ตำรวจ เผย นายหน้าชาวอินเดีย ต้องสงสัยหั่นร่างหนุ่มเมียนมา บินกลับประเทศไปแล้ว

ความคืบหน้าคดีฆ่าหั่นศพแช่ตู้เย็น ภายในซอยสะแกงาม 35/3 เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ ล่าสุด พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. กล่าวภายหลังเดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ว่า จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น บ้านเช่าหลังนี้ มีชาวอินเดียซึ่งเป็นคนจัดหางาน มาเช่าตั้งแต่วันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา และมีชาวเมียนมา 5 คน มาเข้าพักเพื่อรอส่งไปทำงาน

ซึ่งเมื่อวันที่ 18 มกราคม ที่ผ่านมา ชาวเมียนมา 4 คนแรก ได้ออกไปทำงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยังเหลือผู้เสียชีวิตที่ยังไม่ได้งาน จนกระทั่งวันนี้เพื่อนชาวเมียนมาล็อตแรก จะเข้ามาเอากระเป๋าที่บ้าน แต่เข้าบ้านไม่ได้ พองัดเข้าไปกลับพบศพเพื่อนถูกแช่แข็ง

เบื้องต้นยังต้องขอรอสอบปากคำพยานทั้ง 4 ปากให้เรียบร้อยก่อน เนื่องจากสภาพศพมีร่องรอยคล้ายถูกวัตถุเลื่อนไฟฟ้าตัดแขนทั้ง 2 ข้าง และมีบาดแผลอยู่ที่หน้าท้องและเข่า เชื่อว่าผู้เสียชีวิตน่าจะมีเหตุทะเลาะวิวาทกับนายจ้างกับชาวอินเดีย เนื่องจากพบร่องรอยการต่อสู้บริเวณห้องนอน ห้องน้ำ และจุดเกิดเหตุ โดยฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างไล่เลียงข้อมูลทั้งหมดว่ามีที่มาที่ไปเป็นอย่างไร

ส่วนข้อมูลล่าสุดของนายจ้าง พบเพิ่งเดินทางออกจากประเทศไทย เมื่อวันที่ 20 มกราคม ช่วงเวลาประมาณ 20.50 น. ไปยังเมืองเจนไน ประเทศอินเดีย

ด้าน เพื่อนคนตาย ให้ข้อมูลว่า ผู้ตายคือนาย อา เซ ไค อายุ 35 ปี ชาวเมียนมา เข้ามาในไทยเพื่อหางานทำ โดยอาคารแห่งนี้เป็นที่พัก สำหรับแรงงานชาวเมียนมาที่รอไปทำงาน โดยมีนายซันดาราเวล ปกาดีส คูมา (SUNDARAVEL PRAGADEESH KUMAR) อายุ 23 ปี ชาวอินเดีย เป็นนายหน้าจัดหาแรงงานต่างชาติมาทำงานในประเทศไทย มีสำนักงานอยู่ที่สาธุประดิษฐ์

ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจัดหางาน 15,000 บาท และมีค่าดำเนินการเรื่องเอกสาร 7,000 บาท ก่อนหน้านี้ประมาณวันที่ 17 มกราคม นายซันดาราเวล ได้มาเช่าตึกแห่งนี้เพื่อให้ชาวเมียนมามาพัก และได้เข้าพักในวันพฤหัสบดี จำนวน 5 คน

ช่วงเช้าวันศุกร์ นายหน้าชาวอินเดีย ได้มารับคนงานไป 4 คน เหลือผู้ตายพักอยู่คนเดียว หลังจากนั้นได้ติดต่อผู้ตายในช่วงเวลาประมาณ 22.30 น. วันศุกร์คุยกันตามปกติ และวิดีโอคอลคุยกับนายหน้า บอกว่ากำลังมารับผู้ตายไปทำงาน พวกตนสังเกตเห็นผู้ตายเหงื่ออกท่วมตัว และรีบวางหูไป จากนั้นไม่สามารถติดต่อทั้งคู่ได้อีก วันนี้จึงได้เดินทางมาหา