วันที่ 13 กรกฎาคม 2567 ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พ.ต.ต.จอมพฤทธิ์ แก้วเรือง สว.กก.6 บก.ป., ร.ต.ท.วุฒิพงษ์ สุพรรณชนะบุรี, ร.ต.ท.ภูธร ทองทวี รอง สว.กก.6 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชป.6 กก.6 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายสุขธิพร อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดปัตตานี ที่ จ.342/2567 ลง 29 มิ.ย. 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 13 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 15 โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม อันเป็นการกระทำต่อผู้สืบสันดาน, ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น” โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บริเวณสถานีขนส่งรถตู้หมอชิต แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กทม.
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเพื่อนบ้านได้เห็นว่า นายสุขธิพร อาศัยอยู่กับบุตรสาว มักจะเกิดอาการหลอนยาเสพติด ทำร้ายร่างกายบุตรสาวอายุ 10 ขวบ ของตนเองอยู่เป็นประจำ เพื่อนบ้านจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและพัฒนาสังคมจังหวัดปัตตานีเข้ามาตรวจสอบให้ความช่วยเหลือ
จากการตรวจสอบพบว่า บุตรสาวมีแผลฟกช้ำบริเวณตามตัวหลายจุด อีกทั้งยังมีร่องรอยการล่วงละเมิด ซึ่งบุตรสาวยอมรับว่า นายสุขธิพร ซึ่งเป็นบิดาแท้ๆ ของตน เป็นผู้กระทำ โดยหลังจากที่เด็กได้รับการช่วยเหลือ นายสุขธิพร ได้หลบหนีออกจากบ้านไป เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลอนุมัติหมายจับ
ต่อมา มีชายคนหนึ่งได้จ้างมอเตอร์ไซต์รับจ้างจาก รพ.กลาง มาส่งที่สถานีขนส่งรถตู้หมอชิต เมื่อมาถึงชายคนดังกล่าวไม่ยอมจ่ายค่าจ้าง จำนวน 200 บาท ทำให้มีปากเสียงกับมอเตอร์ไซต์รับจ้าง ซึ่งตัวชายคนดังกล่าวได้ชิ่งหนีไป พลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบและแจ้งว่า ชายคนดังกล่าวกำลังจะเดินทางไป จ.ระยอง เมื่อมาถึงพบว่าชายคนดังกล่าวกำลังนั่งอยู่ในรถตู้ กทม.-ระยอง แต่ยังไม่จ่ายค่าตั๋วโดยสาร โดยอ้างกับคนขับว่าจะเก็บเงินปลายทาง เหมือนการส่งพัสดุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจสอบพบว่า บุคคลดังกล่าว คือ นายสุขธิพร ผู้ต้องหาตามหมายจับข้างต้น จึงได้แสดงตัวและเข้าจับกุม จากนั้นนำตัวส่ง สภ.เมืองปัตตานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถาม นายสุขธิพร เบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าตนไม่ได้กระทำชำเราบุตรสาว แต่ยอมรับว่าได้ทำร้ายร่างกายบุตรสาวจริง โดยได้ทำไปเพราะความรักไม่ได้มีเจตนาไม่ดี