svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ย้อนรอย "เสี่ยแป้ง นาโหนด" นักโทษแหกคุกกลาง รพ. สู่การไล่ล่าบนเทือกเขาบรรทัด

ย้อนรอยคดีดัง "เสี่ยแป้ง นาโหนด" นักโทษแหกคุกกลาง รพ. สู่การไล่ล่าบนเทือกเขาบรรทัด รอยต่อ 3 จังหวัด ตรัง-พัทลุง-สตูล ด้าน รักษาราชการแทน ผบช.ภ.9 ยันยังไม่วิสามัญ หลังเสี่ยแป้งยิงฝ่าวงล้อมหนีได้ เชื่อวางแผนมาอย่างดี

ถือเป็นอีกคดีอุกฉกรรจ์ ท้าทายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม กรณี "เสี่ยแป้ง นาโหนด" หรือ นายเชาวลิต ทองด้วง อายุ 37 ปี นักโทษคนสำคัญที่มีคดีติดตัวยาวเป็นหางว่าว หลบหนีออกจาก รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช หลังแกล้งป่วยทิพย์ โดยคาดว่า ที่เสี่ยแป้งตัดสินใจแหกคุก ก็เพื่อออกมาล้างแค้นผู้เกี่ยวข้องในคดีอย่างน้อย 2 คน ที่เชื่อว่าเป็นเหตุให้แพ้คดี จนต้องโทษจำคุก

"แป้ง นาโหนด" เป็นใคร?

นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ เสี่ยแป้ง ชาว ต.ท่าแค อ.เมือง จ.พัทลุง หากเอ่ยชื่อนี้ในพื้นที่ ไม่มีใครที่ไม่รู้จัก โดยเฉพาะสายนักเลงและสร้างอิทธิพล เขาเป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถชื่อดัง เคยลงเล่นการเมืองท้องถิ่น โดยลงสมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง เมื่อปี 2562 แต่สอบตก ไม่ได้รับเลือก 
นายเชาวลิต หรือ เสี่ยแป้ง นาโหนด นักโทษหลบหนี
เสี่ยแป้ง มีประวัติก่อคดีโชกโชน เริ่มก่อคดีมาตั้งแต่ปี 2550 ทั้งลงมือเอง และให้ลูกน้องลงมือ เขาถูกศาลจังหวัดพัทลุงตัดสินจำคุก 20 ปี 6 เดือน คดีร่วมกับพวก ได้เข้าปล้นผู้ต้องหาจากตำรวจสืบสวน กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 ขณะจับกุมคดียาเสพติด และยังมีคดีเกี่ยวกับความผิดต่อชีวิตชีวิตร่างกาย ความผิดต่อเจ้าพนักงานในการยุติธรรม ยิงเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ อยู่ระหว่างพิจารณาคดี

นอกจากนั้น ยังมีคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาอีกหลายคดี อาทิ

  • คดีสมคบค้ายาเสพติด
  • คดีฟอกเงิน
  • คดีร่วมกันฆ่า เช่น คดีการลอบฆ่า นายอนันต์ คลังจันทร์ อดีตนายก อบจ.นครศรีธรรมราช 

และยังมีคดีความรุนแรงอีกรวม 11 คดี
ย้อนรอย "เสี่ยแป้ง นาโหนด" นักโทษแหกคุกกลาง รพ. สู่การไล่ล่าบนเทือกเขาบรรทัด
มีข้อมูลด้วยว่า เจ้าหน้าที่ ปปง. ได้เข้าอายัดทรัพย์สินของเสี่ยแป้ง ที่นำเอาไปฝากไว้กับพี่สาว มูลค่าสูงถึง 150 ล้านบาท หลังจากเตรียมเงินไว้เป็นทุนลงสมัคร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง 

เสี่ยแป้ง เริ่มถูกจองจำตั้งแต่วันที่ 11 ม.ค.65 ที่เรือนจำจังหวัดพัทลุง ก่อนย้ายมาอยู่ที่เรือนจำความมั่นคงสูง เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เนื่องจากเป็นผู้มีอิทธิพล 

ย้อนรอย "เสี่ยแป้ง นาโหนด" นักโทษแหกคุกกลาง รพ. สู่การไล่ล่าบนเทือกเขาบรรทัด

แกล้งป่วยทิพย์ หลบหนีจาก รพ.


วันที่ 20 ต.ค.66 เสี่ยแป้งถูกเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ คุมตัวมารักษาทันตกรรมตามนัดของแพทย์ แต่เมื่อมาถึง แพทย์ได้เลื่อนนัด เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงคุมตัวกลับ แต่เสี่ยแป้งแกล้งเกิดอาการวูบหมดสติ แพทย์จึงให้เข้ารักษาตัวอยู่ที่ตึกอายุรกรรม ชั้น 6 ที่ขาทั้งสองข้างมีตรวนเหล็กพันธนาการ และเมื่อรักษาตัวบนหอผู้ป่วย ยังมีโซ่ล่ามพันธนาการกับเตียงอีกชั้น

แพทย์จะให้ออกจาก รพ.ในวันที่ 22 ต.ค. เวลา 08.30 น. แต่หลังเที่ยงคืน เสี่ยแป้ง ได้หลบหนีจากเครื่องพันธนาการ 
เสี่ยแป้ง (ในวงกลม) ขณะหลบหนี
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า เสี่ยแป้ง ไขกุญแจ เดินออกมาจากหอผู้ป่วยลงลิฟท์จากชั้น 6 ลงไปชั้นล่างแบบลอยนวล หลังจากทราบเหตุแล้ว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ยังไม่ได้แจ้งตำรวจทันที แต่ล่วงเลยถึง 3 ชั่วโมง หลังจากเกิดเหตุจึงเข้าแจ้ง

ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวได้ให้ข้อมูลว่า การหลบหนีของเสี่ยแป้ง ได้เตรียมการล่วงหน้าหลายวันแล้ว โดยคาดว่าน่าจะออกมาล้างแค้นผู้เกี่ยวข้องในคดีอย่างน้อย 2 คน ที่เชื่อว่าเป็นเหตุให้เสี่ยแป้งแพ้คดี จนต้องโทษจำคุก

เผยขั้นตอนหนี

ตำรวจสอบปากคำสาวรับจ้างเฝ้าไข้ เสี่ยแป้ง

เช้า 23 ต.ค.66 ตำรวจได้สอบปากคำหญิงสาวที่รับจ้างเฝ้าไข้ เสี่ยแป้ง ซึ่งได้ให้การเป็นประโยชน์ ถึงขั้นตอนการเข้าถึงตัวเสี่ยแป้งของลูกน้อง ว่า มีการนำอาวุธปืนและกุญแจ สำหรับไขโซ่ข้อเท้าเข้ามา รวมถึง การประสานงานจ่ายค่าแรงเฝ้าไข้ โดยมีผู้เกี่ยวข้องอีก 3 ราย ได้แก่ นายจีรวุฒิ หรือปอย , นายจักรี หรือบิ๊ก และนางยุวเรศ หรือหมวย 

หญิงสาว ยืนยันว่า เสี่ยแป้ง นำโทรศัพท์มือถือของเธอไปใช้ และประสานงานให้มีการหลบหนี โดยเสี่ยแป้ง บอกว่า หากสำเร็จจะให้ค่าตอบแทนเป็นเงิน 2 แสนบาท และบ้านที่ภูเก็ตอีก 1 หลัง แต่ที่ได้จริงตอนนี้คือเงินเพียง 2 พันบาท ที่นางหมวยโอนให้เท่านั้น

นอกจากนี้ ยังให้ข้อมูลสำคัญกับตำรวจว่า เสี่ยแป้ง ใช้คีมตัดเหล็กตัดกุญแจ โดยทำในผ้าห่มเมื่อคืนวันที่ 20 ต.ค. แล้ว 1 ครั้ง แต่ไม่สำเร็จ วันรุ่งขึ้นได้แจ้งผู้คุมขอเปลี่ยนโซ่ ปรากฏว่า ผู้คุมนำโซ่มาเปลี่ยนให้ มีการพันธนาการแบบหลวมมาก

กระทั่งดึกคืนวันที่ 21 ต.ค. นายปอย ซึ่งมาเฝ้าเสี่ยแป้งอยู่ด้วย โดยทำเนียนปะปนกับญาติคนอื่นๆ ได้ลงไปรับกุญแจจากนายบิ๊ก ด้านล่าง แล้วนำมาส่งให้ หลังจากนั้น เสี่ยแป้งได้ใช้ผ้าห่มคลุมทับ ไขกุญแจจนสำเร็จ แล้วไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเดินลงไปด้านล่างหนีหายไป ส่วนหญิงสาวที่รับจ้างเฝ้าไข้ ด้วยความตกใจยังอยู่ด้านบน จนกระทั่ง เจ้าหน้าที่ทราบเรื่อง 
ย้อนรอย "เสี่ยแป้ง นาโหนด" นักโทษแหกคุกกลาง รพ. สู่การไล่ล่าบนเทือกเขาบรรทัด
เบื้องต้น ตำรวจพบว่า มีผู้เกี่ยวข้องไม่ต่ำกว่า 4 คน ที่คอยช่วยเหลือเสี่ยแป้งหลบหนี ใช้รถยนต์อย่างน้อย 2 คัน และมีข้อมูลด้วยว่า ตลอดเวลาที่นอนอยู่ในหอผู้ป่วย เสี่ยแป้งได้รับปืนขนาด 9 มม.จากลูกน้องซ่อนติดตัวอยู่ตลอดเวลาด้วย 

ผบ.ตร. ส่งทีม "กองปราบ" ลงพื้นที่ไล่ล่า 

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.
หลังเสี่ยแป้งหลบหนีออกจาก รพ. ทาง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ ตำรวจภูธรภาค 8 เร่งรัดติดตามจับกุมนักโทษชายรายนี้โดยด่วน พร้อมสั่งให้ตำรวจกองปราบปรามเข้าสนับสนุนการปฏิบัติ ร่วมกับตำรวจพื้นที่ พร้อมกำชับ ให้ใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากเสี่ยแป้ง ถือเป็นผู้ต้องหาสำคัญ มีประวัติโชกโชน เคยยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาแล้ว

จากที่กองปราบปราม ประสานงานกับตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช และ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 8 (บก.สส.ภาค 8) เชื่อว่า เสี่ยแป้งหลบหนีไปได้ไม่ไกล และอาจหลบหนีเข้ามาในเขตอิทธิพลเดิมในพื้นที่ จ.พัทลุง ซึ่งยังมีลูกน้องเก่าคอยให้ความช่วยเหลืออยู่ด้วย


"เสี่ยแป้ง" สับขาหลอกตำรวจ ลวงหนีออกประเทศ

รถต้องสงสัยพา "เสี่ยแป้ง" หนี
การไล่ล่า เสี่ยแป้ง อย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางเบาะแสมากมาย ทั้งการพบยานพาหนะ ที่ระบุว่านำ เสี่ยแป้ง หลบหนีไปจอดที่ด่านพรมแดน ทำให้มีการคาดการณ์ว่า น่าจะหลบออกนอกประเทศไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม ตำรวจสืบสวนภาค 9 เชื่อว่า เสี่ยแป้ง ยังไม่ได้หลบหนีออกนอกประเทศ และเชื่อว่า หากมีการพบรถยนต์ ที่บริเวณตะเข็บชายแดน อาจเป็นแผนของทีมงานเสี่ยแป้ง ที่ต้องการลวงให้เจ้าหน้าที่ หยุดการไล่ล่าชั่วคราว โดยเจ้าหน้าที่เชื่อว่านักโทษชายคนนี้ ยังกบดานในพื้นที่ประเทศไทย

ตร.ตีวงแคบ จำกัดพื้นที่ล่าตัว "เสี่ยแป้ง" กับพวก

25 ต.ค.66 ปฏิบัติการไล่ล่าตัว เสี่ยแป้ง ยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ตำรวจภูธรภาค 9 และตำรวจภูธรภาค 8 กับตำรวจกองปราบ ได้แบ่งงานวางแผนตีวงแคบ จำกัดพื้นที่เป้าหมาย ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น 

หลังจากเจ้าหน้าที่ได้เบาะแสความเคลื่อนไหวของกลุ่มเสี่ยแป้ง ที่ขณะนั้นคาดว่า จะมีอาวุธปืนยาวร้ายแรงอยู่ในครอบครอง และพร้อมปะทะกับเจ้าหน้าที่ หากมีการเข้าบุกในพื้นที่แหล่งกบดาน ทางตำรวจจึงจะใช้ชุดปฏิบัติการพิเศษของตำรวจภูธรภาค 9 และภาค 8  ในการเข้าไล่ล่า ขณะที่ตำรวจกองปราบ จะใช้ระบบเทคโนโลยีในการค้นหา 

เจ้าหน้าที่ติดตามตัวเสี่ยแป้ง
สำหรับพื้นที่ที่พร้อมไล่ล่า คาดว่าเป็นพื้นที่ของ ต.บ้านนา อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง ซึ่งเป็นแนวเขตป่ารักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด 

ด้านคดีเสี่ยแป้งหลบหนีจากการคุมตัว ทางตำรวจได้ขอศาลอนุมัติหมายจับ กลุ่มบุคคล และสมุนของเสี่ยแป้ง ที่ให้ความช่วยเหลือ รวม 8 คน จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้แล้ว 7 คน ยกเว้น เสี่ยแป้ง ที่กำลังหลบหนีอยู่ 

คุมตัวคนส่งเสบียงได้ 

8 พ.ย.66 มีรายงานว่า ตำรวจสามารถควบคุมตัวชาวพัทลุงคนหนึ่ง มาสอบสวน หลังเดินลงจากป่าเพื่อหาเสบียง โดยเป็นคนนำพาเสี่ยแป้ง ขึ้นไปส่งบนภูเขา เทือกเขาบรรทัด ทำให้ได้ข้อมูลยืนยันว่า เสี่ยแป้ง หลบหนีอยู่ทางทิศตะวันออก ของเทือกเขาบรรทัด ในพื้นที่ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง รอยต่อ อ.ตะโหมด จ.พัทลุง พร้อมอาวุธปืน 3 กระบอก และคนติดตาม 

จากการสอบสวน ชาวพัทลุงคนดังกล่าว ยอมรับว่า ลงมาหาเสบียงให้เสี่ยแป้ง โดยนัดกับเสี่ยแป้งในวันที่ 8 พ.ย.66 ช่วงตอนสาย ทำให้ตำรวจมั่นใจ จึงออกไล่ล่าติดตามตัวบนยอดเขา

ขณะเดียวกัน ก่อนหน้านี้ ตำรวจได้ควบคุมตัว ชายวัย 25 ปี ชาว จ.ตรัง หลังได้รับบาดเจ็บ จากการตัดไม้ฟืนเพื่อหุงข้าว ในป่าเขาบรรทัด แล้วเดินลงจากเขาเพื่อรักษาตัว ที่รพ.พัทลุง โดยบอกแพทย์ว่า หนีตำรวจมา จึงได้รับบาดเจ็บ ก่อนตำรวจเข้าควบคุมตัว สอบถาม และจัดเจ้าหน้าที่ เพื่อดูแลไม่ให้หลบหนีออกจาก รพ.

ดวลสนั่นเทือกเขาบรรทัด ยันยังไม่วิสามัญ "เสี่ยแป้ง"

ย้อนรอย "เสี่ยแป้ง นาโหนด" นักโทษแหกคุกกลาง รพ. สู่การไล่ล่าบนเทือกเขาบรรทัด
วันเดียวกัน ตำรวจเข้าตรึงพื้นที่รอยต่อเขาบรรทัดเชื่อม 3 จังหวัด ตรัง-พัทลุง-สตูล ระหว่างนั้น มีกระแสข่าวว่า เสี่ยแป้งถูกวิสามัญ เรื่องนี้ พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี รักษาราชการแทน ผบช.ภ.9 ระบุว่า ณ เวลานี้ (ช่วงค่ำ 8 พ.ย.) ยังไม่ได้รับรายงานว่า มีการวิสามัญเสี่ยเเป้ง 

เเต่สิ่งที่เจ้าหน้าที่พบ คือ ที่พักพิงชั่วคราวใกล้บ้านในตระ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง โดยพบว่ามีการเตรียมการมาล่วงหน้า เพราะที่พักชั่วคราวเจอเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ภายหลังเจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมพื้นที่ เสี่ยเเป้ง ได้ยิงสวนออกมา ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องยิงตอบโต้ 
ย้อนรอย "เสี่ยแป้ง นาโหนด" นักโทษแหกคุกกลาง รพ. สู่การไล่ล่าบนเทือกเขาบรรทัด
ย้อนรอย "เสี่ยแป้ง นาโหนด" นักโทษแหกคุกกลาง รพ. สู่การไล่ล่าบนเทือกเขาบรรทัด
จากนั้น เสี่ยแป้ง ได้มีการยิงฝ่าวงล้อมหลบหนีเข้าไปในป่า เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบ และยึดอาวุธปืนสงครามได้ จำนวน 1 กระบอก 

พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ ระบุด้วยว่า เท่าที่ทราบ เบื้องต้นคาดว่า เสี่ยเเป้ง วางเเผนการหลบหนีเอาไว้ค่อนข้างดี กรณีหากมีการติดตามตัวพบ และต้องล่าถอยไปยังพื้นที่อื่น ยอมรับว่า อุปสรรคสำคัญของการติดตามคือ เทือกเขาบรรทัดในเขตรอยต่อ 3 จังหวัด ตรัง พัทลุง สตูล มีเนื้อที่กว้างกว่า 100 ตารางกิโลเมตร ทำให้มีเส้นทางการหลบหนีได้หลายทาง

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : คมชัดลึก