svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

สาวร้องถูกแท็กซี่โหด ใช้ดาบทำร้ายจนเลือดอาบ

สาวร้องเพจสายไหมต้องรอด พี่สาวถูกแท็กซี่หัวร้อน ที่เรียกผ่านแอปฯ ใช้มีดดาบยาวทำร้ายจนเจ็บสาหัส หลังไม่พอใจไม่ยอมให้ค่าเสียเวลา 500 บาท

11 สิงหาคม 2567 น.ส.อิสราภรณ์ (สงวนนามสกุล) เพื่อน และน.ส.สุภาวดี (น้องสาว) ของ น.ส.วันเพ็ญ หรือปุ้ย (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ผู้เสียหาย เดินทางเข้าร้องขอความช่วยเหลือกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ  ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กรณีถูกคนขับแท็กซี่ใช้อาวุธมีดดาบไล่ฟันศีรษะจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุไม่พอใจขอเรียกค่าเสียเวลาจํานวน 500 บาท 

น.ส.อิสราภรณ์ เพื่อนของผู้เสียหาย เล่าว่า เหตุการณ์ขึ้นเมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา เวลาประมาณ 01.00 น.โดยตนพร้อมเพื่อนที่เป็นผู้เสียหาย ได้นัดไปสังสรรค์ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งแถวเลียบทางด่วนรามอินทรา เนื่องจากมีเพื่อนชาวต่างชาติเดินทางมาจากสิงค์โปร หลังสังสรรค์เสร็จได้เรียกรถผ่านแอปพลิเคชันชื่อดัง เมื่อขึ้นรถก็ถูกคนขับแท็กซี่บ่นต่อว่าทํานองว่า “อุตสาห์ไม่รับผู้โดยสารข้างทาง แต่ดันมาเจอคนเมา“ และยังคงบ่นเรื่อยๆ กระทั่งเพื่อนที่เป็นผู้เสียหายเกิดอาการพะอืดพะอมจะอ้วก จึงขอให้แท็กซี่จอดข้างทางเพื่อลงไปอ้วก  จากนั้นคนขับแท็กซี่เดินลงมาบ่น และบอกจะเรียกค่าเสียเวลาและจอดให้ค่าอ้วก 500 บาท ซึ่งตนและเพื่อนผู้เสียหายรู้สึกว่าแพงเกินไป เพราะอ้วกก็อ้วกข้างนอกไม่ได้เปื้อนในรถ แต่ยินดีจ่ายค่าเสียเวลาเพิ่มให้ 200 บาท  แต่คนขับแท็กซี่ไม่พอใจ และยังคงบ่นต่อบนรถ

 

 

จนกระทั่งเถียงกันไปมาและถูกไล่ให้ลงจากรถพร้อมกับเรียกค่าเสียเวลากับค่าอ้วก 500 เช่นเดิม ตนและเพื่อนผู้เสียหายจึงให้ไป 200 บาท ไม่รวมค่ารถอีกกว่า 200 บาท ที่จ่ายตัดผ่านบัตรทั้งที่ยังไม่ถึงปลายทาง แต่จังหวะที่เดินลงจากรถจู่ๆ คนขับแท็กซี่ได้หยิบอาวุธมีดดาบออกมาและไล่ฟันเพื่อนที่เป็นผู้เสียหาย 3-4 ครั้ง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่โชคดีที่มีรถแท็กซี่อีกคัน ขับตามหลังและบีบแตรช่วยเอาไว้ได้ทัน ไม่งั้นอาจถึงแก่ชีวิตได้ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทําให้เพื่อนชาวสิงค์โปรที่นั่งอยู่ในรถรู้สึกกลัวและบอกว่ามาเที่ยวไทย 15 ปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน

ด้าน น.ส.สุภาวดี น้องสาวของผู้เสียหาย กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังเกิดเหตุได้แจ้งความเอาผิดคนขับแท็กซี่ที่ทำร้ายพี่ตนไว้ที่ สน.โชคชัย ในข้อหา “พยายามฆ่า” ซึ่งทางตํารวจบอกว่าสามารถติดต่อแท็กซี่ผู้ก่อเหตุได้แล้ว นอกจากนี้ได้ร้องเรียนไปยังแอปพลิเคชันดังกล่าว ซึ่งเขาแจ้งว่าได้ลงโทษสูงสุดระงับบัญชีแล้ว ส่วนอาการของพี่สาวตอนนี้ มีแผลที่ศีรษะ 2 แผล นิ้วหัก 2 นิ้ว รวมเย็บกว่า 20 เข็ม แพทย์ระบุว่าให้ดูอาการเพราะมีเลือดซึมในสมอง กระโหลกร้าว และมีอาการชักตลอดเวลา  เบื้องต้นยังสามารถพูดคุยโต้ตอบได้แต่มีอาการเบลอ

 

 

ขณะที่นายเอกภพ กล่าวว่า พฤติกรรมแบบนี้ควรต้องถูกเพิกถอนใบอนุญาต เพราะการขับรถสาธารณะต้องไม่แสดงพฤติกรรมเช่นนี้ อีกทั้งต้องรู้อยู่แล้วว่าขับรถกลางคืนจะต้องเจอกับคนเมา หากมีการอ้วกใส่รถก็ขอให้พูดคุยกันดีๆ เพราะส่วนตัวเชื่อว่าคนเมาที่ไปเที่ยวสังสรรค์ส่วนใหญ่พร้อมที่จะจ่ายหากทํารถเปื้อน แต่หากตกลงกันไม่ได้ก็ให้ตํารวจช่วยเป็นตัวกลาง ไม่ใช่มาก่อเหตุแบบนี้ เพราะมันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง อีกทั้งเหตุที่เกิดขึ้นมีชาวต่างชาติอยู่ด้วย