อวอลโว่ เอ็กซ์ ซี40 , รถจีเอซี ไอออนวาย ,รถแท็กซี่ โตโยต้า อัลติส สีเหลือง และรถสามล้อ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน อีก 1 คัน 

เบื้องต้น พนักงานสอบสวน ดำเนินคดีผู้ก่อเหตุในข้อหา “มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน โดยไม่ได้รับอนุญาต และขับรถประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินเสียหาย” ส่วนข้อหาอื่นต้องรอสอบสวนผู้เสียหายว่าเข้าข่ายข้อหาใดเพิ่มอีกบ้าง 

ส่วนเจ้าหน้าที่ ตำรวจจราจรที่ได้รับบาดเจ็บถูกนำส่งตัวไปรักษาบาดแผลที่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อตรวจรักษาว่าเกิดจากอาวุธปืนหรือไม่ ซึ่งอาจต้องแจ้งข้อหาต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ขณะที่ โชเฟอร์รถแท็กซี่ที่ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งตัวไปรักษาบาดแผลเช่นกัน หลังจากนี้จะพิจารณาแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป

ต่อมา นางสาวศศิมา คาน อายุ 30 ปี เพื่อนของนางสาววิภานี เนียลเซ็น ผู้ต้องหา เดินทางมาเยี่ยมเพื่อน บอกว่า เห็นจากข่าวว่าเพื่อนก่อเหตุชนรถหลายคัน จึงโทรศัพท์หาแม่ของเพื่อนก็ทราบว่า เป็นเพื่อนจริงๆ ที่ก่อเหตุ และตอนนี้แม่ก็อยู่ รพ. เพราะตกใจ เครียด และแม่ก็เป็นโรคหอบอยู่ 

นางสาวศศิมา บอกว่า เพื่อน มีอาการทางจิต รักษามานานแล้ว หากไม่กินยา ก็จะมีอาการคลั่ง หงุดหงิด ฉุนเฉียวทำร้ายตัวเอง และสันนิษฐานว่าเมื่อวานนี้ น่าจะมีรถมาปาดหน้าเพื่อน ทำให้เพื่อนหงุดหงิดคุมตัวเองไม่ได้เลยขับรถชนแบบนี้ และที่ผ่านมาตนเองเคยนั่งรถกับเพื่อน แต่ก็ไม่เคยฉุนเฉียวใส่ เพราะตนสามารถปรามเพื่อนได้ แต่ก็มีมาระบายกับตนเวลาที่เพื่อนออกไปทำงานแล้วเจอรถคันอื่นมาปาดหน้าตนก็จะคอยบอกให้ใจเย็นๆ 

ส่วนเรื่องอาวุธปืน ตนเพิ่งทราบว่า เพื่อนมีอาวุธปืน ก่อนหน้านี้ไม่นาน เพื่อนมาหา เมื่อวันที่ 15 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันเกิดของเพื่อน ก็มาเล่าว่า ได้ซื้อปืนมา อ้างว่าไว้ป้องกันตัว ซึ่งตนก็ได้ตำหนิไป รวมถึง เพื่อนเคยโพสต์รูปปืนที่ไปยิงปืนที่สนามอีกด้วย ตนเชื่อว่าเหตุที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากอาการป่วยของเพื่อน และคาดว่าเขาเองไม่ได้รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง จึงทำให้อาการกำเริบ