"บิ๊กต่าย" แถลงคดียิงดาบโก้พร้อมเมีย เกิดจากเข้าจับซื้อขายเอทานอลเถื่อน

14 พฤษภาคม 2567 ความคืบหน้าคดีสังหารโหด พบร่าง ดาบตำรวจสกล บรรลุ และนางคำสอน ภรรยาชาวลาวที่ตั้งท้อง 6 เดือน ถูกยิงพรุนทั้งคู่ ภายในรถกระบะ ในป่า อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยพบว่า ผู้ตายเคยทำงานในพื้นที่ ก่อนย้ายไปอำนาจเจริญ ซึ่งหลังพบศพ ตำรวจเร่งขยายผลปมสังหาร ฆาตกรรมอำพราง เนื่องจากเจอรถจอดทิ้งภายในป่า อยู่ห่างจากถนนสาย 3079 ประมาณ 4 กิโลเมตร 

 

ล่าสุด วันนี้ (14 พ.ค.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี เพื่อแถลงผลการจับกุมคดี 4 คนร้ายร่วมก่อเหตุยิงดาบตำรวจสกล โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงที่ สภ.ระเบาะไผ่ จ.ปราจีนบุรี 

คดีนี้ตำรวจสามารถติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุได้แล้ว รวมจำนวน 4 คน ประกอบด้วย นายชัยวิชิต มือปืนยิง ด.ต.สกลฯ และภรรยา , น.ส.ธัญญา ภรรยาของนายชัยวิชิต , นายพิชิตพงศ์ ลูกชายของนายชัยวิชิต และนายธรรมรัตน์ ลูกจ้างของนายชัยวิชิต 


 

จากการสืบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ดาบตำรวจสกล พบกลุ่มผู้ต้องหาซึ่งเป็นกลุ่มลักลอบจำหน่ายเอทานอลผิดกฎหมาย กับรถสิบล้อบรรทุกเอทานอล และลักลอบซื้อ-ขายในรายทาง บริเวณป่ามันสำปะหลัง หมู่บ้านหนองหอย หมู่10 ต.ศรีมหาโพธิ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นเหตุซึ่งหน้า จึงเข้าตรวจสอบ 

แต่กลุ่มคนร้ายขัดขวาง จากนั้นนายชัยวิชิต ได้ใช้อาวุธปืนยิง ดาบตำรวจสกล จำนวน 5-6 นัด จนเสียชีวิต ซึ่งภรรยาของดาบตำรวจสกล ได้ส่งพิกัดจีพีเอส และข้อความที่แจ้งขอความช่วยเหลือ และถ่ายรูปรถบรรทุกเอทานอล ส่งให้ตำรวจอยู่ป้อมยามที่พักสายตรวจกรอกสมบูรณ์ ซึ่งเป็นเพื่อนของดาบตำรวจสกล 


ต่อมา นายชัยวิชิต ได้นำอาวุธปืนของดาบตำรวจสกล นำมายิงภรรยาของดาบตำรวจสกลจนเสียชีวิตภายในรถ ก่อนที่กลุ่มคนร้ายจะนำศพของดาบตำรวจสกลและภรรยา พร้อมรถของผู้เสียชีวิตไปจอดทิ้งไว้ในป่า ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร จนมีการติดตามพบในเวลาต่อมา 

จากนั้นผู้ต้องหาได้ทำลายหลักฐาน อาทิ นำโทรศัพท์ของผู้เสียชีวิตไปทิ้ง นำปืนที่ก่อเหตุไปฝัง ก่อนหลบหนีไป จ.นครนายก จนถูกตามจับกุมได้ทั้งหมด จากนั้นชุดจับกุมได้ตรวจสอบที่รถ และบ้านพักของกลุ่มผู้ต้องหา พบของกลางจำนวน 18 รายการ เป็นอาวุธสงคราม และเครื่องกระสุนชนิดต่าง ๆ 


พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า เบื้องต้น จากการตรวจสอบพบการกระทำความผิด เกี่ยวกับการลักลอบนำเอทานอลมาจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ได้สั่งการให้ศูนย์ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปนม.ตร.) ซึ่งมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ เป็น ผอ.ศปนม.ตร. ขยายผลเพื่อนำตัวผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมกำชับ ตรวจสอบ ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับเชื้อเพลิงทั่วประเทศอย่างเข้มงวดต่อไป


พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า จากพฤติการโหดเหี้ยม อุกอาจ รุนเเรง พบว่า มีการทำลายพยานหลักฐาน ซุกซ่อนศพ นำไปทิ้งห่างกัน 3 กม. เอาอาวุธปืนไปซุกซ่อนที่บ้านนายธรรมรัตน์ เอามือถือผู้ตาย 2 คน ไปทิ้งน้ำ ส่อให้เห็นว่า ตั้งใจจะสังหารสองสามีภรรยา 

อีกทั้งก่อนหน้านี้ ผู้ต้องหาเคยถูกดำเนินคดี ลอบขายน้ำเถื่อนเมื่อปี 2565 โดยทั้งผู้ตาย เเละผู้ต้องหา ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ส่วนการเดินทางมาที่จังหวัดปราจีนบุรีของดาบโก้ เดินทางมาหาเพื่อนในวันหยุดราชการ ซึ่งดาบโก้มาหาเพื่อนที่ปราจีนบุรีบ่อยครั้ง สำหรับผู้ต้องหา นายชัยวิชิต ที่เป็นมือยิง ตำรวจเตรียมนำตัวส่งศาลจังหวัดปราจีนบุรีฝากขังในวันพรุ่งนี้

ทางสำนักงานตำรวจเเห่งชาติ ต้องขอเเสดงความเสียใจกับดาบโก้ ที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ หลังจากนี้จะมีการพิจารณาเรื่องการให้ความช่วยเหลือครอบครัว เเละการปูนบำเหน็จชี้นยศ ส่วนเรื่องส่วยในพื้นที่ก็จะตรวจสอบอย่างละเอียด ที่ผ่านมาตำรวจในพื้นที่ยังไม่ได้รับการร้องเรียน ถึงขบวนการลักลอบซื้อขายน้ำมันเถื่อน 
 

ผู้การปราจีน ลงพื้นที่จุดลอบถ่ายน้ำมันเถื่อน

ภายหลังการเเถลงความคืบหน้าทางคดี พล.ต.ต.ภูมินทร์ สิงหสุต ผู้บังบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี นำชุดสืบสวนลงพื้นที่บริเวณจุดที่เกิดเหตุ หมู่ที่ 10 ต.กรอกสมบูรณ์ เพื่อตรวจสอบหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม เเต่เนื่องด้วยเมื่อวานนี้ฝนตกอย่างหนักกว่า 3 ชั่วโมง ทำให้พยานหลักฐานถูกชะล้าง ซึ่งในระหว่างที่ลงพื้นที่พบว่า ชาวบ้านในละเเวกใกล้เคียง เดินทางมาดูกันเป็นจำนวนมาก

เเต่ปรากฎว่า ไม่มีการนำตัวผู้ต้องหามาทำเเผนประกอบคำรับสารภาพ ชาวบ้านต่างให้ข้อมูลว่า ปกติถ้าขับรถเข้ามาบนถนนเส้นนี้ ถ้าไม่สังเกตจะไม่เห็นอะไร ซึ่งปกติคนจะไม่ค่อยเข้ามากัน จึงเเปลกใจว่า ตำรวจที่เสียชีวิต เข้ามาได้อย่างไร 


ญาติเชื่อชนวนเหตุยิงดาบโก้ มีเบื้องลึก

ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับญาติของนายธรรมรัตน์ หนึ่งในผู้ต้องหา ซึ่งวันนี้เดินทางไปเยี่ยมนายธรรมรัตน์ที่ สภ.ระเบาะไผ่ เเละยังเดินทางมาที่จุดเกิดเหตุ ญาติเล่าว่า ปกตินายชัยวิชิต จะเป็นคนใจบุญ เป็นพ่อพระ ชอบช่วยเหลือคน เเทบไม่น่าเชื่อว่า ยิงโหดร้ายเพียงนี้

ส่วนนายธรรมรัตน์ ที่เป็นลูกน้องเพราะนายชัยวิชิตชวนเข้าไปทำงานด้วย ไม่คิดว่าจะพาไปก่อเหตุ เเละ ส่วนตัวก็ไม่เชื่อว่า จะเป็นเรื่องของการเข้ามาสกัดการขายน้ำมัน น่าจะมีเบื้องลึกเบื้องหลังมากกว่านี้

นอกจากผู้สื่อข่าว ยังเข้าไปสำรวจตั้งเเต่ถนนสายหลัก ที่สัญจรเข้าเส้นทางเป็นเส้นทางถนนชนบท จุดที่มีการยิงกันพบว่า ไม่ค่อยบ้านเรือนของประชาชน หรือมีร้านอาหาร ซึ่งร้านอาหารส่วนใหญ่จะอยู่บนถนนสายหลัก อีกทั้งจุดที่เกิดเหตุ ห่างจากถนนชนบทประมาณ 50 เมตร เป็นที่สวนมันกับซอยบ้านของนายชัยวิชิต จากจุดที่ลงมือยิงเป็นสวนมัน หากไม่คุ้นชิน หรือไม่รู้เส้นทางก็จะไม่มีใครเข้ามา 

ผู้สื่อข่าวยังเดินทางไปที่บ้านนายชัยวิชิต ที่ระบุว่า ทำธุรกิจเกี่ยวกับมันสำปะหลัง ซึ่งอยู่ตรงข้าม เเละห่างจากจุดเกิดเหตุ 1.5 กิโลเมตร พบว่า มีชายที่อยู่ในบ้านพยายามยกมือข้อร้องไม่ให้ถ่ายถาพ จากการสังเกตพบว่า ภายในบ้านมีถังที่ใช้ขนถ่ายน้ำมันขนาด1 พันลิตร วางเรียงอยุ่จำนวนมาก เเต่คนในบ้านไม่ให้ความร่วมมือ ในการให้ข้อมูลเเละก่อนหน้านี้ยังนำป้ายข้อความมาปิดว่า ห้ามเข้ามารบกวน