อดีตผู้บริหารสาว เข้าให้ปากคำที่ สน.ประเวศ ยันไม่มีเจตนาถีบหน้าตำรวจ
อดีตผู้บริหารสาวบริษัทดัง เข้าให้ปากคำที่ สน.ประเวศ ยืนยันไม่มีเจตนาถีบหน้าตำรวจ ไม่ได้ตั้งใจที่จะขัดขืนคำสั่งเจ้าหน้าที่ เผยตอนนั้นมีลูกรออยู่ที่บ้าน ด้วยความเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวจึงอยากรีบกลับไปหาลูกเท่านั้น
28 เมษายน 2567 จากกรณี "เมาแล้วขับ" น.ส.มนธ์สินี (สงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี อดีตผู้บริหารหน่วยงานในสังกัด บริษัทชื่อดังระดับโลก ถูกตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ได้ 104 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น ภายในด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอลล์และกวดขันวินัยจราจร บริเวณฝั่งตรงข้าม มัสยิด ถนนเลียบมอเตอร์เวย์ แขวงและเขตสวนหลวง กรุงเทพ เมื่อกลางดึกวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา
ก่อนเกิดเหตุการณ์ถีบหน้านายตำรวจระดับ "รองผู้กำกับ" จากนั้นมีคลิปเผยแพร่ถึงเหตุการระหว่างการควบคุมตัวของตำรวจ เพื่อส่ง สน.ประเวศ จากนั้นได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว โดยใช้หลักทรัพย์ 6 หมื่นบาท เนื่องจากผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ
กระทั่งพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ นัดสาวผู้บริหาร เข้าพบในวันที่ 27 เม.ย. 67 พร้อมให้ข้อมูลว่า ส่งฟ้องคดีเมาแล้วขับไปยังศาลพระโขนงแล้ว เหลือข้อหาการทำร้ายร่างกาย ดูหมิ่นเจ้าหน้าที่ อยู่ระหว่างการเเกะเทปคำพูด
ขณะที่ เจ้าตัวออกมาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมให้การในชั้นศาล โดยตำรวจเจ้าของคดีเตรียมนัดให้มาพบอีกครั้ง ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้
ล่าสุด เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 27 เม.ย. 67 อดีตผู้บริหารสาวคนดังกล่าว พร้อมทนายความ ได้เดินทางมาที่ สน.ประเวศ เพื่อให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนในข้อหา ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ และข้อหาทำร้ายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่
โดยเจ้าตัว เปิดเผยว่า ตนยอมรับผิดในเรื่องของการเมาแล้วขับ เพราะคืนนั้นตนเพิ่งเลิกงานและได้มีการไปรับประทานอาหารร่วมกับเพื่อนร่วมงาน ก็ได้มีการดื่มสุรากันเล็กน้อย ก่อนจะขับรถมาเจอด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ตามที่ปรากฏในข่าว และตนยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจที่จะขัดขืนคำสั่งเจ้าหน้าที่ เพียงแค่ว่าตอนนั้นตนมีลูกรออยู่ที่บ้าน ด้วยความที่ตนเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวจึงอยากรีบกลับไปหาลูกเท่านั้น
ส่วนกรณีที่มีการนำเสนอข่าวว่าตนได้ใช้เท้าถีบหน้าตำรวจนั้น ตนยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะใช้เท้าถีบหน้า ซึ่งหลังจากนั้นตนได้มีการพูดคุยขอโทษกับตำรวจนายดังกล่าวแล้ว ส่วนเรื่องที่ปรากฏภาพที่ตนด่าตำรวจว่า "ชั้นต่ำ" นั้น ตนขอไม่ให้ข้อมูล เนื่องจากกลัวกระทบกับรูปคดี นอกจากนี้ตนยืนยันว่า ตนไม่เคยถูกดำเนินคดีในข้อหาเมาแล้วขับ หรือคดีอาญาใด ๆ มาก่อน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต
ทั้งนี้ ตนได้ฝากขอโทษถึงอดีตบริษัท และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน รวมถึงตำรวจชุดปฏิบัติการในวันที่เกิดเหตุ