15 กรกฎาคม 2567 ความคืบหน้ากรณี บริษัททัวร์ร้องเพจสายไหมต้องรอด กรณีนักท่องเที่ยวจีนถูกชายฉกรรจ์ 4 คน อ้างเป็นตำรวจรีดเงิน 7 แสนบาท บนมอเตอร์เวย์ จังหวัดชลบุรี มีการเผยแพร่คลิปผ่านทางเพจดัง ซึ่งภายหลังพบว่า ชายในคลิปทั้ง 4 ราย ถูกทาง พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผู้บังคับการสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 2 (ผบก.สส.ภ.2 ) เรียกมาสอบสวน โดยทั้ง 4 ราย เป็นตำรวจจริง พร้อมยอมรับว่าก่อเหตุจริง แต่อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ทางผู้เสียหายยังไม่ได้มีการเข้าแจ้งความ และตำรวจยังไม่สามารถติดต่อไป
ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ ที่กองบังการสืบภาค 2 ตำรวจภูธรชลบุรี นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ พร้อมทีมงาน พาพนักงานบริษัทเช่ารถ เดินทางมาให้ข้อมูลกับตำรวจ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ไม่กล้าเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจ สภ.หนองปรือ เเละ ตำรวจภูธรภาค 2 เพราะกลัวความไม่ปลอดภัยว่า จะถูกอุ้ม
โดยนายเอกภพ นำชายที่จะมาให้ข้อมูลปิดหน้าปิดตาอย่างมิดชิด ไปพบกับ พ.ต.อ.พัลลภ สุภิญโญ รอง ผบก.สส.ภ.2 เพื่อให้ข้อมูลพูดคุยกันเป็นการส่วนตัว ไม่ได้มีสื่อรับฟังด้วย เเต่ก่อนการพูดคุย รอง ผบก.สส.ภ.2 เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการสอบสวน หลังจากที่ได้สอบปากคำตรวจ 1 นาย ที่ร่วมก่อเหตุว่า ขณะอยู่ระหว่างการคลี่คลายความจริงในเรื่องนี้ เเต่ไม่ขอเปิดเผยจำนวนตำรวจที่เข้าไปร่วมว่ามีกี่คน
ขณะที่ พนักงานบริษัทรถเช่า ที่เข้ามาให้ข้อมูลกับตำรวจ กังวลใจเรื่องความปลอดภัย หลังเกิดเหตุไม่มีใครมาข่มขู่ เเต่เมื่อวานนี้ มีชายพฤติกรรมแปลก ๆ มาซุ่มอยู่ทางเข้าบ้าน ทั้งที่ฝนตก มายืนตากฝน ซึ่งตนมีความกังวลเพราะก็ต้องทำมาหากิน เเละอยากได้เงินคืน เพราะถูกต่อว่าว่า พาลูกทัวร์นักทีองเที่ยวจีนให้ตำรวจมาอุ้มลูกค้าไปรีดเงิน
นาย เอกภพ เปิดเผยภายหลัง พาพนักงานบริษัทรถนำเที่ยว มาให้ข้มูลว่า ขณะนี้ทราบว่า มีตำรวจมากกว่า 1 นาย มีตำรวจยศสิบตำรวจโท 1 นาย เเต่ในคลิปทั้ง 4 คน มีพลเรือนอยู่ด้วย เเละยังทราบว่า มีคนชี้เป้าในการรีดเงินครั้งนี้ และยังไม่ชัดเจนว่า ตำรวจนำเงินไป หรือใครเป็นคนเอาไป คนที่ต้องสงสัยที่สุดเวลานี้คือ คนขับรถ จะเป็นกุญเเจสำคัญ ส่วนคนจีนที่ยังไม่เข้ามาเเจ้งความอาจจะมีความกังวล หรือเวลานี้อาจจะถูกข่มขู่ เเละจากการจรวจสอบ ทางผู้บังคับการสืบสวนยืนยันว่า ขั้นตอนการปฏิบัติตรวจค้นนั้นไม่ถูกต้อง
นายเอกภพ ยังฝากถึงเพื่อนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ทราบข่าว หรือมีข้อมูล ให้รีบมาเเจ้งความ มิเช่นนั้นจะเป็นผู้ต้องสงสัยเช่นเดียวกัน
รายงานระบุว่า นักข่าวนั่งรอจนกระทั่ง 17.00 น. ปรากฎว่า ชายที่ทำหน้าที่ขับรถให้นักท่องเที่ยวจีน ที่นายเอกภพระบุว่า เป็นกุญเเจดอกสำคัญ ก็ยังไม่เดินทางให้ข้อมูลกับตำรวจ