28 กุมภาพันธุ์ 2567 "นายวีระ สมความคิด" ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น หรือ คปต. นำเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับ "พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล" รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เข้าแจ้งความกับตำรวจสอบสวนกลาง ให้ดำเนินคดีกับ พล.อ.สุรเชษฐ์ และคณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. ในความผิดมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
โดยนายวีระ กล่าวว่า ที่มาแจ้งความแบ่งเป็น 2 คดี คือ
คดีแรก สืบเนื่องจากกรณีที่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนหลังถูกบุกค้นบ้านพักเมื่อปีที่แล้ว ว่ามีข้อมูลลับของตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติหลายคน ทั้งข้อมูลพฤติกรรมไม่ดี ข้อมูลการทุจริต หากเปิดเผยออกมาตำรวจจะตายกันหมด ซึ่งผ่านมานานกว่า 6 เดือนแล้ว แต่บิ๊กโจ๊กกลับไม่ดำเนินการใด ๆ กับตำรวจเหล่านี้ทั้งที่มีข้อมูล
"ทั้งที่บิ๊กโจ๊ก เป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่กำกับดูแลฝ่ายความมั่นคง และเรื่องที่เกี่ยวกับตำรวจใหญ่ ๆ ที่ทำการทุจริตเสียเอง ก็ย่อมเป็นภัยต่อความมั่นคงโดยตรง ถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 และล่าสุดบิ๊กโจ๊กกลับยังพูดจาขู่ตำรวจที่ตรวจสอบบิ๊กโจ๊กด้วย" นายวีระ กล่าว
ส่วนคดีที่ 2 ตนเองจะยื่นให้ตำรวจสอบสวนกลางดำเนินคดีกับอนุกรรมการ ป.ป.ช. หลังตนเองเชื่อว่าอนุกรรมการชุดดังกล่าวช่วยเหลือพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเป็นผู้กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือ บก.ปคม. และถูกกล่าวหาว่าไปเรียกเงินร้านคาราโอเกะใน จ.นครพนม อุดรธานี หนองคาย และจังหวัดอื่นๆ ในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เมื่อปี 2553
นายวีระ กล่าวต่อว่า โดยคณะทำงานจเรตำรวจสรุปความเห็นเมื่อเดือน ส.ค. 2554 ว่าให้ตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง แต่สุดท้ายเมื่อส่งเรื่องให้อนุกรรมการ ป.ป.ช. กลับสรุปว่า ไม่มีมูล ไม่ตั้งกรรมการไต่สวน และยุติเรื่อง ทั้งที่มีพยานหลักฐานชัดเจน ทั้งเส้นทางการเงินและตำรวจที่เข้าไปตรวจสอบก็ยืนยันว่าต้องตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง
"จึงเชื่อว่าอนุกรรมการ ป.ป.ช. ชุดนี้ให้ความช่วยเหลือบิ๊กโจ๊ก ซึ่งเรื่องนี้สอดคล้องกับที่ก่อนหน้าเหตุกาณ์นี้ไม่นาน บิ๊กโจ๊กมีคลิปเสียงหลุดบอกทำนองว่า มีกรรมการ ป.ป.ช. คอยช่วยเหลือ" นายวีระ ระบุ
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวจึงอยากให้ บก.ปปป. ภายใต้กองบัญชาการสอบสวนกลาง ตรวจสอบพฤติกรรมของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และการปฏิบัติหน้าที่ของอนุกรรมการ ป.ป.ช. เจ้าของสำนวน ว่าเป็นไปอย่างถูกต้อง ครบถ้วนหรือไม่