svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

"ยุทธนา"เผย 3 ผู้ต้องหา"หมูเถื่อน"ปฏิเสธทุกข้อหายันไร้การเมืองเอี่ยว

16 มกราคม 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ยุทธนา แพรดำ" เผย 3 ผู้ต้องหา "คดีหมูเถื่อน-ตีนไก่เถื่อน" ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ชี้ต้องดูรายละเอียดทั้งหมดก่อนจะเชิญคนมาสอบปากคำเพิ่ม โดยเฉพาะอดีต รมว.เกษตรฯ ยันเรื่องนี้เป็นเรื่องอาญา ปัดมีการเมืองปน มอง "ผู้กองธรรมนัส" แค่เตือนไม่ได้ขู่

16 มกราคม 2567 จากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้ออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคดี "หมูเถื่อน" ก่อนที่หนึ่งในผู้ต้องหา คือ "นายสมเกียรติ กอไพศาล" อดีตเลขาส่วนตัวของ "นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน" อดีตรมว.เกษตรและสหกรณ์ เข้าให้การกับ ดีเอสไอ วานนี้ (15ม.ค.) ภายหลังเดินทางกลับจากต่างประเทศ รวมถึงช่วงดึกที่ นายหยาง ยา ซุง และ น.ส.นวพร เชาว์วัย (ฝ่ายบริหารจัดการด้านบัญชี) ของ "นายหลี่ เซิ่งเจียว" หรือ "เฮียเก้า" นายกสมาคมการค้าแลกเปลี่ยนเศรษฐกิจไทยเอเชีย ก็ได้ให้เข้าด้วยเช่นกัน   

โดย "พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ" รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะรักษาราชการแทนอธิบดี  กล่าวถึงความคืบหน้าของการสอบปากคำผู้ต้องหาตามหมายจับสวมสิทธิ์​ส่งออกตีนไก่ให้สาธารณรัฐประชาชนจีน ทั้ง 3 ราย ว่า ทั้ง 3 คนปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และไม่ขอให้การในชั้นสอบสวนของดีเอสไอ แต่จะขอนำเอกสารมายื่นแก้ข้อกล่าวหาในภายหลัง

เมื่อถามว่า เฮียเก้ากับเฮียเกียรติมีความสัมพันธ์กันอย่างไร พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า ไม่สามารถเปิดเผยได้ 

ส่วนกรณีที่เฮียเกียรติเป็นอดีตเลขาธิการของ นายเฉลิมชัย หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีต รมว.เกษตรและสหกรณ์ พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า ทั้ง 2 คนสถานภาพเป็นบุคคลที่ใกล้ชิด แต่ยังไม่ปรากฏว่า ใช้คอนเนคชั่น​เพื่อทำธุรกิจดังกล่าวหรือไม่ แต่หากใครที่เกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์ต่อการพิสูจน์ความผิด หรืออยากมาแสดงความบริสุทธิ์ก็จะเรียกมา

เมื่อถามย้ำว่า จำเป็นจะต้องเรียกนายเฉลิมชัย มาชี้แจงหรือไม่ พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวย้ำว่า การสอบสวนต้องดูว่าใครเกี่ยวข้องในการพิสูจน์ข้อเท็จจริงก็จะเรียกมา แต่ตอนนี้ไม่สามารถระบุได้ว่า จะต้องเรียกใครมาบ้าง ส่วนการที่นายเฉลิมชัย จะมีการแถลงข่าว ก็ต้องดูว่าแถลงว่าอย่างไร

สำหรับกรณีที่ "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" รมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ในทำนองขู่ดีเอสไอ เรื่องการสอบสวนคดีหมูเถื่อน หลังเตรียมเรียกข้าราชการระดับสูงในกรมปศุสัตว์มาให้ข้อมูล ว่า ตนไม่ได้ฟังคำให้สัมภาษณ์ของ ร.อ.ธรรมนัส แต่ยืนยันว่าดีเอสไอ มีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานทุกชนิด เพื่อพิสูจน์ความจริง และมองว่าไม่ใช่การขู่ แต่น่าจะเป็นการเตือนมากกว่า

 

"ยืนยันเราทุกอย่างตรงไปตรงมาตามข้อเท็จจริง และย้ำว่าคดีดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง แต่เป็นความผิดทางอาญา ความผิดทางศุลกากรและการฟอกเงิน ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง" พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าว 

"อัจฉริยะ" พาพยานปากสำคัญเข้าพบดีเอสไอ

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์  ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำพยานปากสำคัญในขบวนการสวมสิทธิ์ตีนไก่ที่เคยได้ให้ข้อมูลกับกรมสอบสวนคดีพิเศษมาตั้งแต่ปี 2565 มาเข้าพบพนักงานสอบสวน กองคดีภาษีอากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอเข้ารับการคุ้มครองพยาน เนื่องจากเคยให้ข้อมูลจนสามารถขยายผลจับกุมขบวนการของเฮียเก้าได้ แต่สุดท้ายพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ กลับไม่นำหลักฐานประกอบไว้ในสำนวน 

และยังถูกนายหยาง หนึ่งในผู้ต้องหาชาวไต้หวัน ที่อยู่ในขบวนการสวมสิทธิ์ตีนไก่ที่เข้ามอบตัววานนี้ ขู่ฆ่ามาตั้งแต่ปี 2565 แต่ยังถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษเรียกเข้ามาให้ข้อมูล  ตนจึงเห็นว่ามีความไม่ชอบมาพากล และเป็นห่วงความปลอดภัย โดยจะพาเข้าพบพันตำรวจเอกณัฐพล ดิษยธรรม หัวหน้าชุดสอบสวนคดีหมูเถื่อนด้วย

หวั่น "ดีเอสไอ" ทำคดีหมูเถื่อน เป็นมวยล้มต้มคนดู 

โดยนายอัจฉริยะ ยังกล่าวตัดพ้อว่า ขณะนี้ ตนเหลือความเชื่อมั่นในกรมสอบสวนคดีพิเศษ ไม่ถึงร้อยละ 30 มีเพียงพนักงานสอบสวนบางกลุ่มที่ยังเชื่อใจได้ไม่กี่คน เช่น พันตำรวจเอกณฐพล ดิษยธรรม หัวหน้าชุดคดีหมูเถื่อน เนื่องจากข้อมูลทุกอย่างที่สอบสวนคดีพิเศษใช้ดำเนินการจับกุมขบวนการค้าสัตว์เถื่อน กว่า 80% มาจากตนเอง  แต่กลับยังไม่สามารถจับกุมไปถึงนักการเมืองที่อยู่เบื้องหลังได้  ทั้งๆที่ตนให้ข้อมูลไปทั้งหมด

ผลที่เกิดขึ้นทำให้ตนเองเริ่มไม่เชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของกระทรวงยุติธรรมและกรมสอบสวนคดีพิเศษ เนื่องจากเห็นตัวอย่างจากกรณีขบวนการค้าหมูเถื่อนก่อนหน้านี้ ที่กระบวนการเข้าตรวจสอบชะงักกลางคัน และไม่เดินหน้าต่อทั้งที่มีพยานหลักฐานที่สามารถเชื่อมโยง ไปถึงอดีตรัฐมนตรี ป. ปลา ซึ่งเป็น ผู้บงการรายใหญ่ในขบวนการ

อีกทั้งยังไม่มีการเข้าตรวจค้นห้างสรรพสินค้าดังตัวย่อ ตัวแอล ทั้งที่มีการนำหมูเถื่อนไปไปขายให้กับประชาชนเช่นกัน จนสุดท้ายก็ดังกล่าวก็เงียบหายไป

ซึ่งตนมองว่า คดีสวมสิทธิ์ตีนไก่เถื่อนนี้ก็เชื่อว่ามีแนวโน้มจะเงียบหายไปด้วยเช่นกัน เพราะมีการใช้อิทธิพลจากนักการเมืองเข้ามาแทรกแซง วิ่งเต้น และรับผลประโยชน์กัน

เตรียมยื่นหนังสือผ่าน "รังสิมันต์ โรม" ช่วยตรวจสอบ

ดังนั้นจึงเห็นว่า หลังจากนี้คงต้องพึ่งพาฝ่ายค้าน โดยในวันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคมนี้ จึงจะนำหนังสือถ้าหลักฐานทั้งหมดไปยื่นให้กับนายรังสิมันต์ โรม สส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐกิจการชายแดนไทยยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ตรวจสอบและกดดันการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเอาผิดผู้กระทำผิดให้ได้ต่อไป

ขอนายกฯ ติดตามการทำงานเจ้าหน้าที่คดีหมูเถื่อน

นายอัจฉริยะยังฝากไปถึงพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งในช่วงบ่ายวันนี้ มีรายงานว่านายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ และตัวแทนฝ่ายกฎหมายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะเข้าพบ โดยมีข้อมูลว่าเป็นการไปร้องขอไม่ให้ออกหมายจับตัวเองและข้าราชการระดับสูงในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยอ้างว่าเป็นข้าราชการระดับสูงและมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่หลบหนีนั้น ซึ่งนายอัจฉริยะกล่าวว่า ส่วนตัวแล้วรู้ข้อมูลทุกอย่าง ดังนั้นจึงไม่ควรปกป้อง และไม่ควรใช้อำนาจสั่งการควบคุมไม่ให้พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษไม่สามารถดำเนินคดีจนถึงที่สุดได้  อย่าทำมวยล้มต้มคนดู

นอกจากนี้ ยังอยากให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีได้เข้ามาติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด ให้เหมือนกับสมัยที่พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่รับผิดชอบเรื่องหมูเถื่อนในขณะนั้นด้วย

ทั้งนี้ นายอัจฉริยะยังกล่าวว่า ในคดีลักษณะดังกล่าว ที่เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่รัฐที่กระทำความผิด มักจะมีการส่งสำนวนให้ ป.ป.ช.พิจารณาชี้มูล แต่กลับไม่ดำเนินคดีอาญา เพราะมีเจตนาปกป้องกลุ่มผู้กระทำความผิดที่มีผลประโยชน์ต่อกัน  ซึ่งตนเองเชื่อมั่นว่าหากดำเนินคดีอาญาผู้กระทำผิดจะต้องถูกลงโทษทั้งหมด เนื่องจากมีพยานหลักฐานแน่นหนาเพียงพอ

logoline